ถ้าหากจะถามถึงหมู่บ้านท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจากนักท่องเที่ยว ชื่อของหมู่บ้านแม่กำปอง คงจะขึ้นมาอยู่ในอันดับต้นๆ แน่นอน และสำหรับใครที่ยังไม่เคยมีโอกาสได้เไปเที่ยวแม่กำปอง คงจะมีคำถามอยู่ในใจแน่นอนว่าเหตุใด หมู่บ้านแม่กำปองแห่งนี้ถึงมีแต่คนไปเที่ยวกัน เราก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ยังไม่เคยมีโอกาสไปเที่ยวที่นี่มาก่อน ได้แต่ดูรูปภาพและรีวิวต่างๆ นานา พร้อมทั้งเก็บความสงสัยเอาไว้ในใจว่าเหตุใดคนถึงชอบไปเที่ยวที่นี่กันนัก และเมื่อมาถึงวันหนึ่งที่เราได้มีโอกาสมาเยือนหมู่้บานแห่งนี้ ความสงสัยในใจก็ได้สลายหายไปในพริบตา เหลือเพียงไว้แค่ความทรงจำที่แสนจะประทับใจเก็บเอาไว้มาเล่าให้ทุกคนได้อ่านกันในวันนี้ครับ หมู่บ้านแม่กำปองเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมามาอย่างยาวนาน แต่ก่อนชาวบ้านที่นี่จะประกอบอาชีพทำสวนเมี่ยงเป็นอาชีพหลัก และในสมัยก่อนนั้นในหมู่บ้านจะมีดอกไม้ชนิดหนึ่ง มีสีเหลืองแดงขึ้นอยู่ตามลำห้วย เรียกว่าดอกกำปอง ซึ่งเป็นที่มาของชื่อหมู่บ้านแม่กำปองมาจนถึงทุกวันนี้ ด้วยลักษณะทางภูมิประเทศของหมู่บ้านแห่งนี้ซึ่งมีลำห้วยไหลผ่าน และถูกโอบล้อมไปด้วยขุนเขา เรียกได้ว่าเป็นหมู่บ้านกลางหุบเขาเลยก็ได้ จึงทำให้ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบในความเงียบสงบและโลเคชันที่สวยงามของหมู่บ้านแห่งนี้ จึงได้เกิดธุรกิจการท่องเที่ยวชุมชนขึ้นมาในหมู่บ้านแห่งนี้นั่นเอง การท่องเที่ยวในแม่กำปองนั้น สามารถขับรถขึ้นไปเที่ยวได้จากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น เส้นทางขึ้นสู่หมู่บ้านค่อนข้างแคบและชันต้องใช้ความระมัดระวังในการขับขี่พอสมควร ด้านบนจะมีที่พักริมน้ำให้บริการอยู่มากมาย รวมไปถึงคาเฟ่สวยๆ บรรยากาศดีอีกหลายร้านเช่นกัน หากใครมีแพลนมาเที่ยวแม่กำปองแนะนำให้นอนพักกันสักหนึ่งคืนจะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศของหมู่บ้านแห่งนี้กันอย่างเต็มที่ ภายในหมู่้บานแม่กำปองนั้นสามารถเดินเท้าเที่ยวไปตามถนนเส้นหลักได้ โดยจะผ่านจุดเช็กอินสวยๆ มากมาย ทั้งร้านกาแฟฮิมห้วย ลุงปุ๊ดป้าเป็ง วัดแม่กำปอง ร้านไส้อั่วป้านิ่ม เป็นต้น ซึ่งระหว่างทางเดินนั้นคุณจะได้พบกับความคลาสสิคของหมู่บ้านแห่งนี้ที่ยังคงไม่แปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ตึกรามบ้านช่องยังคงสภาพแบบเดิม ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่เป็นจุดขายของหมู่บ้านแม่กำปองเลยก็ว่าได้ ใครที่ชอบถ่ายรูปนี่สามารถเดินเล่นหามุมถ่ายรูปกันได้แบบเพลินๆ เลย ต่อจากในตัวหมู่บ้านเราเดินเล่นกันไปจนถึงระเบียงวิวคาเฟ่ คาเฟ่ที่มีวิวทิวทัศน์สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของหมู่บ้านแห่งนี้เลยก็ว่าได้ โดยตัวคาเฟ่นั้นจะมีระเบียงยื่นออกไปเป็นจุดชมวิวให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับวิวหมู่บ้านแม่กำปองมุมสูง ซึ่งถูกรายล้อมไปด้วยความอุมดสมบูรณ์ของป่าไม้เขียวขจี มีขุนเขาล้อมรอบเป็นวิวธรรมชาติที่สวยงามจับใจจริงๆ สั่งเครื่องดื่มร้อนหรือเย็นมานั่งดื่มฟินๆ กันบริเวณระเบียงนี้ รอชมวิวพระอาอาทิตย์ตกที่เริ่มแปรเปลี่ยนสีท้องฟ้าให้กลายเป็นสีท้อง เป็นโมเม้นต์ที่ยังคงติดอยู่ในความทรงจำมาจนทุกวันนี้ ดีงามมากจริงๆ และในตอนเช้ามืดหากใครอยากจะขึ้นไปชมวิวบนกิ่วฝิ่น ซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างเมืองเชียงใหม่และลำปาง สามารถใช้บริการรถนำเที่ยวอขงชาวบ้านขึ้นไปที่กิ่วฝิ่นกันได้ ค่าบริการคนละ 100 บาท ไปกลับ ด้านบนกิ่วฝิ่นนั้นจะเป็นวิวทะเลภูเขาที่อุดมสมบูรณ์และถ่ายรูปสวยมากๆ อากาศเย็นสบายชิลๆ คุ้มค่ากับการตื่นนอนจริงๆ โดยรวมแล้วการมาเที่ยวแม่กำปองในครั้งนี้ทำให้เราเข้าใจเลยว่าเหตุใดหลายๆ คนถึงชอบมาที่นี่กัน อาจจะเพราะความสวยงามของธรรมชาติ วัฒนธรรม และอาหารการกิน แต่ไม่ว่าจด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่แม่กำปองนั้น เป็นสถานที่ที่ควรมาเยือนสักครั้งจริงๆ เป็นต้นแบบของการท่องเที่ยวชุมชนที่ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน เป็นความสุขที่แสนเรียบง่ายแต่ทำให้เรารู้สึกประทับใจและอยากจะอยู่ที่นี่ไปนานๆ หรือเรียกง่ายๆ ว่าตกหลุมรักที่นี่ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้มาเยือนเลยนั่นเอง ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบบจาก : sanook ,Peeranut P.
0 Comments
กำลังจะเริ่มขึ้นแล้วในปีนี้สำหรับงาน กระทงสายไหลประทีป ๑๐๐๐ ดวง ประจำปี 2563 งานประเพณีไทยสุดยิ่งใหญ่ของจังหวัดตาก โดยในปีนี้จะมีกำหนดจัดงานกระทงสายขึ้นในช่วงวันที่ 31 ตุลาคม - 1 พฤศจิกายน 2563 ภายในงานจะมีกิจกรรมและร้านค้าออกมาจัดร้านขายของกันมากมาย แต่งแต้มสีสันให้กับเมืองตากเป็นประจำในทุกๆ ปี โดยมีกำหนดการภายในงานดังนี้ วันที่ 31 ตุลาคม 2563 ตั้งแต่เวลา 17.00 น. จะเริ่มเคลื่อนขบวนอัญเชิญพระประทีปพระราชทาน ขบวนแห่เรือกระทงสาย ขบวนแห่สายกระทง ทั้ง 7 สาย พร้อมกัน ณ หน้าศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เวลา 18.30 น. เป็นการเคลื่อนขบวนอัญเชิญพระประทีปพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ รวม 9 พระองค์ ขบวนแห่เรือกระทงสาย ขบวนแห่สายกระทงทั้ง 7 สาย เวลา 19.00 น. หัวหน้าส่วนราชการ พร้อมกัน ณ ปะรำพิธีนั่งชมขบวนแห่หน้าอาคารกิตติคุณ เวลา 19.20 น. ประธานในพิธี และแขกผู้มีเกียรติเดินทางมาถึง ฯ ปะรำพิธีนั่งชมขบวนแห่หน้าอาคารกิตติคุณ เวลา 21.00 น. พิธีอัญเชิญพระประทีปพระราชทาน ประดิษฐาน ณ เวทีกลางน้ำปิง เวลา 21.20 น. พิธีเปิดงานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป ๑๐๐๐ ดวง ประจำปี 2563 *ประธาณคณะกรรมการดำเนินงาน กล่าวรายงานการจัดงาน*ประธานในพิธีกล่าวเปิดงาน-พิธีอัญเชิญพระประทีปพระราชทาน 9 พระองค์ ลงลอยเป็นปฐมฤกษ์และเป็นสิริมงคลในการจัดงานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป ๑๐๐๐ ดวง-พิธีเปิดการจัดงาน และการแสดงที่วิจิตรงดงาม พร้อมพลุสวยงามเต็มท้องฟ้า-ชมการแสดงการลอยกระทงสายไหลประทีป ๑๐๐๐ ดวง -เสร็จพิธี วันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 เวลา 17.00 น. การบูชาพระแม่คงคา และลอยกระทงสะเดาะเคราะห์ ณ บริเวณท่าลอยกระทง เหนือสะพานแขวนฯ เวลา 18.00 น. ลานครัวกระทงสาย ณ ด้านเหนืออาคารกิตติคุณ-ลานกิจกรรมสร้างสรรค์ สสส. การสาธิต ประดิษฐ์กระทงกะลาและบูธนิทรรศการประกวดภาพถ่ายฯ-กาดกระทงสาย และจำหน่ายสินค้า OTOP ณ ด้านใต้อาคารกิตติคุณ เวลา 20.00 น. พิธีขอขมาพระแม่คงคา (ทอดผ้าป่าน้ำ) ณ เวทีกลางน้ำปิง เวลา 20.30 น. ชมการแสดงการลอยกระทงสายไหลประทีป ๑๐๐๐ ดวง สายที่ 1 เวลา 20.30 น. ชมการแสดงการลอยกระทงสายไหลประทีป ๑๐๐๐ ดวง สายที่ 2-ชมพลุสวยงาม ปิดงานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป ๑๐๐๐ ดวง เวลา 21.30 น. เสร็จสิ้นการจัดงานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป ๑๐๐๐ ดวง ประจำปี 2563 ***หมายเหตุ:กำหนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม ติดต่อสอบถามข้อมูล
- การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตาก - เปิดทำการวันจันทร์ - วันศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. - โทร.0-5551-4341-3 - อีเมล์ [email protected] - www.facebook.com/taktravel ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook ,Peeranut P. สภาพอากาศในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์มีอากาศหนาวเย็นลง อุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 19 องศาเซลเซียส ในช่วงกลางดึกจนถึงเช้าจะมีหมอกปกคลุม หลายๆ คนต่างกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยบรรยากาศเมื่อช่วงเช้าวันนี้บนยอดเขาภูสิงห์ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ พบว่ามีทะเลหมอกปกคลุมรอบภูสิงห์ อีกทั้งอากาศยังเย็นลง ซึ่งบนยอดเขาภูสิงห์ประดิษฐานองค์พระพรหมภูมิปาโล พระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ประดิษฐานอยู่บนยอดเขาภูสิงห์เป็นที่เคารพบูชาของชาว อ.สหัสขันธ์ มายาวนาน โดยรอบองค์พระพรหมภูมิปาโล ได้สร้างเป็นลานธรรมขนาดใหญ่รอบด้วยรูปปั้นพญานาคอย่างสวยงาม ซึ่งประชาชนที่เดินทางขึ้นมาบนยอดเขาภูสิงห์ จะสามารถชมทิวทัศน์ที่สวยงามมองเห็นทัศนียภาพของ อ.สหัสขันธ์ ได้โดยรอบแบบ 360 องศา ชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า พระอาทิตย์ตกยามเย็นได้ นอกจากนี้ยังสัมผัสกับอากาศที่หนาวเย็น โดยประชาชนสามารถเดินทางขึ้นมาชมทะเลหมอกได้สองทาง คือการนำรถยนต์ส่วนตัวเดินทางขึ้นมาบนเขาภูสิงห์ และการเดินขึ้นบันไดสวรรค์ 654 ขั้น ซึ่งเป็นการออกกำลังกายในตัว ซึ่งตลอดทั้งวันบนยอดเขาภูสิงห์จะมีอากาศเย็นสบายจึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมากราบไหว้องค์พระพรหมภูมิปาโล พร้อมชมความสวยงามบนลานธรรมขนาดใหญ่สร้างเหมือนสกายวอล์คจึงเป็นที่นิยมมาเที่ยวชม ซึ่งในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมกันอย่างเนืองแน่น ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook ,Peeranut P.
ที่บริเวณทางปั่นจักรยาน ริมถนนสืบศิริ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก พากันมาถ่ายรูปเซลฟี่กับอุโมงค์ต้นสากุระจำลองกว่า 40 ต้น ซึ่งเต็มไปด้วยดอกสากุระสีชมพู บานสะพรั่งอยู่ 2 ฝั่งทางปั่นจักรยาน ระยะทางยาวกว่า 300 เมตร โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมาเป็นกลุ่มครอบครัว และมีหลายกลุ่มที่มาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกช่วงรับปริญญา ซึ่งบรรยากาศราวกับอยู่ในประเทศญี่ปุ่น โดยถนนสากุระบานแห่งนี้ เกิดจากไอเดียของ 2 หนุ่มนักธุรกิจร้านกาแฟ ฮิป คอฟฟี่ ที่ตั้งอยู่จุดใกล้เคียง ได้ทุ่มเงินส่วนตัวกว่า 3 ล้านบาท และขออนุญาตเทศบาลนครนครราชสีมา นำมาติดตั้งไว้เพื่อให้กลายเป็นแลนด์มาร์คแหล่งท่องเที่ยวใหม่ของตัวเมืองโคราช นายอัครวัฒน์ ยงค์สกุลจินดา หรือ โอ๋ ผู้บริหารร้านกาแฟ ฮิปคอฟฟี่ เปิดเผยว่า เนื่องจากทางเทศบาลนครนครราชสีมา ได้ทำการสร้างทางปั่นจักรยานหลายสาย สำหรับให้ประชาชนได้ปั่นจักรยานออกกำลังกาย และทางปั่นจักรยานก็ได้ผ่านบริเวณหน้าร้านกาแฟของตนเองพอดี ตนเองและ นายเศรษฐภัทร จีรธนันต์กุล หรือ เอ็กซ์ เจ้าของร้านกาแฟ จึงได้ไปขออนุญาตเทศบาลนครนครราชสีมา นำต้นสากุระจำลองที่มีดอกสีชมพูบานสะพรั่งกว่า 40 ต้น มาติดตั้งไว้สองฝั่งทางปั่นจักรยาน เป็นระยะทางกว่า 300 เมตร เพื่อให้เป็นอุโมงค์ต้นสากุระที่สวยงาม ทำเป็นแลนด์มาร์คแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของตัวเมืองโคราช โดยใช้เงินส่วนตัวกว่า 3 ล้านบาทมาทำ เนื่องจากตนเองและเพื่อนเคยไปเที่ยวประเทศญี่ป่น ไปเห็นถนนดอกซากุระที่นั่นสวยงามมาก จึงอยากให้มีถนนดอกซากุระบานในประเทศไทยบ้าง โดยขณะนี้เพิ่งนำมาติดตั้งและยังตกแต่งไม่แล้วเสร็จ เพิ่งได้ 90% เท่านั้น เพราะยังต้องนำซุ้มประตูญี่ปุ่นมาติดตั้ง เป็นจุดถ่ายภาพอีกหลายจุด เพื่อต้อนรับลมหนาวที่จะถึงนี้ แต่เมื่อนักท่องเที่ยวมาเห็นเข้า ก็พากันถ่ายรูปเซลฟี่โพสในโลกโซเชี่ยลเป็นจำนวนมาก ทำให้มีนักท่องเที่ยวแห่มาชม มาถ่ายรูปกันเพิ่มขึ้นคึกคักตลอดทุกวัน ถือว่าได้เสียงตอบรับดีมาก จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาชม มาถ่ายรูปกันได้ฟรี ไม่มีคิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ขอบคุณข้อมูลและภพประกอบจาก : Sanook Travel,INN News,chon chon
ประเพณีลอยกระทงเป็นประเพณีอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นในคืนวันเพ็ญเดือน 12 หรือวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 12 โดยวันลอยกระทงปี 2563 นี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 31 ตุลาคม 2563 ซึ่งกิจกรรมสำคัญคือการลอยกระทง ซึ่งในช่วงเวลานี้แม้จะยังอยู่ในช่วงสถานการณ์เฝ้าระวังโควิด-19 และมีการจัดการชุมนุม แต่หลายๆ ที่ทั่วไทยยังคงจัดงานลอยกระทง 2563 เพื่อให้เราได้ออกไปร่วมกิจกรรม และรักษาไว้ซึ่งประเพณีอันดีงาม วันลอยกระทง 2563 ประวัติ ตำนานและความเชื่อวันลอยกระทง งานลอยกระทงไอคอนสยาม ในปีนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและไอคอนสยามจัดงาน ICONSIAM Chao Phraya River of Eternal Prosperity” ตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2563 – วันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 ณ ไอคอนสยาม โดยในปีนี้ ความพิเศษคือรูปแบบการลอยกระทงจะมุ่งเน้นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการจำหน่ายกระทงผลิตจากน้ำแข็ง กระทงจากวัสดุธรรมชาติที่ย่อยสลายได้ กระทงจากวัสดุรีไซเคิล พร้อมเพลิดเพลินกับกิจกรรมความสุขตามแบบวิถีไทยมากมาย อาทิ ชมความงดงามของขบวนนางนพมาศชุด “The Show Of Eternal Prosperity” และการแสดง มินิคอนเสิร์ตจากศิลปินนักร้องชื่อดัง ณ บริเวณ River Park ชั้น G นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการจัดแสดงกระทงนานาชาติจากสถานทูตนานาประเทศ บริเวณThara Hall ชั้น 1 - สถานที่จัดงาน : ไอคอนสยาม - วันจัดงาน : 24 ตุลาคม 2563 – วันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 เทศกาลสายน้ำแห่งวัฒนธรรมไทยครั้งที่ 6 หรือ River Festival Thailand 2020 "รื่นเริง แสงศิลป์" ปีนี้กิจกรรมบันเทิงอัดแน่นทุกท่าน้ำ กิจกรรมดีงามไฮไลท์มีเพียบ! เตรียมตัวมาเที่ยวชมงานวัฒนธรรมดีงามนี้กันได้ในวันที่ 29-31 ตุลาคม 2563 ณ 10 ท่าน้ำร่วมสมัย วัดโพธิ์, วัดอรุณฯ, วัดระฆังฯ, วัดกัลยาฯ, วัดประยูรฯ, ท่ามหาราช, ยอดพิมาน ริเวอร์ วอล์ค, ล้ง1919, สุขสยาม ณ ไอคอนสยาม และเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ - สถานที่จัดงาน : วัดโพธิ์, วัดอรุณฯ, วัดระฆังฯ, วัดกัลยาฯ, วัดประยูรฯ, ท่ามหาราช, ยอดพิมาน ริเวอร์ วอล์ค, ล้ง1919, สุขสยาม ณ ไอคอนสยาม และ- เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ - วันจัดงาน : 29-31 ตุลาคม 2563 งานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ประจำปี 2563 งานประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย ประจำปี 2563 มีกำหนดการจัดงานระหว่างวันที่ 23 ตุลาคม - 1 พฤศจิกายน 2563 ณ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ซึ่งตลอดการจัดงานจะมีการตกแต่งสถานที่ ประดับประไฟอย่างสวยงาม มีการออกร้านค้าจำหน่ายสินค้าจากทั้งชาวบ้านและหน่วยงานต่าง ๆ โดยไฮไลต์ของงานจะเป็นการแสดงแสง เสียง Light & Sound ระหว่างวันที่ 27 - 31 ตุลาคม 2563 สามารถเข้าชมได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ - สถานที่จัดงาน : อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย - วันจัดงาน : 23 ตุลาคม - 1 พฤศจิกายน 2563 ประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่ 2563 พบกับการจัดงานรูปแบบใหม่ ชมการจุดผางประทีปรอบคูเมือง “ต๋ามผางปะติ๊ดส่องฟ้าฮักษาเมือง ประกวดหนูน้อยยี่เป็ง เทพี-เทพบุตรยี่เป็ง และรถกระทงใหญ่ เปิดให้เข้าชมความงดงาม อลังการณ์ของรถกระทงใหญ่ ทั้ง 7 จุดรอบเมืองเชียงใหม่ ในค่ำคืนวันลอยกระทง ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2563 - สถานที่จัดงาน : 7 จุดรอบเมืองเชียงใหม่ - วันจัดงาน : 31 ตุลาคม – 1 พฤศจิกายน 2563 ประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป ๑๐๐๐ ดวง ประจำปี 2563 ทางจังหวัดตากของเราจะจัดงานขึ้น ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม 2563 ถึง 1 พฤศจิกายน 2563 - วันที่ 31 ตุลาคม 2563 - ตั้งแต่เวลา 17.00 น. จะเริ่มเคลื่อนขบวนอัญเชิญพระประทีปพระราชทาน ขบวนแห่เรือกระทงสาย ขบวนแห่สายกระทง ทั้ง 7 สาย พร้อมกัน ณ หน้าศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช - เวลา 18.30 น. เป็นการเคลื่อนขบวนอัญเชิญพระประทีปพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ รวม 9 พระองค์ ขบวนแห่เรือกระทงสาย ขบวนแห่สายกระทงทั้ง 7 สาย - เวลา 19.00 น. หัวหน้าส่วนราชการ พร้อมกัน ณ ปะรำพิธีนั่งชมขบวนแห่หน้าอาคารกิตติคุณ - เวลา 19.20 น. ประธานในพิธี และแขกผู้มีเกียรติเดินทางมาถึง ฯ ปะรำพิธีนั่งชมขบวนแห่หน้าอาคารกิตติคุณ - เวลา 21.00 น. พิธีอัญเชิญพระประทีปพระราชทาน ประดิษฐาน ณ เวทีกลางน้ำปิง - เวลา 21.20 น. พิธีเปิดงานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป ๑๐๐๐ ดวง ประจำปี 2563 *ประธาณคณะกรรมการดำเนินงาน กล่าวรายงานการจัดงาน *ประธานในพิธีกล่าวเปิดงาน -พิธีอัญเชิญพระประทีปพระราชทาน 9 พระองค์ ลงลอยเป็นปฐมฤกษ์และเป็นสิริมงคลในการจัดงานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป ๑๐๐๐ ดวง -พิธีเปิดการจัดงาน และการแสดงที่วิจิตรงดงาม พร้อมพลุสวยงามเต็มท้องฟ้า -ชมการแสดงการลอยกระทงสายไหลประทีป ๑๐๐๐ ดวง -เสร็จพิธี และวันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 - เวลา 17.00 น. การบูชาพระแม่คงคา และลอยกระทงสะเดาะเคราะห์ ณ บริเวณท่าลอยกระทง เหนือสะพานแขวนฯ - เวลา 18.00 น. ลานครัวกระทงสาย ณ ด้านเหนืออาคารกิตติคุณ ลานกิจกรรมสร้างสรรค์ สสส. การสาธิต ประดิษฐ์กระทงกะลาและบูธนิทรรศการประกวดภาพถ่ายฯ กาดกระทงสาย และจำหน่ายสินค้า OTOP ณ ด้านใต้อาคารกิตติคุณ - เวลา 20.00 น. พิธีขอขมาพระแม่คงคา (ทอดผ้าป่าน้ำ) ณ เวทีกลางน้ำปิง - เวลา 20.30 น. ชมการแสดงการลอยกระทงสายไหลประทีป ๑๐๐๐ ดวง สายที่ 1 - เวลา 20.30 น. ชมการแสดงการลอยกระทงสายไหลประทีป ๑๐๐๐ ดวง สายที่ 2 ชมพลุสวยงาม ปิดงานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป ๑๐๐๐ ดวง - เวลา 21.30 น. เสร็จสิ้นการจัดงานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป ๑๐๐๐ ดวง ประจำปี 2563 ***หมายเหตุ: กำหนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลง งานสีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง ปี 2563 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา - วันที่ 29-30 ตุลาคม 2563 เวลา 16.00-22.00 น. - วันที่ 31 ตุลาคม 2563 เวลา 16.00-24.00 น. กิจกรรมภายในงาน สัมผัสบรรยากาศงานประเพณีลอยกระทงย้อนยุคเชิงวัฒนธรรมไทย ความเป็นอดีตที่รุ่งเรืองและความงดงามความเป็นไทย ในรูปแบบ new normal เชิญชวนแต่งกายผ้าไทยหรือชุดไทยเข้าร่วมงาน และจองเข้าร่วมงานล่วงหน้าทางแอพพลิเคชั่น Que Q -ขบวนแห่ประเพณีลอยกระทงวิถีไทย - การแสดงดอกไม้ไฟโบราณ - การแสดงทางวัฒนธรรม การแสดงร่วมสมัย และการแสดงที่หาชมได้ยาก - กิจกรรมสาธิตศิลปวัฒนธรรม - ร้านค้าจำหน่ายอาหารและหัตถกรรม Premium crafts and food - กิจกรรม DIY - สถานที่จัดงาน : วัดมหาธาตุ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา - วันจัดงาน : 29 - 31 ตุลาคม 2563 งานเทศกาลโคมแสนดวงที่เมืองลำพูน ประจำปี 2563 และงาน River Festival Lamphun ครั้งที่ 2 "เทศกาลโคมแสนดวงที่เมืองลำพูน" ประจำปี 2563 เป็นส่วนหนึ่งของงานประเพณีลอยกระทง หรือประเพณียี่เป็ง ถวายเป็นพุทธบูชาพระธาตุหริภุญชัย และเพื่อถวายสักการะพระนางจามเทวี ปฐมกษัตริย์แห่งเมืองลำพูน ตลอดจนเพื่อส่งเสริมขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของชาวล้านนาให้คงอยู่สืบไป โดยเทศกาลนี้จัดขึ้นตั้งแต่วันนี้ – 31 ตุลาคม 2563 สำหรับกิจกรรมภายในงานคือการบูชาโคมไฟ และร่วมประดับประดาตกแต่งโคมไฟหลากสีสัน มีความสวยงาม สว่างไสว ไปทั่วบริเวณงาน ทั้งนี้ทางจังหวัดลำพูน มีการเตรียมพร้อมตามมาตรการควบคุมโรค และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อาทิ การรักษาระยะห่างระหว่างบุคคล การให้ผู้ร่วมงานสวมหน้ากากอานามัย หรือหน้ากากผ้า ก่อนเข้าร่วมภายในงาน เพื่อความปลอดภัย และสร้างความอุ่นใจแก่พี่น้องประชาชน และผู้ที่เข้าร่วมงาน - สถานที่จัดงาน : วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร และลานอนุสาวรีย์พระนางจามเทวี อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน - วันจัดงาน : ตั้งแต่วันนี้ – 31 ตุลาคม 2563 River Festival Lamphun ครั้งที่ 2 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 - 31 ตุลาคม 2563 ซึ่งภายในงานจะได้ชมความสวยงามของแสงสี และป่าริมสายน้ำกวง นอกจากนั้นยังจะได้ช้อปปิ้งให้จุใจไปกับสินค้า งานคราฟต์ พร้อมอาหารท้องถิ่น อาหารพื้นเมืองในแบบล้านนาน งานประเพณีลอยกระทงพัทยา ประจำปี 2563 (Loy Krathong Pattaya Festival 2020) เมืองพัทยา กำหนดจัดงานประเพณีลอยกระทงเมืองพัทยาเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ประจำปี 2563 ในวันที่ 31 ตุลาคม 2563 ภายในงานมีกิจกรรมมากมาย จึงขอเชิญทุกคนไปร่วมสนุกกับกิจกรรมและแสงสีต่างๆ โดยกิจกรรมจัด ณ ลานกิจกรรม ชายหาดพัทยากลาง - สถานที่จัดงาน : ณ ลานกิจกรรม ชายหาดพัทยากลาง @ Central Pattaya Beach - วันจัดงาน : วันที่ 31 ตุลาคม 2563 ลอยกระทงโพธาราม จังหวัดราชบุรี เทศบาลเมืองโพธาราม ขอเชิญชวนร่วมงานประเพณีลอยกระทงเมืองโพธาราม ณ บริเวณริมเขื่อนแม่น้ำแม่กลอง อำเภอโพธาราม ระหว่างวันที่ 26 ตุลาคม - 1 พฤศจิกายน 2563 ชมการแข่งเรือยาวเมืองคนสวย การประกวดนางนพมาศ และการประกวดขบวนแห่สวยงาม - สถานที่จัดงาน : ริมเขื่อนแม่น้ำแม่กลอง อำเภอโพธาราม - วันจัดงาน : 26 ตุลาคม - 1 พฤศจิกายน 2563 ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook ,Suwimol L.
ถ้าหากคุณคิดว่าการไปเที่ยววัดจะน่าเบื่อและจำเจ จะพาคุณไปกับวัดบ้านเด่น จังหวัดเชียงใหม่ วัดที่มีสถาปัตยกรรมอันสวยงามและแปลกตา เจดีย์สีดำที่ดูมินิมอลน่ามาถ่ายรูปมากๆ ผสมผสานกับความสวยงามทางด้านพุทธศิลป์ของเมืองล้านนา กลายเป็นความวิจิตรงดงามที่ลงตัว วัดบ้านเด่นแห่งนี้ถือเป็นโบราณสถานที่สร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2437 หรือกว่า 127 ปีมาแล้ว เป็นวัดเก่าแก่ที่เพิ่งจะเกิดเป็นกระแสการท่องเที่ยวได้ไม่นานมานี้ จุดไฮไลท์ของวัดนี้นั่นก็คือองค์เจดีย์สีดำ ที่ดูมีความขลังและทรงพลังทางด้านศิลปะมากๆ เป็นมุมถ่ายรูปสวยที่หลายๆ คนต้องการเดินทางมาเก็บภาพบรรยากาศเช็กอินกันในจุดนี้ หากในทริปเชียงใหม่รอบหน้าของคุณอยากจะหาสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ จุดเช็กอินถ่ายรูปสวยๆ ไม่ไกลจากตัวเมืองเชียงใหม่มากนัก แนะนำเลยว่าวัดบ้านเด่นแห่งนี้งดงามตระการตามากจริงๆ ข้อมูลเพิ่มเติม
- ที่ตั้งวัดบ้านเด่น : ตำบล อินทขิล อำเภอแม่แตง เชียงใหม่ - เวลาเปิด - ปิด : 7.00 -18.00 น. ขอบคุรข้อมุลและภาพประกอบจาก : sanook ,Peeranut P. ชาวเขาใช้พื้นที่เกษตรเปิดสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ “ม่อนหมอกตะวัน” อยู่ยอดดอยบ้านป่าหวาย โดยนายสุเมธ ศรีธีระวัฒน์ ผู้ใหญ่บ้านป่าหวย หมู่ที่ 3 ตำบลคีรีราษฎร์ อ.พบพระ จังหวัดตาก ได้ วางระบบ และระเบียบในการต้อนรับนักท่องเที่ยว เพื่อให้มีระบบการจัดการที่ถูกต้อง และเรียบร้อย เช่น สถานที่จอดรถยนต์ รถจักรยานยนต์ การทิ้งขยะ จัดการเส้นทางจราจร และบริหารจัดการพื้นที่ให้กับนักท่องเที่ยว โดยพิจารณาในด้านความปลอดภัย ความสะดวก และการรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งพื้นที่ดังกล่าว เป็นของราษฎรในหมู่บ้านที่ครอบครองมานาน มีพื้นที่ทั้งหมด 50 ไร่ อยู่บนยอดเขา มีความสูง1,100 เมตร เต็มไปด้วยทะเลหมอกที่สวยงามในช่วงเช้า ชมพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตกยามเย็น สภาพอากาศมีลมพัดเย็นสบาย แต่ในฤดูหนาวจะหนาวเย็นมาก หรือ แม้แต่ปัจจุบัน ก็มีนักท่องเที่ยวในพื้นที่ และนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดไปกางพักนอนค้างคืนกัน ซึ่งชาวเขาอย่างพวกเราได้ช่วยกันพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้ ด้วยสถานที่พัก การบริการเต้นท์ บริการอาหารเครื่องดื่ม อย่างเช่น หมูกระทะ ปลาเผา ฯลฯ ทางเราเน้นความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เนื่องจากถนนขึ้นไปมีความคับแคบ จะได้ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ และเรื่องขยะมีการประสาน อบต.ขึ้นไปเก็บขยะด้วย ส่วนความช่วยเหลืออื่นๆนั้น ได้เสนอต่อคณะกรรมการพัฒนาส่งเสริมท่องเที่ยวจังหวัดตาก เพื่อพิจารณาดูช่องทางในการช่วยเหลือได้หรือไม่ เพราะพื้นที่ดังกล่าว เป็นพื้นที่การเกษตร นายสุเมธ กล่าวว่า พื้นที่บริเวณนี้มีนักท่องเที่ยวมาตลอด มีทั้งดารา นักแสดง นอกจากคนในพื้นที่ และนักท่องเที่ยวแล้ว แต่ขณะนี้ต้องรีบจัดระเบียบก่อน ที่จะแก้ไขอะไรยากไปกว่านี้ เช่น เคยเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ้างในช่วงขาขึ้นม่อน ซึ่งจากนี้ไปจะประสานกับทางอบต.คีรีราษฎร์ เพื่อหาทางพัฒนาพื้นที่นี้ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของอำเภอพบพระ สำหรับพื้นที่ม่อนหมอกตะวัน มีความสูง 1,100 เมตร เป็นพื้นที่การเกษตร ของชาวเขาเผ่าม้ง ที่ใช้เป็นพื้นที่ทำกินมานาน มีการปลูกข้าวโพด และพืชอื่นๆ แต่เมื่อมีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ทำให้ทางผู้ครอบครองยังไม่สามารถทำการเกษตรได้ จึงยอมให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมความสวยงามทางธรรมชาติ อากาศหนาวเย็นตลอดปี ที่นี่เราจะได้ชมทะเลหมอก 2 เวลา ช่วงเย็น กับ ช่วงเช้า บนม่อนหมอกตะวันแห่งนี้ มีลานกางเต็นท์ของชาวบ้าน ไว้บริการ มีห้องน้ำ ร้านค้าเล็กๆ ขึ้นมาบนนี้บอกเลยฟินกับทะเลหมอกแน่นอน ยิ่งช่วงนี้ชาวบ้านบอกมีทะเลหมอกให้ดูทุกวัน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
-โทร 0842537305 พี่ท่อ คนดูแลจุดกางเต๊นท์ - จองที่พักได้ที่ 0832782842 บ้านพักสไตล์คันทรีมีให้บริการ บริการที่พักพร้อมหมูกระทะ - พิกัด ตำบล คีรีราษฎร์ อำเภอ พบพระ ตาก - การเดินทาง ใช้ถนนหมายเลข 1090 จากตัวแม่สอด มุ่งหน้าสู่อำเภอพบพระ ขับเลยอช.น้ำตกพาเจริญ มาไม่ไกลซ้ายมือ จะมีป้าย น้ำตกป่าหวาย ขับเข้ามาตามถนน ระยะทาง 13กิโลเมตร ถนนคอนกรีดตลอดทางจนถึง จุดกางเต๊นท์ม่อนตะวัน รถทุกชนิดสามารถขึ้นมาได้ ขอบคุณข้อมุลและภาพประกอบจาก : sanook,Peeranut P. ลองคิดภาพบรรยากาศว่าจะฟินแค่ไหน หากคุณได้นอนแช่น้ำชมวิว 360 องศา ของขุนเขาที่รายล้อม วันนี้ จะพาคุณไปสัมผัสกับบรรยากาศแบบนี้กันที่ ผาโสก จังหวัดอุบลราชธานี จากุซซี่ธรรมชาติที่เรียกได้ว่าเป็นอันซีนไทยแลนด์เลยก็ว่าได้ ผาโสก เป็นจุดชมวิวและลานกางเต็นท์ที่ตั้งอยู๋ในเขตอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ต้องเดินเท้าเข้าไปในป่า ไปกลับระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร สามารถกางเต็นท์พักค้างแรมได้ มีวิวด้านหน้าเป็นภูเขาที่สลับซับซ้อนสวยงาม อีกทั้งยังมีก้อนหินที่มีรูปทรงแปลกตาเป็นมุมให้ถ่ายภาพเก็บความทรงจำกันอีกด้วย และไฮไลท์ของผาโสกนี้นั่นก็คือธารน้ำธรรมชาติที่ไหลลงหน้าผา มีแอ่งน้ำให้นักท่องเที่ยวสามารถลงไปเล่นกันได้ ลงไปนอนแช่น้ำชมวิวแบบพาโนรามาบอกเลยว่าฟินสุดๆ หากใครมีโอกาสไปเที่ยวอุบลราชธานีลองแวะไปเยี่ยมชมกันครับ ข้อมูลเพิ่มเติม
ที่ตั้งผาโสก : ภายในอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ตำบลห้วยไผ่ อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook ,Peeranut P.,โนบิตะ กินเที่ยวตามรอย ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้หากใครอยากจะหาสถานที่เที่ยวใหม่ๆ ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มีแหล่งท่องเที่ยวใหม่มาแนะนำกัน กับบ้านไร่ท้ายเขื่อน แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ลานกางเต็นท์และบ้านพัก ที่ตั้งอยู่บริเวณเขื่อนกระเสียว จังหวัดสุพรรณบุรี ที่นี่มีไฮไลท์อยู่ที่ทุ่งดอกไม้ซึ่งกำลังเบ่งบานสวยงามในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นทุ่งดอกหงอนไก่ หรือทุ่งดอกดาวกระจาย ที่กำลังเบ่งบานอยู่พร้อมๆ กัน แต่งแต้มสีสันให้ทั่วทั้งพื้นที่เต็มไปด้วยความสดใสน่าไปถ่ายรูปมากๆ ที่นี่ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนักด้วย เพราะฉะนั้นทรัพยากรทางด้านธรรมชาติยังคงสมบูรณ์เต็มที่ เหมาะแก่การไปเที่ยวพักผ่อนอย่างแท้จริง แนะนำเลยว่าให้ไปที่นี่กันในช่วงเช้าๆ แดดอ่อนๆ จะมีมุมให้คุณได้ถ่ายรูปกันสวนดอกไม้มากมาย และคุณจะต้องได้รุปสวยๆ กลับไปเป็นความทรงจำกันเยอะแยะหลายมุมแน่นอน ข้อมูลเพิ่มเติม
- ที่ตั้งบ้านไร่ท้ายเขื่อน : บ้านหนองพลับ ตำบล ห้วยขมิ้น อำเภอด่านช้าง สุพรรณบุรี - ติดต่อ : 086 160 2778 ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : Sanook Travel ,Peeranut P. ผาชมทะเล จุดชมทะเลหมอก สวนดอกไม้ และไร่สตรอเบอร์รี่ ที่ Sanook Travel จะพาทุกคนไปชมกันในวันนี้ เป็นหนึ่งในจุดเช็กอินที่คุณต้องไม่พลาดหากมีโอกาสไปภูทับเบิก ที่นี่มีสวนดอกไม้สีสันสวยงามและมีแบ็คกราวด์เป็นทะเลหมอกสุดตระการตาในยามเช้า เป็นภาพสุดมหัศจรรย์ที่ใครต่อใครมาเยือนก็ต่างตกตะลึง ทะเลหมอกในจุดนี้สวยงามมากๆ มองไปได้ไกลสุดลูกตา ตัดกับภาพของสวนดอกไม้สีชมพูยิ่งทำให้ดูสวยงามยิ่งขึ้นไปอีก ท่ามกลางอากาศเย็นๆ ที่แสนบริสุทธิ์ สถานที่แห่งนี้จะจารึกความทรงจำที่แสนประทับใจให้กับคุณได้เป็นอย่างดี หากใครกำลังวางแผนมาเที่ยวภูทับเบิกลองแวะมาเยี่ยมชมกันครับ ข้อมูลเพิ่มเติม
- ที่ตั้งผาชมทะเล : ตำบลบ้านเนิน อำเภอหล่มเก่า จังหวัเพชรบูรณ์ - ติดต่อ : 080 138 7974 ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook ,Peeranut P. |
AuthorWrite something about yourself. No need to be fancy, just an overview. Archives
January 2021
Categories |