เชียงใหม่ ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในจังหวัดท่องเที่ยวที่ไม่ว่าคุณจะไปบ่อยสักแค่ไหนก็เที่ยวไม่ครบสักที และทริปนี้ก็เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นกับเราเช่นกัน กับการเดินทางมาเชียงใหม่ในครั้งนี้ได้พบกับแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ เปิดมุมมองใหม่ในการท่องเที่ยวให้กับเราอีกครั้ง เริ่มต้นการเดินทางเราแวะไปสักการะไหว้พระกันที่วัดเจดีย์หลวง วัดที่มีความสำคัญมากที่สุดแห่งหนึ่งของดินแดนล้านนาเมืองเชียงใหม่ วัดเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมามาอย่างยาวนาน ซึ่งยังคงหลงเหลือร่องรอยทางประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่งดงามมาจนถึงทุกวันนี้ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เราแนะนำเลยครับหากมาเชียงใหม่ควรแวะมาชม วิจิตรงดงามมากจริงๆ ต่อจากนั้นไปเที่ยวกันต่อที สุภาฟาร์มผึ้ง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธุรกิจที่เข้าร่วมกับโครงการคลัสเตอร์ผึ้งของทางกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เพื่อฝ่าฟันวิกฤติในช่วง COVID-19 และได้ผลตอบรับที่ดีเยี่ยม ภายในสุภาฟาร์มผึ้งนั้นจะเป็นเป็นแหล่งเรียนรู้ในเรื่องของผึ้งมีการสาธิตการเลี้ยงผึ้ง และการหาน้ำผึ้งให้กับนักท่องเที่ยวได้ชมด้วย ถือเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่ได้เข้าใกล้รังผึ้งขนาดนี้ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับทุกคนที่ร่วมเดินทางกันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังสามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์จากผึ้งแท้ๆ ได้จากหน้าฟาร์มเลยด้วย ไม่ว่าจะเป็นนมผึ้ง น้ำผึ้งแท้ สบู่ และต่างๆ อีกมากมาย รับประกันว่าสดใหม่แน่นอน เช้าวันต่อมาเราไปเที่ยวกันต่อที่วัดบ้านเด่น วัดสวยสุดมินิมอลที่มีเจดีย์สีดำเป็นเอกลักษณ์ มีมุมถ่ายรูปสวยๆ ให้ได้เช็กอินกันทั่วบริเวณวัดเลยก็ว่าได้ เงียบสงบและงดงามใครที่ชอบการมาเที่ยววัดไม่ผิดหวังแน่นอน ต่อจากวัดบ้านเด่นก็มาถึงไฮไลท์ของทริปนี้ กับสวนดอกไม้ I love flower farm สวนดอกไม้ที่ได้ชื่อว่าสวยงามและโด่งดังที่สุดของเชียงใหม่ในช่วงนี้ ในช่วงนี้ทางสวนจะมีการปลูกดอกซีโรเซียหรือดอกสร้อยไก่สีแดงสดเอาไว้เป็นแปลงใหญ่ เป็นภาพบรรยากาศที่งดงามมากๆ เหมือนกับอยู่เมืองนอกเลย อีกทั้งยังมีทุ่งดอกมาร์กาเร็ตสีม่วงสดใสอยู่ติดๆ กัน ให้คุณได้เลือกเดินถ่ายภาพกันได้อย่างสบายใจ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมใครๆ ต่างก็มาที่นี่กัน ก็สถานที่จริงสวยงามขนาดนี้จะพลาดได้อย่างไร หากเดินถ่ายภาพกันจนเหนื่อยแล้วทางฟาร์มมีคาเฟ่เล็กๆ ให้บริการด้วย สั่งเครื่องดื่มเย็นๆ แล้วไปนั่งชมวิวสวยๆ กับแปลงดอกไม้นี้บอกเลยว่าฟิน ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook Travel,Peeranut P.
0 Comments
ต้นนางพญาเสือโคร่ง หรือซากุระเมืองไทย กำลังออกดอกสีชมพูที่ภูลมโล อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก นักท่องเที่ยวไม่ผิดหวังแห่ถ่ายภาพเก็บบบรรยากาศสวยงามเป็นที่ระลึก เช้าวันนี้มีนักท่องเที่ยวจากอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตำบลเนินเพิ่ม อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดเลย มาท่องเที่ยวภูลมโล เพื่อสัมผัสอากาศหนาวเย็นและ ชมความสวยงามของดอกนางพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทย ที่กำลังทยอยออกดอกสีชมพูสวยงามเต็มต้น ประมาณ 10 เปอร์เซนต์ ของ พื้นที่ทั้งหมด 1,200 ไร่ นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาในวันนี้ต่างไม่ผิดหวัง เพราะต้นซากุระเมืองไทยที่ภูลมโลออกดอกสีชมพู เบ่งบานจำนวนหลายต้น นักท่องเที่ยวสามารถเลือกหามุมถ่ายภาพได้อย่างสนุกสนาน ท่ามกลางสภาพอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งวัน นักท่องเที่ยวจากกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า หลังจากเดินทางมาในครั้งนี้แล้ว จะเฝ้าติดตามข่าว หากซากุระเมืองไทย บานพร้อมกันทั้งหมด 1,200 ไร่ จนกลายเป็นภูเขาสีชมพูเมื่อไหร่ก็จะเดินทางกลับมาท่องเที่ยวอีก ซึ่งการเดินทางมาท่องเที่ยว ในครั้งนี้ นักท่องเที่ยวได้เลือกใช้บริการนำเที่ยวของชุมชน ที่จัดเตรียมรถและคนขับที่มีความชำนาญพานักท่องเที่ยวมาเที่ยวชม ซากุระเมืองไทยได้อย่างทั่วถึงและปลอดภัย ซึ่งซากุระเมืองไทยที่ภูลมโลจะมีให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวชมจนถึงช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่จะถึงนี้ นอกเหนือจากการท่องเที่ยวชมซากุระเมืองไทยแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถแวะเที่ยวชมความสวยงามของหมู่บ้านบ้านใหม่ร่องกล้า ได้ที่จุดชมวิวซากุระบาน แลนด์มาร์กใหม่ ที่สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับ สมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ โครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริภูหินร่องกล้า ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดพิษณุโลก ร่วมกับชุมชนชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง ได้จัดทำขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่งเที่ยวในหมู่บ้าน และเป็นจุดจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตร ตลาดนัดเด็กดอยในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ได้อีกด้วย ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก :sanook ,Peeranut P.
ที่ลานนับดาวบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติน้ำพอง นักท่องเที่ยวจำนวนมาก ต่างพาครอบครัว เพื่อนสนิทเดินทางมาจับจองสถานที่ เพื่อที่จะกางเต็นท์นอนชมพระอาทิตย์ตกดิน และสัมผัสอากาศเย็นในช่วงเช้าของวันใหม่ ทำให้ลานนับดาวแห่งนี้แน่นไปด้วยนักท่องเที่ยว ทางอุทยานฯ ได้จัดเตรียมเต็นท์ให้นักเท่งเที่ยวได้เช่ามากถึง 100 หลัง เป็นการรอบรับนักท่องเที่ยว รวมทั้งเตาถ่าน ให้นักท่องเที่ยวได้ใช้ในกรปรุงอาหารรับประทาน ซึ่งนักท่องเที่ยว บอกว่า ในช่วงวันหยุดยาว 4 วัน ได้ชักชวนเพื่อนมาเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติน้ำพอง โดยมานอนกางเต็นท์กันเพราะเป็นอีกบรรยากาศ ที่หาได้ไม่ไกลจากตัวเมืองขอนแก่น และการท่องเที่ยวแบบกางเต็นท์นอนกำลังเป็นที่นิยมของชาวจังหวัดขอนแก่น เลยนัดเพื่อนๆออกมากัน ซึ่งบรรยากาศดีมากได้นอนริมน้ำพร้อมกับชมพระอาทิตย์ตกดิน และทำอาหารกินด้วยกัน. ด้านนายอภิเดช หมื่นน้อย หัวหน้าอุทยานแห่งชาติน้ำพอง กล่าวว่า ในช่วงวันหยุดยาวทางอุทยานฯ มีความพร้อมรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาพักผ่อน โดยที่จุดชมวิวหินช้างสีสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้วันละ 1,792 คน โดยขณะนี้ได้เปิดชมวิวใหม่คือ ผากระซิบฮัก ณ หินช้างสี เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ที่ลานนับดาวสามารถรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทาง มากางเต็นท์นอนได้วัน 250 หลัง เพราะเนื่องจากระดับน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ที่มีปริมาณมาก จึงทำให้ลานกางเต็นท์ต้องจำกัดพื้นที่ ขอเชิญนักท่องเที่ยวได้มาพักผ่อนที่อุทยานแห่งชาติน้ำพอง ซึ่งเดินทางไม่ไกลจากตัวเมืองขอนแก่น ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : Sanook Travel,Peeranut P.
นักท่องเที่ยวจำนวนมาก เดินทางมาขอโชคลาภและเลขเด็ดด้วยการกระซิบข้างหู "ไอ้ส้มฉุน" สิ่งศักดิ์สิทธิ์ชื่อดังประจำวัดทรงเสวย จ.ชัยนาท อย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ผ่านมามีผู้ที่มากราบไหว้ขอโชคไอ้ส้มฉุน แล้วถูกสลากกินแบ่งรัฐบาลรวมกันมากว่า 30 งวดติดๆ จนเป็นที่เลื่องลือไปทั่วประเทศอยู่ในขณะนี้ ในวันนี้ จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ ตำนานไอ้สุ้มฉุน ว่ามีความเป็นมาเป็นไปอย่างไร ทำไมถึงได้โด่งดังจนเป็นพลุแตกดั่งเช่นทุกวันนี้ ตำนานไอ้สุ้มฉุน ตามประวัติที่ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าสืบต่อกันมานั้น หลวงปู่คล้อยเจ้าอาวาสองค์แรกของวัดทรงเสวย จ.ชัยนาท มีลูกศิษย์วัดคนโปรดอยุ่คนหนึ่งชื่อว่าเจ้าส้มฉุน เป็นเด็กกำพร้าที่หลวงปู่เก็บมาเลี้ยงไว้ จนอายุ 10 ขวบด้วยความซุกซนส้มฉุนได้แอบไปเล่นน้ำและเป็นตะคริวจนจมน้ำตาย และหลังจากนั้นเมื่อมีใครมาบวชใหม่ที่วัดนนี้ก็มักจะเจอเจ้าส้มฉุนมาช่วยเล่นด้วย ขอขนมกิน หรือดึงขาเวลานอนกันเป็นประจำ จึงได้มีการตั้งศาลและรูปปั้นแทนตัวของเจ้าส้มฉุนเอาไว้ กลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านให้การเคารพนับถือมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งเชื่อกันว่า หากใครอยากมีลูก หรืออยากให้ลูกไม่ดื้อ ฉลาด เลี้ยงง่าย ให้มาขอพรกับเจ้าสมฉุน หรือจะมาขอพร ขอโชค ขอลาภก็ได้เช่นกัน วิธีขอพรกับเจ้าส้มฉุน 1. ซึ่งในการขอพรกับเจ้าส้มฉุนนั้นจะต้องกระซิบข้างหู 2. ถวายอาหารดังนี้ - ขนมไพ่ - น้ำแดง - ช้างปั้น - หนังสติ๊ก - ชุดเสื้อผ้าสีแดง - ขนม ลูกอม ทั้งนี้ข้อมูลทั้งหมดเป็นเพียงความเชื่อและคำบอกกล่าวที่เล่าสืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น นักท่องเที่ยวทุกคนต้องใช้วิจารณญาณในการเข้าไปเที่ยวเยี่ยมชม ไอ้ส้มฉุน แห่งวัดทรงเสวย จ.ชัยนาท แห่งนี้กันนะครับ พิกัดที่ตั้งวัดทรงเสวย จ.ชัยนาท ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : Sanook Travel,Peeranut P.
บรรยากาศที่บริเวณสวนเฉลิมพระเกียรติเหมืองแม่เมาะ ภายในพื้นที่การไฟฟ้าแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะจังหวัดลำปางมีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เดินทางเข้ามาชมความสวยงามของการประดับประดาหลอดไฟ LED ต่างๆ กลางสวนเฉลิมพระเกียรติเหมืองแม่เมาะตั้งแต่บริเวณทางเข้าสวน โดยมีดอกไม้จากหลอดไฟ LED หลายพันหลอดเสมือนการปลูกดอกไม้จริงอยู่กลางสวน เป็นภาพที่สวยงามมาก มีการตกแต่งหลอดไฟต่างๆ รวมแล้วหลายหมื่นดวง ประดับสวยงาม อยู่บริเวณพื้นที่สวนดังกล่าว ซึ่งมีประชาชนจำนวนมากเข้ามาถ่ายรูปกันอย่างคึกคักโดย มีการจัดงานขึ้นในช่วงของตลอดเดือนพฤศจิกายน ในงานเทศกาลท่องเที่ยวแม่เมาะครั้งที่ 16 โดยทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยแม่เมาะลำปาง เชิญชวนนักท่องเที่ยวเข้ามาท้าลมหนาวสัมผัสทะเลหมอกชมทุ่งดอกบัวตองและ สวนดอกไม้จากหลอดไฟ LED และฟังดนตรีในพื้นที่ลานเฉลิมพระเกียรติการไฟฟ้าแม่เมาะลำปาง นอกจากนี้ สถานที่แห่งนี้ ยังมีจุดชมวิวที่มีทิวทัศน์สวยงาม สามารถมองเห็นพื้นที่รอบๆ การทำเหมืองโรงไฟฟ้าแม่เมาะ อย่างชัดเจน มีหอคอยชมวิว สูงเท่าตึก 6 ชั้น ภายในสวนเฉลิมพระเกียรติ เหมืองแม่เมาะที่สามารถชมวิวทิวทัศน์ได้ 360 องศา เป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว ให้เข้ามาเที่ยวชมอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ ส่วน ช่วงกลางวัน ก็จะมี ดอกบัวตอง ที่ปลูกในพื้นที่แห่งนี้มากกว่า 500 ไร่ ที่ตั้งอยู่บนภูเขาเทียม ภูเขาที่เกิดจากการนำดินในบ่อเหมืองลิกไนต์ มาเททิ้งทับถมกันทำเป็นภูเขาสูง โดยสูงจากระดับพื้นดินปกติ 200 เมตร และ ขณะนี้ ดอกบัวตองสีเหลืองจะบานสะพรั่งรับลมหนาว เช่นเดียวกัน อีกด้วย ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : Sanook! Travel,Peeranut P.
ในวันที่ 27-28 พฤศจิกายน 2563 นี้ เตรียมตัวเดินทางจองที่พักกันได้เลย เพราะที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลกจะมีการจัดงาน เทศกาลพลุเมืองพัทยาประจำปี 2563 ขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ตลอดช่วง 2 วันนี้ ชมการแสดงพลุไฟหลายรอบลูกบริเวณชายหาดพัทยา สร้างสีสันความสวยงามให้กับค่ำคืนของเมืองพัทยาอย่างตระการตา โดยในปีนี้สามารถเข้าร่วมชมงานได้ฟรีตลอดทั้งงาน รวมถึงชมฟรีคอนเสิร์ตจากศิลปินชั้นนำของเมืองไทยตลอดทั้งงานเช่นกัน ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook
แนะนำที่เที่ยวหน้าหนาวยอดนิยม ธรรมชาติสวยโดดเด่น เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของใครหลายคน ไม่ว่าจะเป็น ภูกระดึง ภูสอยดาว อุทยานแห่งชาติกุยบุรี และถ้ำมรกต หนาวนี้...การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชวนคนไทยทุกคน “ออกไปช่วยเมืองไทย ออกไปเที่ยวเมืองไทย” ไปขึ้นภูชมทะเลหมอกหน้าหนาว เพราะเป็นช่วงที่แหล่งท่องเที่ยวงดงามที่พลาดไม่ได้ เพราะธรรมชาติได้พักฟื้นอย่างเต็มที่ สดชื่นเหมือนหญิงสาวที่ได้หลับเต็มอิ่มพร้อมให้ผู้คนชื่นชม นอกจากธรรมชาติจะสวยงามยิ่งขึ้นกว่าเดิม ปลายปียังวันหยุดมีเพิ่มขึ้นแล้วนั้น ไม่จำเป็นต้องเบียดเสียดผู้คนเท่าที่เคย เพราะนอกเหนือจากประสบการณ์ท่องเที่ยวสุดอะเมซิ่งที่ได้รับแล้ว เราจะยังภูมิใจที่ได้ออกไปเที่ยว ไปช่วยชาติ ช่วยเหลือผู้ประกอบการ และช่วยกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นอีกด้วย 1. พิชิตยอด 2,102 ภูสอยดาวสุดโหด จ.อุตรดิตถ์ ไม่ต้องแปลกใจที่ “ภูสอยดาว” จะอยู่ในลิสต์แหล่งท่องเที่ยวแนะนำปลายปีแทนที่จะเป็นเที่ยวฤดูฝน เพราะนอกจากทุ่งดอกหงอนนาคกับวิวต้นสนในม่านหมอกบริเวณลานสน (จุดกางเต็นท์) ภูสอยดาวยังมีจุดไฮไลต์ในหน้าหนาวสำหรับขาโหดที่ต้องการพิชิตยอดเขาที่สูงเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศไทย ที่ระดับความสูง 2,102 เมตร การจะพิชิตยอดภูสอยดาวนั้นสามารถขึ้นได้เฉพาะช่วงนี้เท่านั้น เปิดให้ขึ้นเพียง 3 เดือน หลังจากผ่านพ้นฤดูฝนอันเปียกชื้น ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน - มกราคม จากลานสนใช้เวลาเดินไปกลับ 7-8 ชั่วโมง ระยะทางเพียง 3 กิโลเมตร แต่เส้นทางมีความชัน ซึ่งบางจุดชันถึง 90 องศา ต้องมีเจ้าหน้าที่ที่ชำนาญการนำทางเท่านั้น พร้อมอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย เช่น เชือก หมวก และถุงมือ 2. ครั้งหนึ่งที่ภูกระดึง จ.เลย ต้นหนาวแบบนี้ เชื่อว่าสายเดินป่าหลายคนคงคิดถึง “ภูกระดึง” เป็นที่แรก แม้จะไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวใหม่สำหรับหลาย ๆ คน แต่ก็สามารถไปแล้วไปอีกได้เป็นสิบ ๆ ครั้ง เป็นตำนานของการเดินป่า ตำนานของหมูกะทะหลังเดินป่า ตำนานของมิตรภาพที่อาจเริ่มหรือจบ ภูกระดึงเหมือนเป็นจุดตั้งต้นของการเดินป่า เป็นจุดเริ่มต้นของความทรงจำ และอาจเป็นจุดที่อยากส่งต่อประสบการณ์ดี ๆ ให้ผู้อื่นได้มาสัมผัสด้วยตัวเอง ด้วยความที่เส้นทางเดินป่าไม่ยากมาก สามารถชวนเพื่อนหรือครอบครัวมาได้ง่าย มีชุดชมวิวและธรรมชาติหลายจุด ที่พักสะดวกสบาย ทั้งยังสามารถเดินทางเข้าถึงได้ง่าย ไม่ต้องวางแผนเยอะ ขึ้นรถที่ขนส่งตอนกลางคืน ตอนเช้าถึงเลย แวะอาบน้ำ ต่อสองแถวเข้าอุทยาน ไม่แพงไม่ยุ่งยาก มาเมื่อไหร่ก็ได้ขอแค่ใจพร้อม และภูเปิด โดยอุทยานแห่งชาติภูกระดึงเปิดให้ขึ้นระหว่างเดือนตุลาคม - พฤษภาคม ช้างป่า กระทิง วัวแดงในวันที่ผืนป่าเขียวชะอุ่ม กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ สำหรับนักท่องเที่ยวสายสัตว์โลกผู้น่ารัก ชื่นชมกับเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวใหญ่แสนพิศวงแห่งท้องทุ่งเมืองไทย ในช่วงต้นฤดูหนาวนี้ ป่าในเขต “อุทยานแห่งชาติกุยบุรี” จะค่อนข้างอุดมสมบูรณ์เป็นพิเศษ เนื่องจากเพิ่งผ่านพ้นช่วงฤดูฝนมาใหม่ ๆ สัตว์ป่า โดยเฉพาะช้าง กระทิง วัวแดง และอื่น ๆ มักจะออกมาหากินตามแหล่งน้ำและทุ่งหญ้าค่อนข้างมาก สามารถพบเห็นได้ตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึงค่ำ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้ตามเวลาที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรีกำหนด และต้องมีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่เป็นการกระทบสภาพความเป็นอยู่ของสัตว์ป่า หาดทรายขาวในห้องลับ ถ้ำมรกต เกาะมุกต์ จ.ตรัง แม้ “ถ้ำมรกต” จะเป็นสถานที่ที่เป็นที่รู้จักมานานแล้วสำหรับนักท่องเที่ยว แต่ก็ยังมีเสน่ห์เรียกร้องให้ออกไปค้นหาเสมอ กับความลึกลับ ท้าทาย ที่ต้องรอเวลาที่เหมาะสมให้น้ำลด ลอยคอ เกาะเชือก ดำน้ำ มุดผ่านถ้ำมืด ๆ เพื่อจะไปพบกับห้องโถงเล็ก ๆ ที่มีน้ำทะเลสีเขียวมรกต หาดทรายเล็กสีขาว มีป่าและหน้าผาหินปูนสูงชันโอบล้อมเหมือนเป็นห้องลับส่วนตัวที่ไม่อยากให้ใครเห็น โดยถ้ำมรกตนี้นี้ตั้งในเกาะมุกต์ จ.ตรัง ในเขตพื้นที่ความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม โดยเริ่มเปิดให้ท่องเที่ยวหลังฤดูมรสุมตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา นอกจากนั้นยังมี “สะพานหิน เกาะลิบง” ที่เกิดจากหินภูเขาขนาดใหญ่ยื่นลงไปในทะเล และถูกน้ำกัดเซาะจนเว้าแหว่ง เห็นเป็นรูปร่างที่สวยงาม เป็นเหมือนสะพานที่ทำจากหิน โดยด้านบนนักท่องเที่ยวสามารถเดินข้ามไปมาได้ และด้านล่าง มีโพรงขนาดใหญ่มองลงมาเห็นน้ำทะเล ที่กำลังซัดขึ้นฝั่งอย่างสวยงาม เหมาะแก่การถ่ายภาพเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน พร้อมออกไปเที่ยวกันหรือยัง...ให้บรรยากาศที่คิดถึงกลับมา ออกไปเที่ยวเมืองไทย ออกไปช่วยเมืองไทย ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook,การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
วันหยุดเสาร์อาทิตย์นี้หากใครมีแผนจะไปเที่ยวจังหวัดสระบุรี เมืองท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ที่มีทั้งธรรมชาติและศิลปะวัฒนธรรมอันสวยงาม อย่าลืมแวะไปสักการะพระมหาเจดีย์ 500 ยอด วัดป่าสว่างบุญ แหล่งท่องเที่ยวสุดอันซีนของจังหวัดสระบุรีกันครับ พระมหาเจดีย์นี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2528 โดยหลวงพ่อสมชายปุญญมโน ด้านในพระมหาเจดีย์นี้ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ 84,000 องค์ มีองค์เจดีย์ประธานอยู่ตรงกลางและมีองค์เจดีย์บริวารล้อมรอบ 9 ชั้นถึง 500 เจดีย์ด้วยกัน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากของจังหวัดสระบุรี ทั้งในด้านของความศักดิ์สิทธิ์และในด้านความสวยงามพุทธศิลป์ เรียกได้ว่าเป็นศิลปะที่มีเพียงแห่งเดียวในโลกเลยก็ว่าได้สำหรับพระมหาเจดีย์ 500 ยอดแห่งนี้ ระหว่างเที่ยวอย่าลืมแวะไปไหว้สักการะกันได้ครับ ด้านในจะเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมที่เงียบสงบและมีวัตถุมงคลอีกมากมายภายในวัด มาวัดนี้ได้ทั้งความเป็นสิริมงคล และรูปภาพสวยๆ เก็บไว้เป็นความทรงจำอย่างแน่นอน ข้อมูลเพิ่มเติม
- ที่ตั้งวัดป่าสว่างบุญ : ซอย คลองไผ่ ตำบล ชะอม อำเภอแก่งคอย สระบุรี - เวลาเปิด - ปิด : 6.00 -18.00 น. ขอบคุณข้อมูลแะภาพประกอบจาก : sanook ,Peeranut P. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยชวนเที่ยวงาน “มหัศจรรย์งานแสดงช้างสุรินทร์ ประจำปี 2563 ครั้งที่ 60 และงานเลี้ยงอาหารช้างที่ยิ่งใหญ่ของโลก” จังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ หน่วยงานภาครัฐ/เอกชน และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กำหนดจัดงาน “งานแสดงช้างสุรินทร์” ประจำปี 2563 ครั้งที่ 60 จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 12-23 พฤศจิกายน 2563 และชมการแสดงช้างในวันที่ 21-22 พฤศจิกายน 2563 บริเวณสนามแสดงช้างจังหวัดสุรินทร์ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสุรินทร์ และวัฒนธรรมประเพณี เสริมสร้างความเป็นชาวสุรินทร์ โดยในปีนี้มีการจัดฉากการแสดงที่สมจริงยิ่งใหญ่ นางสาวธมลวรรณ เจริญวงศ์พิสิฐ ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานสุรินทร์ กล่าวว่า"งานแสดงช้างสุรินทร์ประจำปี 2563 ปีนี้จัดเป็นครั้งที่ 60 เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองจังหวัดสุรินทร์และจังหวัดใกล้เคียง และร่วมอนุรักษ์วิถีชีวิตคนกับช้างจังหวัดสุรินทร์ที่มีความผูกพันกันมาช้านาน โดยมีกิจกรรมที่สำคัญและยิ่งใหญ่ ดังนี้ วันที่ 19 พ.ย. เวลา 08.00 น. ซ้อมใหญ่งานแสดงช้าง ณ สนามแสดงช้าง เวลา 18.30 น. การประกวดรถอาหารช้างบริเวณหน้าอนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง วันที่ 20 พ.ย. เวลา 08.00 น. งานต้อนรับและเลี้ยงอาหารช้าง บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง ซึ่งเป็นการจัดโต๊ะจีนเลี้ยงหารช้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก ความยาวกว่า 400 เมตร ช้างเข้าร่วมกว่า 250 เชือก วันที่ 20 -21 พ.ย. เวลา 19.30 น. ชมงานแสดง แสง สี เสียง ณ บริเวณปราสาทศีขรภูมิ อ.ศีขรภูมิ วันที่ 21-22 พ.ย. เวลา เวลา 08.00 น. การแสดงช้าง ณ สนามแสดงช้างจังหวัดสุรินทร์ จำนวน 9 ฉากหรือ 9 องก์ และ เวลา 18.00 น. ชมงาน Light & Sound Elephant Show ราคาบัตรเข้าชมการแสดงของช้างจังหวัดสุรินทร์แบ่งออกเป็นดังนี้ - วันซ้อมใหญ่ วันที่ 19 พฤศจิกายน 2563 เข้าชมฟรี ทุกที่นั่ง - วันแสดงจริง วันที่ 21 - 22 พฤศจิกายน 2563 บัตรราคา 500, 300 บาท - งาน Light & Sound Elephant Showบัตรราคา 200 บาท การแสดง แสง สี เสียง ณ ปราสาทศีขรภูมิ ในวันที่ 20-21 พฤศจิกายน 2563 ข้อมูลเพิ่มเติม
- โทร. 044-512039 สำนักงานจังหวัดสุรินทร์ - โทร.044-561243 เทศบาลตำบลระแงง - ติดต่อจองบัตร และซื้อบัตรได้ที่สำนักงานจังหวัดสุรินทร์ - สามารถโอนเงินได้ที่ชื่อบัญชี งานแสดงช้างสุรินทร์ บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 310-0-71191-2 ธนาคารกรุงไทย จำกัดสาขาสุรินทร์ ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook, Peeranut P. ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ออกมาประกาศผ่านทาง Facebook ของ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย ว่า จะกลับมาเปิดให้บริการรถไฟลอยน้ำเส้นทาง กรุงเทพฯ - เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ อีกครั้งต้อนรับฤดูกาลท่องเที่ยวในช่วงเดือนพฤศจิกายนโดยจะเริ่มเปิดจำหน่ายตั๋ววันแรก 5 พฤศจิกายนนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดเดินขบวนรถพิเศษนำเที่ยว พานั่งรถไฟลอยน้ำต้อนรับฤดูกาลท่องเที่ยว เส้นทาง กรุงเทพ – เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ วันเสาร์-อาทิตย์ ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2563 – มกราคม 2564 เริ่มเปิด พร้อมให้บริการเที่ยวแรก 14 พฤศจิกายน 2563 จองตั๋วได้ที่สถานีรถไฟทั่วประเทศ วันที่ 5 พฤศจิกายน 2563 นางสาวมณฑกาญจน์ ศรีวิลาศ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ รักษาการแทน ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในฤดูกาลการท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ที่กำลังมาถึงในปีนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้จัดเดินขบวนรถพิเศษนำเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เส้นทาง กรุงเทพ – เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ – กรุงเทพ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว ให้เดินทางไปสัมผัสเส้นทางท่องเที่ยวรถไฟลอยน้ำหนึ่งเดียวของเมืองไทย ท่ามกลางบรรยากาศที่โอบล้อมด้วยผืนน้ำและผืนป่าเขียวชอุ่มสองข้างทาง แบบไปเช้าเย็นกลับ วันเสาร์ - อาทิตย์ ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2563 – มกราคม 2564 ทั้งนี้รถพิเศษนำเที่ยวเขื่อนป่าสัก เที่ยวแรกเปิดให้บริการในวันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2563 และจะมีการให้บริการในวันที่ 14, 15, 21, 22, 28, 29 พฤศจิกายน 2563 วันที่ 6, 12, 13, 19, 20 ธันวาคม 2563 และวันที่ 9, 10, 16, 17, 23, 24, 30, 31 มกราคม 2564 รวมจำนวน 19 วัน ตารางเวลาเดินรถ เที่ยวไป ขบวนรถออกจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เวลา 07.10 น. จากนั้นหยุดรับ-ส่ง ผู้โดยสารตามสถานีต่างๆ คือ สามเสน บางซื่อ บางเขน หลักสี่ ดอนเมือง รังสิต อยุธยา สระบุรี แก่งคอย แก่งเสือเต้น ถึงจุดชมวิว“รถไฟลอยน้ำ”กลางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ขบวนรถจะหยุดกลางสันเขื่อนมีเวลาให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมดื่มด่ำกับความงดงาม ตื่นตาตื่นใจประมาณ 30 นาที และเดินทางต่อไปที่สถานีโคกสลุง มีเวลาให้นักท่องเที่ยว ถ่ายภาพ ซื้อสินค้ากลุ่มชุมชนท้องถิ่น อีกประมาณ 30 นาที จากนั้นขบวนรถจะพานักท่องเที่ยวมาที่ตัวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เวลา 11.42 น. นักท่องเที่ยวสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามอัธยาศัย ไม่ว่าจะเป็นรับประทานอาหารกลางวันจากร้านค้าของกลุ่มชุมชนท้องถิ่น เพลิดเพลินกับกิจกรรมการแสดงวิถีชีวิตของชุมชนไทยเบิ้ง การแสดง และจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง OTOP นั่งรถตัวหนอนชมบรรยากาศบริเวณสันเขื่อนฯ ไปสักการะพระใหญ่ อำเภอวังม่วง จังหวัดสระบุรี หรือเข้าชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ โดยขบวนรถไฟเที่ยวกลับ ออกจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เวลา 15.30 น. และจะถึงสถานีกรุงเทพ เวลา 18.50 น. นางสาวมณฑกาญจน์กล่าวว่า การรถไฟฯ อำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว โดยจัดรถนั่ง ชั้น 3 ธรรมดา และชั้น 2 ปรับอากาศ ส่วนค่าโดยสารเด็ก และผู้ใหญ่ราคาเดียวกัน ตามรายละเอียดดังนี้ 1.ค่าโดยสารอัตราพิเศษรถนั่งชั้น 3 ธรรมดา (พัดลม)* กรุงเทพ – เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ – กรุงเทพ คนละ 290 บาท ไป-กลับ* สระบุรี/แก่งคอย - โคกสลุง คนละ 110 บาท ไป-กลับ* แก่งเสือเต้น/เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ – โคกสลุง คนละ 60 บาท ไป-กลับ* เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ – กรุงเทพ คนละ 150 บาท เที่ยวกลับเที่ยวเดียว 2.ค่าโดยสารอัตราพิเศษรถนั่งชั้น 2 (ปรับอากาศ)* กรุงเทพ – เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ – กรุงเทพ คนละ 490 บาท ไป-กลับ* สระบุรี/แก่งคอย - โคกสลุง คนละ 220 บาท* เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ – กรุงเทพ คนละ 250 บาท เที่ยวกลับเที่ยวเดียว “ผู้สนใจสามารถติดต่อซื้อตั๋วโดยสารล่วงหน้าได้ก่อนเดินทางล่วงหน้าได้ 30 วัน ที่สถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเว็บไซต์ www.railway.co.th หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย” ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook ,Peeranut P.
|
AuthorWrite something about yourself. No need to be fancy, just an overview. Archives
January 2021
Categories |