ลืมไปเลยว่าเคยเก่า กับรถไฟไปเชียงใหม่ (ขบวนใหม่ล่าสุด) ที่มีมูลค่านับสิบล้านบาท...ที่ติดตั้งเสร็จเรียบร้อย และพร้อมให้บริการ โดยจะเปิดให้บริการเดินรถไฟโดยสารรุ่นใหม่ใน 4 เส้นทาง คือ เส้นทาง “อุตราวิถี” กรุงเทพ-เชียงใหม่-กรุงเทพ และเส้นทาง “อีสานวัตนา” กรุงเทพ-อุบลราชธานี-กรุงเทพ ขณะที่เส้นทาง “อีสานมรรคา” กรุงเทพ-หนองคาย-กรุงเทพ และเส้นทาง “ทักษิณารัถย์” กรุงเทพ-หาดใหญ่-กรุงเทพ เปิดให้บริการครบแล้วโดยเริ่มให้จองตั๋วโดยสารแล้ว ตั้งแต่บัดนี้ ด้านในของตู้โดยสาร ถูกตกแต่งไว้อย่างเรียบหรู และใช้โทนสีสบายตา ความพิเศษที่ทุกคนจะได้รับบนขบวนรถไฟไปเชียงใหม่นี้ คือ - ให้บริการรถนอนชั้น 1 และ ชั้น 2 - ใช้ห้องน้ำแบบระบบสุญญากาศเหมือนบนเครื่องบิน - ไร้เสียงรบกวน และมีระบบกันสะเทือนแบบรถไฟความเร็วสูง - มี Wifi ฟรี เฉพาะชั้น 1 และ บกขป - มีระบบทีวีแจ้งเตือนสำหรับชั้น 2 - มีปลั๊กไฟ บริการทุกที่นอน - สิ่งอำนวยความสะดวก สำหรับ ชั้น 1 ได้แก่ ห้องอาบน้ำ, จอทีวี ทุกที่นั่ง ผู้ใช้บริการสามารถสั่งอาหารจากทีวีมาทานในห้องได้ - มีรถเสบียงปรับอากาศบริการ (ค่าอาหารไม่รวมในค่าโดยสาร) - มีกล้องวงจรปิด 4 ตัว / ตู้ - มีรถสำหรับผู้พิการ - ใช้ข้อต่อแบบใหม่สามารถเดินทะลุได้ทั้งขบวน ประตูแบบสัมผัสเพื่อเปิดระหว่างตู้ ข้อต่อสนิทแบบรถไฟฟ้า BTS - รถเสบียงปรับอากาศบริการ ทั้งนี้ การให้บริการรถไฟโดยสารรุ่นใหม่ใน 4 เส้นทาง จะนำมาให้บริการเดินรถทดแทนรถโดยสารปัจจุบัน ตามตารางเวลาเดินรถเดิม 3 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางกรุงเทพ-เชียงใหม่-กรุงเทพ เส้นทางกรุงเทพ-หนองคาย-กรุงเทพ และเส้นทางกรุงเทพ-หาดใหญ่-กรุงเทพ ยกเว้นเส้นทางกรุงเทพ-อุบลราชธานี-กรุงเทพ ที่จะเปิดให้บริการทั้งขบวนรถโดยสารใหม่และขบวนรถปัจจุบันควบคู่กัน แต่จะให้ขบวนรถไฟใหม่เดินรถทดแทนเวลาเดิมของรถปัจจุบัน ขณะที่ขบวนรถไฟปัจจุบันจะมีการขยับเวลาการให้บริการที่เหมาะสมต่อไป สำหรับรายละเอียดตารางเวลาเดินรถประจำวันของรถไฟโดยสารรุ่นใหม่ ประกอบด้วย - ขบวน 9 รถไฟด่วนพิเศษอุตราวิถีเส้นทางกรุงเทพ–เชียงใหม่ออกเวลา 18.10 น.ถึงเวลา 07.15 น. - ขบวน 10 รถไฟด่วนพิเศษอุตราวิถีเส้นทางเชียงใหม่-กรุงเทพออกเวลา 18.00 น.ถึงเวลา 06.50 น. - ขบวน 23 รถไฟด่วนพิเศษอีสานวัตนาเส้นทางกรุงเทพ-อุบลราชธานีออกเวลา 20.30 น.ถึงเวลา 06.35 น. - ขบวน 24 รถไฟด่วนพิเศษอีสานวัตนาเส้นทางอุบลราชธานี-กรุงเทพออกเวลา 19.00 น.ถึงเวลา 05.16 น. - ขบวน 25 รถไฟด่วนพิเศษอีสานมรรคาเส้นทางกรุงเทพ-หนองคายออกเวลา 20.00 น.ถึงเวลา 06.45 น. - ขบวน 26 รถไฟด่วนพิเศษอีสานมรรคาเส้นทางหนองคาย-กรุงเทพออกเวลา 19.10 น.ถึงเวลา 06.00 น. - ขบวน 31 รถไฟด่วนพิเศษทักษิณารัถย์เส้นทางกรุงเทพ-หาดใหญ่ออกเวลา 14.45 น.ถึงเวลา 06.35 น. - ขบวน 32 รถไฟด่วนพิเศษทักษิณารัถย์เส้นทางหาดใหญ่-กรุงเทพออกเวลา 18.45 น.ถึงเวลา 10.30 น. อัตราค่าโดยสารรถไฟโดยสารรุ่นใหม่ทั้ง 4 เส้นทาง ประกอบด้วย เส้นทางกรุงเทพ-เชียงใหม่-กรุงเทพ รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 2 - เตียงบน 791 บาท - เตียงล่าง 881 บาท รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 1 - เตียงบน 1,253 บาท - เตียงล่าง 1,453 บาท เส้นทางกรุงเทพ-อุบลราชธานี-กรุงเทพ รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 2 - เตียงบน 731 บาท - เตียงล่าง 821 บาท รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 1 - เตียงบน 1,120 บาท - เตียงล่าง 1,320 บาท เส้นทางกรุงเทพ-หนองคาย-กรุงเทพ รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 2 - เตียงบน 748 บาท - เตียงล่าง 838 บาท รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 1 - เตียงบน 1,157 บาท - เตียงล่าง 1,357 บาท เส้นทางกรุงเทพ-หาดใหญ่-กรุงเทพ รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 2 - เตียงบน 855 บาท - เตียงล่าง 945 บาท รถปรับอากาศนั่งและนอนชั้นที่ 1 - เตียงบน 1,394 บาท - เตียงล่าง 1,594 บาท สุดท้ายนี้...มีรถไฟดีๆ ให้ใช้กันแล้ว ก็อย่าลืมดูแลช่วยกันรักษาให้ใหม่อยู่เสมอนะจ๊ะ คนรุ่นหลังๆที่มาใช้บริการจะได้มีความสุขโดยทั่วกัน ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook,สถานีรถไฟพิษณุโลก,ทีม พีอาร์ การรถไฟแห่งประเทศไทย
0 Comments
เที่ยวเพลิน ๆ ในช่วงรอยต่อของฤดูกาล “ปลายฝนต้นหนาว” เวลาแห่งความสุขของการท่องเที่ยว ชมสายหมอกยามเช้า อากาศเย็นสบาย ธรรมชาติจัดเต็ม อากาศที่แสนบริสุทธิ์ เมื่อลมหนาวกำลังจะมา แต่สายฝนก็ยังคงไม่อยากจากไป ฤดูกาลแห่งความสุข การเดินทางที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ และสายหมอก “ปลายฝนต้นหนาว” ฤดูกาลท่องเที่ยวที่หลายคนมักชื่นชอบในการออกเดินทางท่องเที่ยว พักผ่อนในวันหยุด สัมผัสธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด ถ้าพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวในช่วง “ปลายฝนต้นหนาว” แบบนี้ สามารถเที่ยวได้ทุกภาค ครั้งนี้ จึงได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อและน่าไปสัมผัสในช่วงนี้ เริ่มต้นกันที่ “อุทยานแห่งชาติภูกระดึง” สถานที่ท่องเที่ยวทดสอบความฟิตของร่างกาย เมื่อเข้าสู่เดือนตุลาคม ฤดูกาลท่องเที่ยวของที่นี้ได้เริ่มขึ้น กับคำพูดของคนที่เคยมาว่า “ครั้งหนึ่งต้องลองขึ้นมาพิชิตภูกระดึง” เต็มเปี่ยมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามทั้งในตอนกลางวัน และดวงดาวที่เต็มท้องฟ้าในยามค้ำคืน ตื่นเช้ามาชมทะเลหมอก พร้อมมองแสงอรุณยามเช้าที่สวยงามจนต้องร้องว้าว หลีกหนีความวุ่นวาย แล้วไปใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ที่ “อำเภอเชียงคาน” อำเภอท่องเที่ยวที่น่าเอาร่างกายไปปล่อยกันสักคืนสองคืน ของจังหวัดเลย สัมผัสบรรยากาศที่เงียบสงบ เดินผ่อนคลาย ชมความเป็นอยู่ของชุมชน ภายใน “อำเภอเชียงคาน” มากมายไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ อย่างที่ “ภูทอก” จุดชมวิวยามเช้า ชมสายหมอกที่พัดผ่านทิวเขา แสงแรกที่สวยงามขึ้นมาต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มารอรับชมภาพสวย ๆ พร้อมยืนรับลมหนาว ปลุกความสดชื่นในตัวคุณ ไปใช้ชีวิตแบบชิล ชิล ที่ “ดอยแม่สลอง” จุดแวะเที่ยวที่ขึ้นชื่อของจังหวัดเชียงราย เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของชาวจีนฮ่อ แห่งกองพล 93 ด้านบนมีทัศนียภาพที่สวยงาม ชมวิวภูเขาเรียงราย สลับไปมา และมีอากาศที่เย็นสบาย สามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี “ดอยแม่สลอง” นอกจากจะมีทัศนียภาพของธรรมชาติที่สวยงามแล้ว ยังมี “ไร่ชา” มากมายให้ได้มาเดินเล่นสูดอากาศบริสุทธิ์ ปะทะกับสายหมอกในยามเช้า จิบชาหอม ๆ ปลุกความกระปี้กระเปร่าให้พร้อมกับการเริ่มต้นท่องเที่ยว ผ่อนคลายกับบรรยากาศฟิน ฟิน ชมวิวทะเลสาบที่ “หมู่บ้านรักไทย” จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนนาน ปักหลักถิ่นฐานโดยภูเขาล้อมรอบ ชมสายหมอกยามเช้า ไหลผ่านบนทะเลสาบ ได้บรรยากาศที่สุดแสนโรแมนติก ชิมชา ชมวิวเพลิน ๆ อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องมาสัมผัสในช่วงปลายฝนต้นหนาว “เขื่อนรัชชประภา” สถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่ขึ้นชื่อของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ล่องเรือชมบรรยากาศภายในเขื่อน ปล่อยตัว ปล่อยใจ ให้ล่องลอยไปกับบรรยากาศที่เงียบสงบ นอนฟังเสียงฝนพรำ สักคืน ตื่นเช้ามาสัมผัสสายหมอก สูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด ฟอกตัวในวันหยุดพักผ่อน “ปลายฝนต้นหนาว” ถือได้ว่าเป็นการท่องเที่ยวที่จะทำให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศที่สดชื่นและเย็นสบาย ถึงแม้จะเปียก แต่บอกเลยว่าจะสุขใจ ฟินไปกับธรรมชาติ ฟินไปกับบรรยากาศ และฟินไปกับสายหมอก นี่เป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยวแค่ส่วนหนึ่งเพียงเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายสถานที่ รอให้คุณได้ออกไปพบเจอกันอยู่อีกมากมาย ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook,Paapaii
แม่สะเรียง อำเภอหนึ่งของจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่หลายๆ คนมักจะใช้เป็นทางผ่านไปสู่ตัวเมืองแม่ฮ่องสอน แต่หากคุณได้มีโอกาสมานอนพัก มาเที่ยวชม และสำรวจความสวยงามของอำเภอนี้สักครั้งหนึ่งบอกลเยว่าความคิดของคุณจะเปลี่ยนไปตลอดกาล ด้วยสภาพแวดล้อมของตัวเมืองที่ถูกห้อมล้อมไว้ด้วยขุนเขาสลับซับซ้อนไปมา แถมยังมีทุ่งนาสวยๆ ให้เราได้ดื่มด่ำกับความเขียวขจีกันตลอดทาง ทำให้การเดินทางไปมาที่นี่นั้นเพลินตาและสบายใจมากจริงๆ มองไปทางไหนก็เห็นแต่ธรรมชาติ จนรู้สึกอิจฉาคนที่นี่เลย ได้มีธรรมชาติเป็นของตัวเอง ได้เฝ้ามองความสวยงามนี้แทบทุกวัน หากได้มาอยู่ที่นี่บ้างคงจะดีจริงๆ ในอำเภอแม่สะเรียงนั้นเป็นที่ตั้งของ 2 พระธาตุที่มีความสำคัญของจังหวัดแม่ฮ่องสอน นั่นก็คือพระธาตุจอมมอญและพระธาตุจอมกิตติ 2 ใน 4 พระธาตุสี่จอมที่มีความงดงามและยิ่งใหญ่สำหรับชาวแม่ฮ่องสอน (พระธาตุอีก 2 จอมคือ พระธาตุจอมแจ้ง และพระธาตุจอมทอง) พระธาตุจอมมอญ ตั้งอยู่ที่ หมู่บ้านพะมอลอ ในอำเภอแม่สะเรียง เชื่อกันว่าภายในได้บรรจุพระบรมธาตุพระหนุ (ส่วนคาง) และพระอุรังคธาตุ ของพระพุทธเจ้าเอาไว้ ทางขึ้นสู่พระธาตุจอมมอญนั้นจะต้องเดินผ่านบันได 339 ขั้น ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ด้านบนเราจะได้เห็นองค์พระธาตุศิลปะแบบล้านนา สีขาวทั้งองค์ ประดิษฐานอยู่เหนือเมืองแม่สะเรียง จากจุดนี้เราสามารถชมวิวทิวทัศน์ของทุ่งนาและภูเขาได้เป็นมุมกว้างสวยงามมากจริงๆ อีกหนึ่งพระธาตุของเมืองแม่สะเรียงนั่นก็คือพระธาตุจอมกิตติ ตั้งอยู่ที่ ตำบลแม่ยวม เป็นพระธาตุเก่าแก่ที่ชาวแม่ฮ่องสอนนับถือเป็นอย่างมาก องค์พระธาตุมีสีขาวล้วนสลับกับสีทอง ดูสวยสง่างามมาก ตั้งอยู่บนยอดเขาที่สามารถชมวิวจากจุดนี้ได้อย่างสวยงามมาก มีทั้งแม่น้ำลำธาร ป่าไม้ และภูเขา ล้อมรอบเมืองเอาไว้ เป็นภาพความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติได้สร้างสรรค์เอาไว้อย่างลงตัว และนี่ก็คือเส้นทางท่องเที่ยวตามรอยพระธาตุ 2 จอมแห่งเมืองแม่สะเรียง อำเภอที่ไม่ได้มีดีแค่เป็นทางผ่านเท่านั้น ที่นี่ยังมีธรรมชาติที่ยังคงบริสุทธิ์และงดงาม มีวัฒนธรรมประเพณี และศาสนสถานที่ยิ่งใหญ่ เป็นหนึ่งในจุดเช็กอินของแม่ฮ่องสอนที่ไม่ควรพลาด ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook,Peeranut P.
ที่สวนลอยฟ้าสวนนงนุชพัทยา อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา จ.ชลบุรี พร้อมกับผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 4 จังหวัด ได้แก่ นนทบุรี นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรสงคราม โดยมีตัวแทนจากจังหวัดนนทบุรี มีนางณัฐฐิรา แพงคุณ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนนทบุรี นายอุดม โอษฐ์ยิ้มพราย ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครปฐม และผู้แทนจังหวัดสมุทรสงคราม คือ นายทนาดา วิจักขณ รองผู้อำนวยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานจังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งร่วมกันสานต่อโครงการ"เปิดสวรรค์บนดินเที่ยวฟรี 1 เดือน 1 จังหวัด" ซึ่งโครงการนี้สวนนงนุชพัทยา เริ่มโครงการมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2561 จนถึงปัจจุบัน ล่าสุดในเดือนตุลาคม 2562 ถึงคิวทองของพี่น้องชาวจังหวัดนนทบุรี นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เข้าชมสวนฟรีตลอดทั้งเดือน เพียงแค่ยื่นบัตรประชาชนก็สามารถเข้าชมสวนฟรีได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ในระยะเวลา 1 เดือน นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยากล่าวว่า โครงการดังกล่าวยังคงไว้เหมือนเดิม ไม่ว่าจะมีสัญญาณของเศรษฐกิจขาลงก็ตาม เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าที่ให้การอุปการคุณกับสวนนงนุชพัทยาอย่างต่อเนื่อง พร้อมสนองนโยบายรัฐบาลไทยเที่ยวไทย ใช้ของไทย เม็ดเงินหมุนเวียนในเมืองไทยและในท้องถิ่น ไม่รั่วไหลออกนอกประเทศ ซึ่งในปัจจุบันสวนนงนุชพัทยาได้สร้างแหล่งท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ โดยเฉพาะสวนลอยฟ้า สวรรค์บนดิน หนึ่งเดียวในโลก อีกหนึ่งทางเลือกของนักท่องเที่ยว ในการรองรับโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชน ได้เข้ามาเที่ยวชมความแปลกใหม่ที่มีการพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง มีความเปลี่ยนแปลงมากมายเกิดขึ้นภายในสวนนงนุชพัทยา สามารถประชาสัมพันธ์ให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้บอกเล่าสิ่งดีๆในเขตภาคตะวันออกได้อย่างไม่อายใครในโลก และในวันเดียวกันนี้ นายกำพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา ได้เปิดตัวไดโนเสาร์เกรซซิลลีแรปเตอร์ เป็นไดโนเสาร์กินเนื้อวงศ์ตระกูล โดรมิโอซอริด ขนาดเล็กที่อยู่อาศัยในช่วงต้นยุค ครีเทเชียส มันมีขนาด 1 เมตร และมีจุดเด่นที่รูปร่างคล้ายนก มีขนนกปกคลุมทั้งตัว ฟอสซิลของไดโนเสาร์ชนิดนี้ถูกค้นพบในประเทศจีน ช่วงปลาย 2004 เกรซซิลลีแรปเตอร์นั้น ถูกสันนิษฐานว่ามีน้ำหนักตัวทั้งสิ้นเพียงแค่ 1.5 กิโลกรัมเท่านั้น ทำให้มันเป็นไดโนเสาร์ที่น้ำหนักเบาและเข้าใกล้การวิวัฒนาการเป็นนกในปัจจุบันอย่างมาก ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook ,Peeranut P.
มาอำเภออุ้มผาง จังหวัดตากคราวนี้มีจุดหมายอยู่ที่หมู่บ้านอุ้มผางคี ซึ่งตั้งอยู่ค่อนไปทางทิศตะวันออกของตัวอำเภอ หากพิจารณากันอย่างถ้วนถี่แล้วจะพบว่า อำเภออุ้มผางนั้นเป็นเสมือนเมืองหนึ่งในอ้อมกอดของขุนเขายากต่อการเข้าถึง บริเวณโดยรอบประกอบไปด้วยหมู่บ้านของชนเผ่ามากมายหลายหมู่บ้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวปกาเกอะญอที่ได้ดำรงชีวิตอยู่อาศัยกันมายาวนานหลายชั่วอายุคน มีวัฒนธรรมและภาษาเป็นของตนเองโดยส่วนใหญ่สามารถพูดภาษาไทยได้ อาจจะมีบ้างกับผู้สูงอายุที่ไม่มีความเข้าใจในภาษาไทย แต่ทว่าเขาเหล่านั้นมีความเป็นมิตรมีน้ำใจเอื้ออารี รู้จักการให้ รู้สำนึกถึงคุณแผ่นดินถิ่นอาศัย จากตัวอำเภอเราต้องเปลี่ยนพาหนะจากรถตู้ไปเป็นรถกระบะโฟรวิลล์พันโซ่ที่ล้อ หนทางข้างหน้าต้องบุกฝ่าขึ้นไปบนภูเขาสูงบางช่วงเป็นบ่อโคลน สายฝนทำให้เกิดทางน้ำไหลเป็นทางจนบางคนบอกว่าเหมือนดาวอังคารมากกว่าจะเป็นโลกมนุษย์ แต่นี่ก็คือเสน่ห์ของหมู่บ้านอุ้มผางคี ความยากลำบากในการเดินทางเป็นเสมือนปราการขวางกั้นสิ่งที่เรียกว่า ความเจริญ เราทั้ง 10 ชีวิต มาถึงหมู่บ้านอุ้มผางคีในช่วงเวลาเย็นใกล้ค่ำ จากการประสานงานไว้ล่วงหน้า ทำให้คณะของเราได้เข้าพักในบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งมีสภาพคล้ายกับบ้านหลังอื่นๆ ในหมู่บ้าน เจ้าของบ้านให้การต้อนรับด้วยการเชื้อเชิญให้ขึ้นไปบนบ้านพลันรีบรินน้ำฝนใสสะอาดใส่จอกไม้ไผ่หยิบยื่นพร้อมรอยยิ้มให้จนครบทุกคน บ้านไม้เก่าสร้างพออยู่อาศัยไม่ต้องหรูหราน่ารำคาญ ดูเพียงพอแล้วกับการใช้เพื่อดำรงชีวิตอย่างมีความสุข “เช้าเข้าป่าหาผักปลามาเลี้ยงครอบครัว ปล่อยอีพังน้อยเข้าป่าให้มันหาหญ้าไผ่เคี้ยวตามวิถีของมัน เย็นมันก็เดินกลับมาเอง” ปกาเกอะญอหนุ่มใหญ่เจ้าของบ้านเล่าเรียงถึงการดำเนินชีวิตท่ามกลางบ้านป่าแห่งนี้อย่างมีความสุข พลันพูดต่ออย่างอารีว่า “เย็นแล้วคุณๆ ไปอาบน้ำกันเถอะ ที่ริมลำห้วยน้ำเย็นสดชื่นดีมาก ส่วนของผู้ชายจะอยู่ต้นน้ำนะครับ ส่วนของผู้หญิงจะอยู่ท้ายน้ำ แยกกันครับ” ใช่สินะที่หมู่บ้านนี้ยังคงรักษาขนมธรรมเนียมดั้งเดิม ดูเหมือนผู้ชายจะเป็นใหญ่ได้อาบน้ำต้นน้ำ ส่วนผู้หญิงถือว่าเป็นเพศรองจึงได้อาบน้ำที่ไหลรินไปทางด้านใต้ลงไป หรือว่านี่คือกุศโลบายอะไรบางอย่าง? ที่ปกติหญิงสาวทั่วไปในบางวันของเดือนอาจจะทำให้ผู้ชายไม่สะดวกใจในการจะได้ชำระล้างร่างกายจากน้ำที่ไหลผ่านเรือนร่างของพวกเธอ เวลาพลบค่ำเดินทางมาถึงพร้อมๆ กับอากาศหนาว หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่บนที่สูงล้อมรอบด้วยป่าเขา กลางวันสงบกลางคืนยิ่งเงียบสงัด หากเราไม่ได้คุยกันก็คงมีแต่เสียงใบไม้พริ้วไหว บางจังหวะก็มีเสียงหางของช้างที่อยู่ข้างบ้านแกว่งปัดไปมาพรึบพรับ มันคงรำคาญแมลงที่มาตอมผิวหยาบกร้านของมัน และแล้วค่ำคืนพิเศษนี้ได้จบลงที่ระเบียงข้างบ้าน ผมไม่รู้ว่าใครหลับก่อนหรือนอนทีหลัง ที่แน่ๆ ต้องเตรียมพลังเอาไว้ไปเดินป่าผจญแก่งสายน้ำแรงในวันพรุ่งนี้ เช้าตรู่กลุ่มสตาฟซึ่งก็คือพี่น้องชาวปกาเกอะญอในหมู่บ้าน กำลังวุ่นอยู่กับการจัดสัมภาระสำหรับการล่องแก่งในสายน้ำอุ้มผางคีไปไว้ที่บนหลังช้าง ช้างจะช่วยในการขนเรือยางและอุปกรณ์จำเป็นอื่นๆ ไปยังต้นน้ำ ส่วนพวกเรานักท่องเที่ยวต้องเดินเท้าลัดเลาะไปตามริมน้ำ บางช่วงต้องตัดข้ามลำน้ำไปอีกฝั่งเพื่อการเดินสะดวก รวมระยะทางประมาณ 8 กม. ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง จากนั้นทุกคนจะต้องลงเรือยางแล้วล่องไปตามลำน้ำผ่านแก่งหินและสายน้ำต่างระดับบางช่วงมีความรุนแรงท้าทาย ยั่วยวนใจให้นักผจญภัยมาสัมผัสความตื่นเต้นเร้าใจ นอกจากความสวยงามของหมู่บ้านอย่างเป็นธรรมชาติแล้ว การได้สนุกสุดมันกับการล่องแก่งในสายน้ำใสบริสุทธิ์ยิ่งเพิ่มอรรถรสให้กับการเดินทางได้อย่างดีเยี่ยมน่าจดจำ ผมรีบเร่งสาวเท้าก้าวตามคนอื่นๆ หลังจากมัวยืนถ่ายภาพมวลหมอกที่ลอยเป็นกลุ่มขาวอยู่เหนือต้นหญ้าหน้าสนามของโรงเรียนบ้านอุ้มผางคี น้อยครั้งมากที่จะได้มีโอกาสสัมผัสมวลหมอกขาวอย่างใกล้ชิด ผมนึกอิจฉาเด็กๆ ในโรงเรียนที่ได้เห็นภาพสวยงามอย่างนี้อยู่บ่อยครั้ง พวกเขาได้ยืนตรงเข้าแถวเคารพธงชาติท่ามกลางกรุ่นไอหมอก อากาศสดชื่นยามเช้าทำให้เด็กมีสมองปลอดโปร่ง หากเขาเหล่านี้ได้บุคลากรที่ดีมีความสามารถ มีอาหารให้รับประทานครบทุกหมู่ทุกมื้อ มีห้องสมุดที่มีหนังสือใหม่ๆ เขาคงรู้เท่าทันโลกเหมือนเด็กในเมืองใหญ่ แต่อาจจะต่างกันตรงที่ว่าเด็กบ้านป่าน่าจะมีสุขภาพจิตที่ดีกว่าเด็กในเมือง พังน้อยเดินมาถึงจุดเริ่มต้นการล่องแก่งก่อนใคร ในป่าช้างเดินได้เก่งกว่าคนหลายเท่านัก แม้ตัวของมันจะอุ้ยอ้ายแต่ทุกก้าวของมันล้วนมั่นคง มันเดินโดยไม่หยุดพักไม่มีเสียงหอบกระหาย เรี่ยวแรงพละกำลังอันเหลือเฟือของมันทำให้มนุษย์อิจฉา จากนี้เราจะได้เริ่มต้นการล่องแก่งในลำน้ำอุ้มผางคี สายน้ำอันใสบริสุทธิ์ที่ไหลรินมาจากกลางผืนป่า มุ่งหน้าสู่อำเภออุ้มผาง ความสนุกอย่างสะใจในช่วงต้นฤดูกาลท่องเที่ยวหน้าฝนได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว สายน้ำ ธรรมชาติสองข้างทางและเรือยางกำลังจะพาผมไปพบกับความประทับใจ...แล้วคุณล่ะ ต้นฤดูฝนนี้ได้มองหาสถานที่ผจญภัยกันแล้วหรือยัง? ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook
สัมผัสบรรยากาศสุดชิลไปกับจังหวัดท่องเที่ยวสุดฮิตของภาคเหนือ “เชียงใหม่” ฟิน อิน ธรรมชาติ ผ่อนคลายกับความเงียบสงบ จนใคร ๆ ก็หลงรักกับสถานที่เหล่านี้ คิดจะพัก คิดจะเที่ยว คิดถึง “เชียงใหม่” จังหวัดท่องเที่ยวยอดฮิตของประเทศไทย ที่ใครใครก็นึกถึงเป็นที่แรก ๆ ในการออกเดินทางท่องเที่ยว ไม่ว่าจะฤดูร้อน ฤดูฝน และฤดูหนาว “จังหวัดเชียงใหม่” ก็ยังคงมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวอย่างไม่คาดสาย ถ้าพูดถึงที่เที่ยวภายในจังหวัด นั้นมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกทั้งเที่ยวในเมือง ขึ้นดอย ขึ้นเขา ชมดอกไม้ ผ่อนคลายกับวิวสวย ๆ อย่างช่วงฤดูฝนก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่จะทำให้ฟิน อิน ธรรมชาติ ไม่แพ้กับช่วงฤดูหนาวกันเลยทีเดียว เริ่มต้นอย่างที่อำเภอ “แม่แจ่ม” เมืองแห่งหุบเขา มากด้วยธรรมชาติที่สวยตระการตา กับสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง “บ้านป่าบงเปียง” ถือได้ว่าเป็นจุดหมายปลายทางที่จะมีนักท่องเที่ยวมาสัมผัสธรรมชาติ ผ่อนคลายกับวิวสวย ๆ ของนาขั้นบันไดเขียวไปทั่วทุ่ง ทิวเขา และสายหมอก อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่จะทำให้หลงรักไปกับธรรมชาติ และความเงียบสงบ “บ้านแม่กลางหลวง” สถานที่ท่องเที่ยว พักผ่อนหย่อนใจของอำเภอ “จอมทอง” ผ่อนคลายไปกับบรรยากาศของทุ่งนาขั้นบันไดสีเขียว รายล้อมด้วยทิวเขามากมาย พร้อมสายหมอกที่คลอเคลียในยามเช้า สูดอากาศสุดแสนบริสุทธิ์ สัมผัสวิถีชุมชนชาวไทยแบบใกล้ชิด “บ้านแม่กำปอง” ความอบอุ่นท่ามกลางหุบเขา สถานที่ท่องเที่ยว แหล่งพักผ่อนของอำเภอ “แม่ออน” นอนโฮมสเตย์หลีกหนีความวุ่นวายในเมืองใหญ่ แล้วมาผ่อนคลายไปกับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์รอบข้างตัว ฟังเสียงสายน้ำตกที่ไหลผ่านข้างหมู่บ้าน จิบกาแฟ ชมวิวทิวทัศน์ ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ สดชื่น ชุ่มฉ่ำไปกับสายน้ำขนาดใหญ่ “น้ำตกแม่กลาง” จุดแวะเที่ยวก่อนเดินทางเข้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ สายน้ำอันเย็นฉ่ำไหลลงจากผาขนาดใหญ่ ภายในมีแอ่งน้ำขนาดใหญ่ รอบข้างรายล้อมด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์สีเขียวขจี ร่มรื่น และให้บรรยากาศที่ผ่อนคลายสุดๆ เพลินไปกับการชมน้ำตกสุดยิ่งใหญ่ของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ “น้ำตกแม่ยะ” สดชื่น ชุ่มฉ่ำไปกับสายน้ำที่ไหลลงมาเป็นขั้น รอบข้างเต็มไปด้วยธรรมชาติที่เขียวขจีของหน้าฝน กลายเป็นภาพที่สวยงามจนทำให้น้ำตกแห่งนี้เป็นที่โด่งดังและขึ้นชื่อว่าสวยงามเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทย สัมผัสมนต์เสน่ห์ของสายน้ำแม่วางกับกิจกรรมยอดฮิตด้วยการ “ล่องแพไม้ไผ่” ชมธรรมชาติ พักผ่อน เล่นน้ำ ท่ามกลางบรรยากาศที่สนุกสนานน่ามาเที่ยวเล่นผ่อนคลาย พร้อมกินข้าวชมธรรมชาติ ฟังเสียงลำธารไหลผ่าน เพลิน ๆ หูกันไป สามารถมาเที่ยวเล่นได้ในทุกช่วงฤดู สุภาษิตกล่าวไว้ว่า “ขี่ช้างจับตั๊กแตน” แต่ถ้ามาที่เชียงใหม่ ต้องมา “ขี่ช้างเล่นน้ำ” ชมวิวทิวทัศน์ ชิลบรรยากาศธรรมชาติ ถือได้ว่ากิจกรรมชื่อดังของที่ “ปางช้างแม่สา” กับ “ปางช้างแม่แตง” สนุกสนาน เพลิดเพลินไปพร้อมกับสายน้ำ และช้างสุดน่ารัก เพราะ “เชียงใหม่” มากมายไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และน่ามาพักผ่อน ผ่อนคลายไปกับวิวทิวทัศน์ของภูเขาที่เรียงราย พร้อมกับสายหมอกในยามเช้า นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย รอให้มาเที่ยวชมกัน ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook
เพราะเชียงใหม่ไม่ได้มีดีแค่หน้าหนาว หน้าฝนแบบนี้ก็มีที่เที่ยวสวย ให้ได้มาเที่ยวอย่างที่ “ม่อนแจ่ม” ชมทุ่งดอกไม้ ชิลกับบรรยากาศและสายหมอก สายฝน ฟินกันไป “เชียงใหม่” จังหวัดท่องเที่ยวยอดฮิตในดินแดนภาคเหนือของประเทศไทย มากมายไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยว ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ บรรยากาศสุดชิลไม่ว่าจะหน้าฝนหรือหน้าหนาว ก็จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มาเที่ยวชมกันอย่างไม่คาดสาย “อำเภอแม่ริม” ถือได้ว่าเป็นอำเภอท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ เต็มเปี่ยมไปด้วยธรรมชาติ ภูเขา และแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังมากมาย อย่างเช่นที่ “ม่อนแจ่ม” สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตที่นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นมาชมวิว ชิลธรรมชาติ พักผ่อนบนภูเขา ผ่อนคลายไปกับทุ่งดอกไม้ที่ขึ้นชื่อของที่นี่ ทั้งในหน้าฝนและหน้าหนาวก็จะได้พบกับความสวยงามที่แตกต่างกันออกไป “ม่อนแจ่ม” ไม่ได้แจ่มเพียงแค่หน้าหนาว ที่จะมีนักท่องเที่ยวมานอนชมวิว ชิลสายหมอก รับอากาศหนาว แต่หน้าฝนของที่นี่ก็แจ่มไม่แพ้กับหน้าหนาว สวยงามไปด้วยดอกไม้หลากหลายสีสัน ออกดอก เบ่งบานไปทั่วทุ่ง ดึงดูดเชิญชวนให้ลองมาชมกันสักครั้ง “ทุ่งดอกเวอร์บีน่า” ความสวยงาม ที่บานสะพรั่งทั่วทุ่งท่ามกลางหุบเขา เพลินไปกับทุ่งสีม่วงและสายหมอกยามเช้าของหน้าฝน บรรยากาศที่เงียบสงบ อากาศเย็นสบาย หวานละมุนดุจเดินอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ สีม่วงตัดกับสีเขียว กลายเป็นภาพที่สวยงาม ฟินกันเลยทีเดียว นอกจาก “ทุ่งดอกเวอร์บีน่า” ที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มา “ม่อนแจ่ม” ในช่วงหน้าฝนแล้ว ยังมี “ไร่กะหล่ำ” ให้ได้มาเดินชมกันอีกด้วย ความสวยงามของธรรมชาติและดอกไม้ที่ “ม่อนแจ่ม” ไม่ได้มีแค่ดอกเวอร์บีน่า และกะหล่ำ แค่นั้น ยังมีดอกไม้อีกหลากหลายสายพันธุ์ สีสันสวยงามอีกมากมายให้ได้มาเดินเล่นชมบรรยากาศ ถ่ายรูปกลับไปเป็นที่ระลึก เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศทุ่งดอกไม้สีสันสวยงาม ที่นี่ยังมีไร่สตอเบอรี่ และไร่องุ่น ให้ได้มาเที่ยวเล่น เดินชมกันได้อีกด้วย แจ่มทั้งธรรมชาติ แจ่มทั้งบรรยากาศ แจ่มทั้งทุ่งดอกไม้และผลไม้ อยากหาที่ท่องเที่ยวแจ่ม ๆ ในช่วงหน้าฝน ต้องอย่าลืมมาเช็คอินกันที่ “ม่อนแจ่ม” แล้วจะรู้ว่าแจ่มขนาดไหน หากใครกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวในช่วงหน้าฝนและช่วงหน้าหนาว หรือกำลังมีโปรแกรมมาเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่ ลองแวะมาเที่ยวที่ “ม่อนแจ่ม” สถานที่ท่องเที่ยวที่ยังคงฮิตมาจนถึงปัจจุบันนี้ ผ่อนคลายกับที่พักสุดชิล ชมวิวบรรยากาศ สัมผัสสายฝน ฟินสายหมอก เดินเพลิน ๆ กับทุ่งดอกไม้สีสันสวยงามกันได้นะคร๊าบบ ที่ตั้ง : ตำบลแม่ริม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook, พาไปดอทคอม
คุ้มค่าตื่นทริปนี้เราออกเดินทางไปที่จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แล้วละที่ แต่ละอำเภอก็มีสถานที่ท่องเที่ยวเยอะแยะมากมาย ดังนั้นเราเลยเลือกมาสัก 1 อำเภอ เพื่อที่จะทำหนึ่งวันให้คุ้มค่าตื่นที่สุด ณ สีคิ้ว แล้วคุณจะเปลี่ยนใจมาเที่ยวที่นี่เยอะขึ้นแน่นอน จากกรุงเทพฯ มายังเมืองสีคิ้ว เราก็มาแวะรับบรรยากาศดี ๆ ปั่นจักรยานชิลล์ ๆ ชมวิวสวย ๆของกังหันลมยักษ์ที่ “กังหันลม เขายายเที่ยง ลำตะคอง” โดยสามารถขับรถขึ้นไปบนเขายายเที่ยงได้เลย ถนนเป็นลาดยางอย่างดี ขับรถได้แบบไม่ลำบากเลยค่ะ เมื่อถึงเขายายเที่ยงแล้ว ก็สามารถเช่าจักรยาน ขึ้นมาปั่นไปรอบ ๆ ชมวิว รับอากาศดี ๆ ของที่นี่กันหน่อย ราคาเช่าคัน 40 บาท/ชั่วโมงเท่านั้นค่ะ นักปั่นระดับเรา เอาจริงๆ ไม่ถึงชั่วโมงก็หอบแล้วค่า เมื่อปั่นขึ้นมาบนจุดชมวิว ตรงอ่างเก็บน้ำที่มีวิวกังหันลมขนาดใหญ่และอ่างพักน้ำ เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า สามารถมองเห็นถนนเส้นหลักอย่างถนนมิตรภาพแล้วก็เขื่อนลำตะคองได้ด้วย หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายวิวสวย ๆ แบบนี้สักหน่อย บอกเลยว่าได้วิวสวยอย่างนี้แบบเต็มอิ่มแน่นอน ส่วนอากาศที่นี่ก็เย็นสบาย แถมหมอกบางๆ ลมแรงนิดหน่อย ถ้าใครมาตามรอยก็อย่าลืมพกหมวก แว่นตาและเสื้อกันลมมาด้วยนะคะ จากกังหันลมเขายายเที่ยง เราเดินทางมาที่ “ศูนย์การเรียนรู้วัฒนธรรมไท-ยวน บ้านยวน นครจันทึก” ที่นี่เป็นชุมชนที่มีชาวไท-ยวน อาศัยอยู่มาเป็นเวลานาน ตั้งแต่นครจันทึกมาจนถึง อ.สีคิ้ว ในปัจจุบันนั่นเองค่ะ ที่นี่เป็นความเป็นอัตลักษณ์เฉพาะตัวทั้งเรื่องของภาษา วัฒนธรรม วิถีชีวิต ศิลปหัตถกรรม และภูมิปัญญา ไท-ยวนนี้ เป็นเผ่าไทยที่อยู่ภาคเหนือ แต่มาอยู่ที่สีคิ้ว ให้ฟีลลิ่งเหมือนมาเที่ยวภาคเหนือเลยจ้า ไม่คิดว่าจะอยู่แค่สีคิ้วเองนะเนี่ย และที่นี่ยังให้นักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าศึกษาเรียนรู้ได้ตลอดอีกด้วย และยังมีการทอผ้าพื้นเมืองไทยวน ที่เป็นผ้าฝ้ายทอสีสันสดใส ลวดลายของผ้ามีความละเอียดสวยงามเป็นเอกลักษณ์ สามารถชมการทอผ้า หรือจะลองทำก็ได้ด้วย มาแล้วก็อย่าลืมซื้อผ้าสวย ๆ กลับบ้าน จะซื้อไปฝากก็ดี และสามารถแจ้งล่วงหน้าเพื่อขอเข้าชมได้นะคะ เดินทางกันต่อไปที่ “เดอะรีสอร์ท ภูนางฟ้า เขายายเที่ยง” ที่นี่เป็นรีสอร์ท สำหรับคนที่ต้องการหนีความวุ่นวายจากเมืองกรุง มองหาความเงียบสงบ หนีความแออัดจากเขาใหญ่ เมืองยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกไปกัน ก็เดินทางมาพักที่เขายายเที่ยงได้ ซึ่งที่นี่แบ่งเป็น 2 โซน จะมีโซนรอบ ๆ สระว่ายน้ำ กับ โซนที่สามารถมองเห็นวิวเขาจากปลายเตียงได้แบบไม่ต้องลุกขึ้นมาเลยค่ะ แถมที่นี่อากาศดีมาก เที่ยวได้ทั้งปีเลยค่ะ เช้า ๆ หน่อยก็จะได้เจอกับไอหมอก แต่พอตกเย็นหน่อยก็นั่งชิลล์ ชมพระอาทิตย์ตกดินได้แบบไม่ต้องไปไหนไกล จะมาเป็นแบบครอบครัว แก๊งเพื่อน หรือว่าจะสวีทหวานแบบคู่รักก็ดี๊ดี และที่นี่ยังอนุญาตให้สุนัขเข้ามาพักด้วยก็ได้นะคะ ทริปนี้เป็นอะไรที่ดีงามมาก ๆ ไม่น่าเชื่อว่า สีคิ้ว เป็นสถานที่ที่ไม่คิดว่าจะมีที่เที่ยวเก๋ ๆ มีอากาศดี บรรยากาศสบาย ๆ ตลอดทั้งปี คือไม่ต้องไปไหนไกล แค่สีคิ้วก็ชิลล์ได้สบาย ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook,Peeranut P.
“นครนายก” จังหวัดเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ทั้งน้ำตก เขื่อน อ่างเก็บน้ำ และธรรมชาติที่สวยงาม เขียวขจีที่น่ามาค้นหาในช่วงหน้าฝน หากใครกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยว สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ แบบไปเช้าเย็นกลับ หรือจะค้างสักคืนเพื่อความผ่อนคลายแบบไม่ไกลกรุง “นครนายก” ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ใครใครก็นึกถึง มากมายไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยว มากมายไปด้วยที่พักผ่อน เพลินไปกับกิจกรรมมากมาย “นครนายก” จังหวัดท่องเที่ยวใกล้กรุง ที่สามารถมาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เดินทางสะดวก มีที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งน้ำตก เขื่อน อ่างเก็บน้ำ วัดวาอารม รวมไปถึงที่เที่ยวชมธรรมชาติในหน้าฝน ที่ต้องมาเยี่ยมชมกันสักครั้ง กับสิ่งที่จะได้พบกันในช่วงหน้าฝน เริ่มต้นที่ “อุโมงค์ไม้ไผ่” ของวัดจุฬาภรณ์วราราม จุดเช็คอินชิลธรรมชาติของต้นไผ่ที่ให้บรรยากาศเหมือนกับอยู่ประเทศญี่ปุ่น สถานที่แห่งนี้สามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ถ้ามาในช่วงหน้าฝนจะทำให้สัมผัสถึงความร่มรื่น ลมเย็นสบาย และธรรมชาติสีเขียวขจี “สะพานไม้ และทุ่งนาสีเขียว” ถือได้ว่าเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สำคัญ ให้มาเดินเที่ยวชมธรรมชาติ ถ่ายรูปมุมธรรมชาติ ผ่อนคลายไปกับบรรยากาศทุ่งนา ภายในจังหวัดนครนายกก็จะมี “สะพานทุ่งนามุ้ย” และ “ภูกะเหรี่ยง” ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาผ่อนคลายไปกับบรรยากาศสุดชิลของสถานที่เหล่านี้ เมื่อเข้าสู่หน้าฝน สายน้ำธรรมชาติ ไหลผ่านโขดหิน เป็นสายน้ำตกที่สวยงาม รอบข้างรายล้อมด้วยธรรมชาติสีเขียวขจี เล่นน้ำ เพิ่มความสดชื่นเย็นสบายของ 3 น้ำตกชื่อดังของจังหวัด ได้แก่ “น้ำตกวังตะไคร้” สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง ที่พักผ่อนหย่อนใจท่ามกลางธรรมชาติฟังเสียงสายน้ำไหลผ่านให้ชุ่มฉ่ำใจ ต่อมาที่ “น้ำตกสาริกา” น้ำตกที่ขึ้นชื่อว่าสวยเป็นอันดับต้น ๆ ของจังหวัด สายน้ำตกที่ไหลลงมาผ่านโขดหินเป็นสายยาว ยิ่งในช่วงหน้าฝน จะพบกับน้ำที่ไหลลงมาเป็นจำนวนมากให้ความสวยงามแบบสุด ๆ และสุดท้าย “น้ำตกนางรอง” สถานที่พักผ่อนยอดฮิตอีกแห่งที่นักท่องเที่ยว นิยมมานั่งปิคนิค แช่น้ำ ผ่อนคลายในช่วงวันหยุด สัมผัสความเงียบสงบ ฟังเสียงธรรมชาติ เดินชมวิวทิวทัศน์ ปล่อยตัว ปล่อยใจ ไปกับ “อ่างเก็บน้ำ” ถือได้ว่าจุดท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจภายในจังหวัดนครนายก ที่นักท่องเที่ยวนิยมมากัน ผ่อนคลายกับสายน้ำที่เต็มอ่าง รับสายลม กันที่ “อ่างเก็บน้ำทรายทอง” “อ่างเก็บน้ำห้วยปรือ” รอบข้างรายล้อมด้วยทิวเขาและธรรมชาติสีเขียวชอุ่มในหน้าฝน ให้บรรยากาศสุดร่มรื่น อีกทั้งยังมี “อ่างเก็บน้ำบางบอน” ที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม พร้อมเล่นกิจกรรมพายเรือชมบรรยากาศภายในอ่างเก็บน้ำ สัมผัสบรรยากาศชิล ชิล ชมธรรมชาติ ทุ่งนาสีเขียว และสายน้ำตกที่สวยงามของหน้าฝน กิจกรรมแอดเวนเจอร์ที่ขึ้นชื่อของจังหวัดนครนายก อย่าง “ล่องแก่ง” กิจกรรมนี้ถ้าอยากมาเล่นมันส์ ๆ ต้องมาเล่นตอนหน้าน้ำ จะมีสายน้ำที่ไหลเชี่ยวแต่ไม่ถึงกับอันตรายมาก น้ำเยอะล่องสบายไม่ต้องกัวติดโขดหิน และที่สำคัญจะสนุกสุดมันส์ในช่วงที่กระแสน้ำแรงจะมีโยกไปมา น้ำกระเซ็น เปียกชุ่มฉ่ำไปทั้งลำ จุดเล่นน้ำในจังหวัด ก็จะมีมากมายหลายจุด ไม่ว่าจะเล่นตามแก่งต่าง ๆ เล่นที่น้ำตกบ้าง และที่บริเวณหน้า “เขื่อนขุนด่านปราการชล” จุดเล่นน้ำที่สามารถเล่นได้ตลอดทั้งปีเพราะได้มีการปล่อยน้ำมาจากเขื่อน แต่ถ้ามาเล่นในช่วงหน้าฝนก็จะมีน้ำเยอะ ธรรมชาติรอบข้างจะมีสีเขียวชุ่มฉ่ำ ถ้ามาถึงที่ “นครนายก” แล้ว แต่ไม่ได้ขึ้นมาด้านบนของ “เขื่อนขุนด่านปราการชล” เขื่อนชื่อดังของจังหวัด ตลอดเส้นทางจะเต็มไปด้วยธรรมชาติ ถึงแม้ว่าจะเป็นช่วงเส้นทางระยะสั้น ๆ ไม่กี่กิโล แต่ธรรมชาติของสองข้างหน้าจะเต็มไปด้วยสีเขียว ร่มรื่นไปด้วยธรรมชาติ ภายในเขื่อนจะมีวิวทิวทัศน์ที่ทุกคนน่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี (สำหรับคนที่เคยมาแล้ว) ทั้งวิวสันเขื่อน วิวธรรมชาติ สายน้ำและทิวเขา ต้นไม้ที่เรียงรายสีเขียวในหน้าฝน น้ำที่ไม่แห้งแบบหน้าร้อน ล่องเรือชมบรรยากาศภายในเขื่อน ลอยละล่อง ชิล ชิล ไปกับสายน้ำ สายลม สูดอากาศที่สดชื่น พร้อมไปพบเจอกับ 3 น้ำตก อันซีนภายในเขื่อน 3 น้ำตกอันซีนภายในเขื่อน ต้องเดินทางด้วยการล่องเรือชมภายในเขื่อน และเดินเท้าต่อไปอีกประมาณไม่ไกลเท่าไร เดินชมบรรยากาศรอบ ๆ ของธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ที่จะมีมาให่สัมผัสความสวยงามแบบนี้ได้เฉพาะช่วงหน้าน้ำ หรือหน้าฝนนี่เอง ทั้ง “น้ำตกเขาช่องลม น้ำตกผางามงอน และน้ำตกคลองคราม” 3 น้ำตกอันซีนแห่งเขื่อนขุนด่านปราการชล ที่ต้องลองมาสัมผัสกันสักครั้งแล้วจะหลงรักกับธรรมชาติใกล้กรุงแบบนี้ นอกจากมาเที่ยวชมธรรมชาติ เพลินสายน้ำ ชุ่มฉ่ำสายฝนของจังหวัดนครนายกแล้ว ยังมีเส้นทางจักรยานให้คนรักการออกกำลังกายได้มาปั่นชมวิว ชิลธรรมชาติกันได้อีกด้วย ทั้งนี้หากใครกำลังมองหาที่เที่ยวใกล้กรุงในช่วงหน้าฝน ลองหาวันว่าง หรือจะมาพักผ่อนสักคืนกันที่ “จังหวัดนครนายก” จังหวัดท่องเที่ยวใกล้กรุง ที่รอให้คุณได้มาเที่ยวเล่น พักผ่อน ชมธรรมชาติกันอยู่นะ ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook,พาไปดอทคอม
ในช่วงที่ลมฝนกำลังเดินทางมาปะทะกับลมหนาวแบบนี้ เป็นช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวหลายๆ คนมักจะชื่นชอบในการออกไปเยี่ยมชมธรรมชาติ ไปสัมผัสอากาศที่หนาวเย็นในเขตภาคเหนือของเมืองไทย ดั่งเช่นที่บ้านรักไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอน หมู่บ้านชาวไทยเชื้อสายยูนนานที่มีวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมในหมู่บ้านที่ดูแปลกหูแปลกตาสำหรับคนไทย ที่นี่ถือได้ว่าเป็นดินแดนหลังม่านหมอกที่มีความอุดมสมบูรณ์มากๆ มีทั้งภูเขาป่าไม้และสายน้ำในหมู่บ้าน เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวอย่างยิ่ง เพียงก้าวแรกที่คุณได้เข้าไปสัมผัสกับหมู่บ้านแห่งนี้คุณจะรู้สึกได้เลยถึงความงดงามที่ไม่ต้องปรุงแต่งใดๆ แอ่งน้ำกลางหมู่บ้านที่มีสายหมอกบางๆ ลอยละล่องอยู่เหนือแอ่งน้ำแห่งนี้ เป็นภาพบรรยากาศที่ดูโรแมนติกสุดๆ เหมาะที่จะมาเก็บภาพสวยๆ กับมุมนี้มากๆ นอกจากนี้ยังมีโซนที่พักลีไวน์รักไทยที่คุณเห็นแล้วจะต้องคิดว่านี่คือประเทศญี่ปุ่นแน่นอน ด้วยความเขียวขจีของไร่ชา มีสายหมอกหนาๆ มาปกคลุม และที่พักที่ไล่ระดับไปตามความชันของ ภูเขา หากได้มานอนสักคืนรับรองว่าฟิน และนี่ก็เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของความงดงามในบ้านรักไทยเท่านั้น ที่นี่ยังมีของดีอีกหลายอย่างที่รอคอยให้นักท่องเที่ยวได้ไปเยี่ยมชมกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นอาหารสไตล์จีนยูนนาน ชาจีนสดๆ จากไร่ หรือการได้มาสัมผัสกับวัฒนธรรมของชาวบ้าน ซึ่งจะทำให้คุณรู้สึกจากรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้โดยไม่รู้สึกว่าเป็นผู้มาเยือนเลยทีเดียว ที่ตั้งบ้านรักไทย : ตำบล หมอกจำแป่ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook,Peeranut P.
|
AuthorWrite something about yourself. No need to be fancy, just an overview. Archives
January 2021
Categories |