ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งที่ราบสูง ภาคอีสานเลยอุดมไปด้วยภูผาและเทือกเขาน้อยใหญ่ ท่ามกลางผืนป่าอันเขียวขจี ผสานด้วยวัฒนธรรมที่น่าตื่นตา หนาวนี้หากใครกำลังมองหาแหล่งท่องเที่ยวรับลมหนาว จุดชมวิวสวยๆ ไว้ทอดสายตาจากมุมสูง ตามมากันเลยกับ 5 พิกัดจุดชมวิวภาคอีสาน 1.อุทยานแห่งชาติภูกระดึง สำหรับนักเดินทางขาลุย ยอดภูกระดึง คงเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ต้องมาเช็คอินซักครั้งในชีวิต เพราะความท้าทายของระยะเดินเท้าขึ้นเขากว่า 9 กิโลเมตร ซึ่งใช้เวลา 4-6 ชั่วโมงในการไต่ระดับขึ้นไปจนถึงยอดภู แต่ความสวยงามของป่าสนและธารน้ำตกบนนั้นก็ตอบแทนหยาดเหงื่อของนักเดินทางอย่างคุ้มค่า โดยจุดชมวิวที่กลายเป็นภาพจำของภูกระดึงนั่นคือ ผาหล่มสัก ที่มีชะง่อนหินยื่นออกไปกับกิ่งสน มุมถ่ายภาพสุดฮิตที่ใครก็ต้องมาต่อคิวรอเวลาพระอาทิตย์ลับฟ้า นอกจากนี้ก็ยังมีผานกแอ่น ซึ่งเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นซึ่งแทบทุกคนที่ขึ้นมาบนภูกระดึงจะต้องตื่นมารับอรุณด้วยกัน ที่ตั้ง : ต.ศรีฐาน อ.ภูกระดึง จ.เลย เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เดินขึ้นลงภู 07:00–14:00 น. ทุกวัน ระหว่างเดือนตุลาคม-พฤษภาคม 2.อุทยานแห่งชาติภูเรือ ใครที่อยากสัมผัสอากาศ “หนาวสุดแดนสยาม” จนถึงขั้นเห็นแม่คะนิ้ง ต้องมาที่นี่ จุดชมวิวที่รู้จักกันดีคือ ผาโหล่นน้อย ซึ่งเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม และหากเดินขึ้นเขาไปอีกประมาณ 700 เมตร จะพบกับ ยอดภูเรือ ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,365 เมตร เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทั้งแม่น้ำเหืองและแม่น้ำโขง ซึ่งกั้นระหว่างพรมแดนไทย-ลาว นอกจากจะได้ชมแสงสาดกระทบยอดเขาอย่างงดงามแล้ว บนนี้ยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปนาวาบรรพต มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติชมดอกไม้ป่าช่วงหน้าหนาว และบริการลานกางเต๊นท์อีกด้วย ที่ตั้ง : ต.หนองบัว อ.ภูเรือ จ.เลย เวลาเปิด-ปิด : 05:30–20:00 น. ทุกวัน 3.ภูป่าเปาะ เป็นจุดชมวิวที่สามารถมาได้ทั้งวัน โดยไฮไลท์อยู่ที่วิว “ภูหอ” หรือเรียกเก๋ๆ ว่า “ฟูจิเมืองเลย” ซึ่งถือเป็นวิวที่ใครต่างก็ตั้งใจนั่งรถอีแต๊กชาวบ้านขึ้นมาชมกัน ลักษณะเป็นภูเขายอดตัดราบ มองไกลๆ คล้ายชามคว่ำดูแปลกตา จนมีคนเชื่อมโยงว่าเหมือนภูเขาไฟฟูจิที่ญี่ปุ่นเพียงแต่ไม่มีหิมะปกคลุมเท่านั้นเอง บนยอดภูป่าเปาะมีจุดชมวิวเตรียมไว้ให้ถึง 4 จุด โดยจุดชมวิวที่อยู่สูงสุดจะสามารถมองเห็นวิวได้รอบตัว 360 องศา เรียกว่าจะมารอพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมสายหมอก หรือจะมาชมพระอาทิตย์ตกสุดโรแมนติกก็ได้ ทิวทัศน์ที่เห็นก็สวยงามแตกต่างไปในแต่ละฤดูกาล สามารถมาเที่ยวได้ทั้งปี ที่ตั้ง : ต.ปวนพุ อ.หนองหิน จ.เลย เวลาเปิด-ปิด : 05:00–18:00 น. ทุกวัน 4.จุดชมวิววัดผาตากเสื้อ เป็นจุดชมวิวสกายวอล์กทรงเกือกม้ายาว 16 เมตร ที่สามารถเดินออกไปชมวิวพาโนรามาน่าตื่นตาของแม่น้ำโขงกว้างใหญ่ไกลถึงฝั่งสปป.ลาว ประเทศเพื่อนบ้าน แถมในช่วงน้ำลดยังสามารถมองเห็นสันทรายเป็นคลื่นคล้ายเกล็ดพญานาคจากระยะไกลด้วย ส่วนใครที่อยากมาสัมผัสทะเลหมอกจะต้องมาเช้าหน่อย โดยเฉพาะช่วงหลังคืนฝนตกและฤดูหนาวที่หมอกจะลอยตัวคลุมเหนือพื้นด้านล่างจนมิด กลายเป็นวิวสุดอลังการราวกับยืนอยู่เหนือปุยเมฆก็ไม่ปาน ชมวิวแล้วก็อย่าลืมเดินขึ้นบันไดนาคไปสักการะพระประธานบนพระอุโบสถของวัด พร้อมกับทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคล ที่ตั้ง : ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย เวลาเปิด-ปิด : 09:30–16:30 น. ทุกวัน 5.ภูห้วยอีสัน ป็นจุดชมวิวลำน้ำโขงที่หลายคนอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นชื่อนัก จุดนี้อยู่บนเนินเขาเล็กๆ ที่สามารถชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกได้อย่างสวยงามอีกแห่งหนึ่งของจ.หนองคาย เมื่อนั่งรถอีแต๋นที่จัดไว้บริการนักท่องเที่ยวขึ้นมาถึงจุดชมวิวสูงสุด จะมองเห็นทั้งบ้านเรือนในอ.สังคม จ.หนองคาย ลำน้ำโขง และเกาะแก่ง ที่คั่นระหว่างชายแดนไทย-ลาว พร้อมด้วยเทือกเขาสลับซับซ้อนเป็นฉากหลัง ความงดงามอยู่ที่เวลาพระอาทิตย์เริ่มสาดกระทบสายหมอกและลำน้ำโขง บรรยากาศทุ่งหญ้ารอบตัวจะทาไปด้วยสีส้มอุ่นๆ ราวกับอยู่ในความฝัน ช่วงเวลาที่เหมาะสมคือระหว่างเดือนตุลาคม-พฤษภาคม ที่ตั้ง : อ.สังคม จ.หนองคาย เวลาเปิด-ปิด : 05:30–08:00 น. ทุกวัน ขอคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook , Peeranut P.
0 Comments
Leave a Reply. |
AuthorWrite something about yourself. No need to be fancy, just an overview. Archives
January 2021
Categories |