ถือได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่หลายๆ คนอาจจะยังไม่เคยเห็นเลยก็ว่าได้ สำหรับประติมากรรม หนุมานอ้าปากขนาดใหญ่ เป็นประตูทางทางเข้าของวัด ดูสวยงามตระการตามากๆ นอกจากนี้ภายในวัดยังมีสิ่งปลูกสร้างและประติมากรรมต่างๆ ที่อิงตามวรรณกรรมเรื่องวรรณเกียรติ์ ให้นักท่องเที่ยวได้เดินเล่นถ่ายรูปสวยๆ กัน กลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของอำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรีไปแล้วในตอนนี้ ใครที่ไปเที่ยวที่วัดคุ้งท่าเลาจะต้องได้รูปภาพสวยๆ กลับมาแน่นอน ที่ตั้งวัด : ตำบล บางพึ่ง อำเภอ บ้านหมี่ จังหวัด ลพบุรี ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook,Peeranut P.
0 Comments
ไปสกลนครครั้งต่อไปพลาดไม่ได้โดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบในเรื่องของพญานาค เพราะที่อุทยานบัวเฉลิมพระเกียรติ ภายในมหาวิทยาลัยเกษตรฯ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ ได้มีการสร้างองค์พญานาคเผือกขนาดยักษ์ขึ้นที่บริเวณริมบึงบัว กลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดสกลนครที่มีความสวยงามวิจิตรงดงามเป็นอย่างมาก มองดูแล้วน่าเลื่อมใสและทรงพลังจริงๆ เป็นศิลปะการสร้างสรรค์ประติมากรรมได้อย่างน่าอัศจรรย์ลวดลายความอ่อนช้อยและรูปทรงต่างๆ ขององค์พญานาคเผือกนั้นทำออกมาได้สวยงามมากๆ เป็นหนึ่งในมุมถ่ายรูปสวยที่ อยากจะแนะนำให้ทุกคนได้ไปเยี่ยมเยือนกัน นอกจากนี้ยังมีบังบัวสวยๆ ให้ได้ชมกันอีกด้วย หากมีโอกาสลองหาเวลามาเที่ยวกัน ที่ตั้งพญานาคเผือก : ภายในอุทยานบัวเฉลิมพระเกียรติ ภายในมหาวิทยาลัยเกษตรฯ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ ตำบล เชียงเครือ อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook,Peeranut P.
เมื่อได้เห็นภาพจากมุมสูงของสะพานแห่งนี้หลายๆ คนคงแอบคิดว่าอาจจะเป็นภาพจากต่างประเทศหรือเปล่า แต่แท้จริงแล้วสถานที่แห่งนี้อยู่ในประเทศไทยนี่เอง ภาพที่คุณได้เห็นนี่คือมุมสูงของสะพานห้วยตอง สะพานที่เชื่อมต่อภาคเหนือกับภาคอีสานในเขตจังหวัดเพชรบูรณ์นั่นเอง สะพานห้วยตองนี้มีอีกชื่อหนึ่งที่คนรู้จักว่าสะพานพ่อขุนผาเมือง เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางหลวงหมายเลข 12 ถูกขนามนามว่าเป็นสะพานที่มีตอม่อสูงที่สุดในประเทศไทย โดยเชื่อมต่อระหว่างภาคเหนือไปสู่ภาคอีสานตอนล่างรวมระยะทางกว่า 180 เมตร ความพิเศษของสะพานห้วยตองก็คือบรรยากาศที่อยู่โดยรอบ สะพานนั้นพาดผ่านหุบเขาที่ดูสวยสะดุดตาเป็นอย่างมาก ความเขียวขจีที่อยู่ล้อมรอบสะพานห้วยตองนั้นได้ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวหลายๆ คนยอมจอดรถเพื่อที่จะได้สัมผัสกับความสวยงามชมวิวสะพานห้วยตองอย่างใกล้ชิด หากใครมีโอกาสได้ขับรถไปในเส้นทางนี้อย่าลืมแวะถ่ายรุ)สวยๆ กับสะพานห้วยตองกันครับ ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook,Peeranut P.
ที่สวนลอยฟ้า(GRADEN IN THE SKY ) สวนนงนุชพัทยา อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา พร้อมด้วย น.ส.ชไมพร อำไพจิตร หัวหน้าสำนักงาน จ.ปทุมธานี นายมหิทธร โคกเกษม ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดปทุมธานี นายสุฤกษ์ ศิลปะอนันต์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสระบุรี และนายพีรพงษ์ นุชรักษ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลพบุรี ได้ร่วมเปิดโครงการ “สวรรค์บนดินเปิดเที่ยวฟรี 1 เดือน 1 จังหวัด ” ท่ามกลางประชาชนทั้ง 3 จังหวังภาคกลาง ปทุมธานี สระบุรี ลพบุรี ร่วมเป็นสักขีพยนอย่างพร้อมเพรียง นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา กล่าวว่า โครงการ“เปิดสวรรค์บนดินเที่ยวฟรี 1 เดือน 1 จังหวัด ” ยังคงไว้เหมือนเดิม ถึงแม้ว่าจะมีสัญญาณของเศรษฐกิจขาลง ก็ตาม เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าที่ได้ให้การอุปการคุณกับ สวนนงนุชพัทยา อย่างต่อเนื่อง พร้อมสนองนโยบายรัฐบาล “ไทยเที่ยวไทย” ใช้ของไทย เม็ดเงินหมุนเวียนในเมืองไทย และในท้องถิ่น ไม่รั่วไหลออกนอกประเทศ ซึ่งในปัจจุบันสวนนงนุชพัทยา ได้สร้างแหล่งท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ๆ โดยเฉพาะ โดยในช่วงเดือนกันยายน 2562 สวนนงนุชพัทยาได้ส่งมอบความสุขให้กับพี่น้อง 3 จังหวัดภาคกลาง ลพบุรี สระบุรี และ ปทุมธานี เข้าชมสวนฟรีตลอดเดือน เพียงยื่นบัตรประชาชน “ทั้งนี้สำหรับสวนลอยฟ้า บนสวรรค์บนดิน” หนึ่งเดียวในโลก อีกหนึ่งทางเลือกของนักท่องเที่ยว ในการรองรับ โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC ตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชน ได้เข้ามาเที่ยวชมความแปลกใหม่ที่ได้มีการพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง มีความเปลี่ยนแปลงมากมายเกิดขึ้นภายในสวนนงนุชพัทยา สามารถประชาสัมพันธ์ให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศในการบอกเล่าสิ่งดีๆ ในเขตภาคตะวันออก ได้อย่างไม่อายใครในโลกนี้ อีกทั้งยังได้มีการเปิดตัวหมาป่าในบรรพกาล หรือไดโนเสาร์ ไดโนไนคัส (Deinonychus)ซึ่งเป็นไดโนเสาร์ในวงศ์ตระกูลโดมิโอซอริด ขนาด 4 เมตร มีขนาดใหญ่ที่สุด ในเขตป่ารัฐยูท่าห์ และไวโอมิ่ง ในยุคครีเทเชียสราว ประเทศสหรัฐอเมริกา กินเนื้อเป็นอาหาร ซึ่งไดโนเสาร์ชีวิตนี้ถูกตั้งฉายาว่า”นักวิ่งรมกรด”เนื่องจากมีสะโพกคล้ายนก ลำตัวมีขนนกปรกคลุม และกระดูกที่มีน้ำหนักเบา ทำให้ไดสามารถวิ่งไล่ล่าเหยื่อที่อย่างรวดเร็ว มีจุดเด่นที่เล็บเท้ารูปร่างเหมือนตะขอขนาดใหญ่ ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook,Peeranut P.
หากคุณกำลังเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน ลองหาเวลาว่างๆ ไปพักฟื้นฟูร่างกายกับธรรมชาติกันไหม ออกไปตามล่าหมอกหน้าฝน ที่กำลังสวยงามและชุ่มฉ่ำสุดๆ ในช่วงนี้ จะพาคุณไปที่จุดชมวิวม่อนสนดอยอ่างขาง จุดชมวิวทะเลหมอกสุดอลังการที่ควรไปเก็บความทรงจำในหน้าฝน จุดชมวิวม่อนสน ตั้งอยู่บนดอยอ่างขาง ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก มีอากาศหนาวเย็นในยามเช้าแทบจะทั้งปี ตรงจุดนี้สามารถนอนเต็นท์พักแรมรอปะทะกับทะเลหมอกกันได้เลย โดยสามารถขออนุญาตกางเต็นท์กันได้ที่บริเวณลานกางเต็นท์ดอยอ่างขางที่ตั้งอยู่ติดกับจุดชมวิวม่อนสนนั่นเอง ภาพบรรยากาศหุบเขากว้างๆ ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ดูเขียวขจี สัมผัสกับสายหมอกหนาที่ลอยละล่อง ยิ่งถ้าวันไหนมีฝนตกลงมาในตอนกลางคืนจะมีหมอกเยอะมากในตอนเช้า เป็นภาพในฝันของใครหลายๆ คนเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีลานป่าสนให้ได้ถ่ายรูปชิคๆ ในยามเช้ากันอีกด้วย มาที่นี่คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศเหมือนกับอยู่เมืองนอกเลยทีเดียว ใครมองหาที่เที่ยวในหน้าฝนนี้อยู่ลองแวะมากางเต็นท์นอนที่ดอยอ่างขางกัน มาล่าทะเลหมอกหน้าฝน มาสัมผัสกับธรรมชาติแบบเพียวๆ มาเก็บเกี่ยวความทรงจำที่จะสร้างความประทับใจกันดีกว่า ขอบคุณข้อมูลจาก : sanook,Peeranut P.
ใครที่ชื่นชอบในการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ สูดบรรยากาศบริสุทธิ์ มองไปทางไหนก็เห็นแต่ความเขียวขจี มีที่พัก Farmstay ที่ หนองคายมาแนะนำให้รู้จักกัน กับ บ้านต้นจาน Farmstay สวรรค์ของคนรักธรรมชาติอย่างแท้จริง บ้านต้นจาน Farmstay เป็นทั้งที่พักที่ให้บริการห้องพักสไตล์ชาวบ้านมีวิวทุ่งนาให้ได้ชมจากบนเตียงเลยก็ว่าได้ แถมยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายในห้องพักอย่างครบครัน ในแบบที่คุณสามารถนอนหลับได้เต็มตื่น พร้อมตื่นมาสดชื่นกับธรรมชาติได้ทุกเมื่อ นอกจากนี้ยังเปิดให้บริการร้านกาแฟ วิวทุ่งนา ที่เราสามารถสั่งเครื่องดื่มแล้วไปหามุมสวยๆ นั่งทอดอารมณ์ดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ ชมวิวธรรมชาติได้อีกหลายมุมด้วย โดยเฉพาะสาวๆ บอกเลยว่ามาที่นี่คุณจะต้องได้รูปภาพสวยๆ กลับไปแน่นอน เพราะที่นี่มีมุมถ่ายรูปสวยเยอะมาก!!! ไม่ว่าจะเป็น สะพานไม้กลางทุ่งนา ที่ช่วงนี้ทุ่งนากำลังเขียวขจีสวยงามเลย หรือจะเป็นชิงช้ารังนกสไตล์บาหลีที่กำลังฮิตสำหรับนักท่องเที่ยว หรือจะรอช่วงเย็นๆ แสงแดดอ่อนๆ พระอาทิตย์ตกเหนือหนองน้ำของที่พัก ก็เป็นอีกหนึ่งบรรยากาศสุดฟินที่ต้องห้ามพลาด โดยรวมแล้วที่นี่ถือได้ว่าเป็นทั้งที่พัก และสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบธรรมชาติ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คท่องเที่ยวของหนองคายในตอนนี้เลย หากมีโอกาสลองไปเยี่ยมชมกันดูครับไม่ผิดหวังแน่นอน ที่อยู่บ้านต้นจาน Farmstay : 400 หมู่ 4 ต.วัดหลวง อ.โพนพิสัย เทศบาลเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook,Peeranut P.
พาไปเที่ยวกาญจนบุรี จังหวัดท่องเที่ยวยอดฮิต ที่ไม่ว่าจะไปอีกกี่ครั้งก็ไม่มีวันเบื่อ กับความรู้สึกดี ๆ ที่ได้ไปสัมผัสธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์ ชมวิถีชีวิต ศึกษาประวัติศาสตร์ และเรื่องราวความประทับใจอีกมากมาย หากว่าช่วงครึ่งปีหลัง 2019 นี้ คุณมีความคิดที่อยากจะไปเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี ทีมงาน Paapaii.com อยากจะแนะนำ 7 ที่เที่ยวยอดฮิต ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวที่เราอยากให้คุณไปเก็บให้ครบ แล้วคุณจะรักกาญจนบุรีมากขึ้นกว่าเดิม ถ้าอยากรู้ว่ามีที่ไหนบ้าง แล้วแต่ละที่มีดีอย่างไร ตามเราไปดูกันเลยครับ 1.เขาช้างเผือก 1,249 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง นั่นคือความสูงของ “เขาช้างเผือก” อีกหนึ่งเขาชื่อดังของประเทศไทย ที่ได้รับการขนานนามว่า “สวยงามและน่าหวาดเสียว” ที่นักท่องเที่ยวสายผจญภัยไม่ควรพลาด กับการบุกป่า ปีนเขา ตะลุยทุ่งหญ้า ที่ท้าทายให้ทุกคนยอมแพ้ แต่ถ้าคุณผ่านสิ่งเหล่านี้ไปได้ จุดสูงบนยอดเขาจะกลายเป็นความสุขและความประทับใจที่ทุกคนจะไม่มีวันลืมเลือนแน่นอน 2.วัดทิพย์สุคนธาราม วัดใหญ่และศักดิ์สิทธิ์อีกหนึ่งแห่งของจังหวัดกาญจนบุรี บนเนื้อที่กว่า 300 ไร่ โดยมีไฮไลท์สำคัญที่นักท่องเที่ยวต้องมากราบไหว้ขอพร พระพุทธรูปยืนองค์ใหญ่ “พระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถ คันธารราฐอนุสรณ์” ที่ได้ชื่อว่าเป็นพระปางขอฝนตามตำนานสมัยก่อน ใครผ่านมาก็อย่าลืมมาชมความงามของวัดนี้ และมาทำบุญขอให้เดินทางไปเที่ยวอย่างปลอดภัยกันนะครับ 3.บ้านอีต่อง ปิล็อก หมู่บ้านเล็ก ๆ แต่แฝงไปด้วยความสุข กับบรรยากาศของความเงียบสงบ ของหมู่บ้านเหมืองแร่ในอดีต ที่ปัจจุบันกลายเป็นที่เที่ยวยอดฮิต ที่มีทั้งความโรแมนติก หุบเขา และสายหมอก ให้ผู้ที่มาเยือนได้หลงรัก และได้รับความผ่อนคลาย จนต้องหลงเสน่ห์ธรรมชาติของหมู่บ้านแห่งนี้อย่างไม่รู้ตัว 4.สะพานมอญ สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นสะพานข้ามแม่น้ำซองกาเรียไปยังหมู่บ้านมอญ จุดไฮไลท์สำคัญของสังขละบุรี ด้วยวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของผู้คนที่นี่ บวกกับบรรยากาศของสายหมอกในตอนเช้า จึงทำให้สถานที่แห่งนี้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก 5.น้ำตกเอราวัณ ไปโดดน้ำคลายร้อนกันสักหน่อย กับอีกหนึ่งแลนมาร์คยอดฮิต น้ำตกเอราวัณ น้ำตก 7 ชั้น ที่ทั้งสวยงามและมีขนาดใหญ่ กับน้ำใส ๆ ที่ไหลผ่านตามชั้นหิน ให้เราได้ดับร้อน หรือจะมานั่งชมวิว ฟังเสียงน้ำตกชิล ๆ และถ่ายรูปกับธรรมชาติ ก็เป็นไอเดียที่ดี ใครร้อน ๆ อยากโดดน้ำ ปีนี้ต้องมาเยือนให้ได้นะ 6.ต้นจามจุรียักษ์ โอโซนขนาดใหญ่ อายุกว่า 100 ปี ต้นจามจุรียักษ์ อีกหนึ่งแลนด์มาร์คของอำเภอด่านมะขามเตี้ย ที่เราอยากให้ทุกคนไปเห็นความอลังการและความใหญ่นี้จริง ๆ กับธรรมชาติที่ไม่ได้มีให้เห็นบ่อย ๆ ไปสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ สวนอันรมรื่น เหมาะสำหรับการมาพักผ่อน นั่งอ่านหนังสือ และผ่อนคลายไปอย่างช้า ๆ 7.ทางรถไฟสายมรณะ ถ้ำกระแซ อีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์สำคัญในอดีตสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 กับสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง ทางรถไฟสายมรณะ ถ้ำกระแซ ที่ปัจจุบันกลายเป็นจุดชมวิวยอดฮิตริมแม่น้ำแคว ที่ทำให้เราได้มองเห็นบรรยากาศและธรรมชาติของจังหวัดกาญจนบุรีได้ชัดเจนขึ้น ใครยังไม่เคยมาปีนี้ต้องลองสักครั้ง ขอบคุณข้อมูลจาก : sanook, พาไป
มีเวลาว่างเพียงหนึ่งวัน ขับรถไปทำบุญไหว้พระใกล้ๆ กรุงเทพฯ พร้อมกับพักผ่อนไปในตัวก็เป็นไอเดียที่ดีเหมือนกัน ในวันนี้ จะพาคุณไปชมความสวยงามตระการตาของสถาปัตยกรรม "มังกรตะกายฟ้า" ภายในวัดสามพราน สถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ ใกล้กรุงเทพฯ มีเวลาแค่วันเดียวก็เที่ยวได้ วัดสามพราน เป็นวัดจีนที่เด่นในด้านของสถาปัตยกรรม ภายในวัดมีต้นไม้ใบหญ้าขึ้นอยู่อย่างร่มรื่น แค่ก้าวเข้ามาภายในวัดก็รู้สึกได้แล้วถึงความสบายใจ และแลนด์มาร์คประจำวัดนี้อย่างตึกมังกรตะกายฟ้า ตึกทรงจีนสีชมพูที่มีความเด่นคือมีรูปปั้นมังกรขนาดยักษ์พันรอบไปตามตัวตึก ซึ่งเราสามารถเดินขึ้นไปในตัวมังกรเพื่อขึ้นไปสู่ยอดตึกนี้ได้ด้วย ซึ่งทางเดินภายในตัวมังกรนี้จะเป็นทางปูนที่มีความชันนิดหน่อย เราจะได้เดินไปตามความคดเคี้ยวของตัวมังกรที่โอบล้อมตึกแห่งนี้เอาไว้ ใช้เวลาเดินประมาณ 10 นาทีก็จะถึงยอดตึก บนยอดตึกนี้จะเป็นจุดที่เราสามารถชมวิวเมืองนครปฐมได้แบบพาโนรามาเลยทีเดียว อีกทั้งยังเป็นที่ประดิษฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นต้นศรีมหาโพธิ์จำลอง สถานที่ประสูติขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า และพระพุทธรูปปางต่างๆ และชั้นบนสุดจะเป็นจุดที่หัวมังกรยักษ์โผล่พ้นขึ้นมา เมื่อได้มายืนอยู่ตรงหน้าหัวมังกรแล้วรู้สึกได้ถึงความยิ่งใหญ่และน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก เป็นความมหัศจรรย์ในการสร้างจากฝีมือของมนุษย์ได้อย่างน่าเหลือเชื่อเลยจริงๆ เสร็จแล้วเราไปเดินเล่นกันต่อบริเวณรอบๆ วัด ซึ่งก็จะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกหลายสิ่งประดิษฐานอยู่ ทั้งพญาเต่าเรือนยักษ์ เจ้าแม่กวนอิม และพญาช้างเผือก เป็นต้น สามารถเดินเล่นพักผ่อนได้ชิลๆ ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ โดยรวมแล้ววัดสามพรานแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คที่สวยงามมากๆ โดยเฉพาะบริเวณ ตึกมังกรตะกายฟ้า ที่มีความยิ่งใหญ่อลังการ แถมตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ด้วย หากมีโอกาสควรมาชมความอลังการนี้ด้วยตาตัวเองสักครั้ง รับรองว่าคุณจะประทับใจอย่างแน่นอน - ที่ตั้งวัดสามพราน : หมู่ที่ 7 92/8 ตำบล สามพราน อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม - เวลาเปิด - ปิด : จันทร์- ศุกร์ ปิดเวลา 17.00 น. / เสาร์ - อาทิตย์ ปิดเวลา 18.00 น. ขอบคุณข้อมุลและถาพประกอบจาก : sanook , Peeranut P.
รวมสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ แบบไปเช้า-เย็นกลับ พักผ่อนชิล ๆ ในวันที่มีเวลาน้อย แถมยังไม่เหนื่อยกับการเดินทางด้วยนะ เวลา...คือองค์ประกอบสำคัญในการวางแผนท่องเที่ยว เพราะบางคนพอจะมีเวลาไปเที่ยวเพียงแค่วันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันหยุดตามเทศกาลต่าง ๆ เท่านั้น ทำให้ไม่อยากเหน็ดเหนื่อยกับการเดินทางเท่าไร จึงมองหาสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ ๆ กรุงเทพฯ เพื่อพาตัวเองไปชาร์จแบตฯ เพิ่มพลังใจพลังกาย วันนี้เราหยิบเอาที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ไปเช้า-เย็นกลับได้สบาย ๆ มาแนะนำกัน เริ่มที่ 1. วัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กระแสจากละครเรื่องบุพเพสันนิวาสฟีเว่อร์ทำให้เล่าออเจ้าจากทั่วประเทศ ใส่ชุดไทยเดินทางไปเที่ยววัดไชยวัฒนารามกันอย่างล้นหลาม วัดแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา สร้างขึ้นในช่วง พ.ศ. 2173 โดยพระเจ้าปราสาททอง กษัตริย์อยุธยาในสมัยนั้นโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย เช่น พระปรางค์ศรีรัตนมหาธาตุ เป็นปรางค์ประธานที่ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัส แต่ละมุมของฐานมีปรางค์ประจำทิศตั้งอยู่ด้วย ซึ่งเป็นลักษณะสถาปัตยกรรมแบบสมัยอยุธยาตอนต้น วัดไชยวัฒนาราม เปิดให้เข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ในช่วงเวลา 19.30-21.00 น. จะมีการเปิดไฟส่องไปยังโบราณสถานภายในวัด บรรยากาศสวยงามมาก 2. วัดพุทไธศวรรย์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อีกหนึ่งสถานที่สำคัญที่ถูกกล่าวถึงในละครเรื่องบุพเพสันนิวาส วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ตำบลสำเภาล่ม อำเภอพระนครศรีอยุธยา สร้างโดยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ซึ่งโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในบริเวณที่เคยเป็นสถานที่ตั้งพลับพลาที่ประทับเมื่อครั้งที่ทรงอพยพมาอยู่กรุงศรีอยุธยาในช่วงก่อนที่จะมีการสถาปนากรุงศรีอยุธยา ตรงกับ พ.ศ. 1896 รวมมีอายุกว่า 665 ปี สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดพุทไธศวรรย์ อาทิ พระมหาธาตุ, พระระเบียง, พระพุทธรูปรอบพระระเบียง, วิหารพระพุทไธศวรรย์ (วิหารพระนอน), พระอุโบสถ, ตำหนักพระพุทธโฆษาจารย์, พระอนุสาวรีย์กษัตริย์ 3 พระองค์, จิตรกรรมฝาผนัง เป็นต้น วัดพุทไธศวรรย์ สามารถเข้าเที่ยวชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น 3. พระราชวังบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระราชวังโบราณตั้งแต่สมัยอยุธยา สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ใช้เป็นสถานที่ประทับแรม ปัจจุบันเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ ภายในเขตพระราชวังมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย เช่น หอเหมมณเฑียรเทวราช ปรางค์ศิลาจำลองแบบจากปรางค์ขอม, พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ เป็นพระที่นั่งปราสาทโถงทรงจตุรมุขอยู่กลางสระน้ำ รูปแบบสถาปัตยกรรมแบบไทย, อนุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ และหอวิฑูรทัศนา ตั้งอยู่กลางเกาะน้อยในสวนเขตพระราชวังชั้นใน เป็นต้น พระราชวังบางปะอิน เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. (โปรดแต่งกายสุภาพ) ค่าเข้าชมเด็ก/นักเรียน/นักศึกษา ราคา 20 บาท, ผู้ใหญ่ ราคา 30 บาท และชาวต่างชาติ ราคา 100 บาท สอบถามรายละเอียดได้ที่ สำนักพระราชวังบางปะอิน โทรศัพท์ 035 261 044, 035 261 549, 035 261 673 4. ตลาดน้ำอโยธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสบรรยากาศที่โอบล้อมด้วยสายน้ำเย็นฉ่ำ มีระเบียงริมน้ำให้นักท่องเที่ยวไว้นั่งหย่อนขาสัมผัสสายน้ำเย็นชื่นใจ หลากหลายด้วยเมนูอาหารอร่อย ๆ ทั้งของคาว-ของหวาน เช่น ผัดไทย, ทอดมัน, ก๋วยเตี๋ยว, น้ำพริกปลาทู, ส้มตำรสเด็ด, ขนมครกไข่นกกระทา, ถุงทอง, หมูระเบิด, ไก่ระเบิด, หอยครกกระทะร้อน และยำต่าง ๆ เป็นต้น รวมถึงการได้ชมการแสดงประวัติศาสตร์ที่มีให้ชมทุกวัน ตลาดน้ำอโยธยา เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ayothayafloatingmarket.in.th 5. วัดพระงาม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อีกหนึ่งวัดอันซีนที่เราอยากชวนไปเที่ยวชม ตั้งอยู่ริมคลอง ตำบลคลองสระบัว นอกเกาะเมืองทางด้านทิศเหนือ หนึ่งในวัดเก่าแก่ของอยุธยาที่งดงามด้วยสถาปัตยกรรมทรงคุณค่า มีเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม ซึ่งเป็นประธานของวัด โดยไฮไลต์สำคัญของวัดนั่นคือ "ประตูแห่งกาลเวลา" มีลักษณะเป็นซุ้มประตูก่อด้วยก้อนอิฐมอญ และมีต้นโพธิ์ใหญ่โอบล้อมทั่วทั้งซุ้มประตู ทั้งงดงามและแปลกใหม่ อีกทั้งยังเป็นมุมถ่ายภาพที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอยู่ไม่น้อย จนกลายเป็นอีกหนึ่งความอันซีนของอยุธยา ช่วงเวลาที่เหมาะจะถ่ายรูปพระอาทิตย์ลอดซุ้มประตูคือช่วงเวลา 17.00-18.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก วัดพระงาม"ประตูแห่งกาลเวลา "คลองสระบัว ขอบคุณข้อมูลจาก : travel.kapook
ใครกำลังมองหาที่เที่ยวทำบุญไปเช้าเย็นกลับจากกรุงเทพฯ ได้แบบสบายๆ ตาม Sanook! Travel มา เราจะพาทุกคนไปชมความงดงามวิจิตรตระการตาของ หลวงปู่หลิวประทับพญาเต่าเรือน ที่วัดไร่แตงทอง จังหวัดนครปฐม โดยหลวงพ่อหลิวนี้ถือได้ว่าเป็นเกจิที่ชาวนครฐมรวมถึงลูกศิษย์ลูกหาจากทั่วประเทศให้การเคารพนับถือ จึงได้ทำการสร้างรูปล่อหลวงปู่หลิวประทับเพญาเต่าเรือนนี้ขึ้นในวัด กลายเป็นสถานที่สักการะบูชาสำหรับลูกศิาย์ลูกหาและนักท่องเที่ยวทั่วไป เมื่อได้มายืนอยู่ตรงหน้าแล้วจะสัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่และน่าเกรงขามของพญาเต่าเรือนตัวนี้ รวมไปถึงสัมผัสได้ถึงบารมีของหลวงปู่หลิวที่ประทับอยู่บนตัวเต่า หากใครมีแผนจะมาเที่ยวใกล้ๆ กรุงเทพฯ ในแทบนครปฐมลองแวะมากราบไหว้สักการะบูชากันดูรับรองว่าสวยงามประทับใจแน่นอน ที่ตั้งวัดไร่แตงทอง : หมู่ที่ 15 ตำบล ทุ่งลูกนก อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ขอบคุณข้อมูลจาก : sanook , Peeranut P.
|
AuthorWrite something about yourself. No need to be fancy, just an overview. Archives
January 2021
Categories |