สุพรรณบุรี หนึ่งในจังหวัดเมืองรองสำหรับในเรื่องการท่องเที่ยวของเมืองไทย จริงๆ แล้วสุพรรณบุรีนั้นเป็นจังหวัดที่มีที่เที่ยวเยอะมากๆ เลยทีเดียว แต่ส่วนมากผู้คนมักจะมองสุพรรณบุรีเป็นเมืองทางผ่านซะมากกว่า วันนี้จะพาไปชมหนึ่งในแลนด์มาร์คของเมืองสุพรรณที่จะช่วยตอกย้ำว่า เมืองนี้ไม่ใช่ทางผ่านสำหรับการท่องเที่ยวอีกต่อไป กับหมู่บ้านมังกรสวรรค์และศาลหลักเมืองสุพรรณบุรี มาที่นี่เหมือนได้มาทัวร์เมืองจีน! หมู่บ้านมังกรสวรรค์แห่งนี้ถูกสร้างโดยจำลองมาจากเมืองลี่เจียง ของประเทศจีน เมืองโบราณมรดกโลก ที่มีความเก่าแก่และทรงไว้ซึ่งเอกลักษณ์วัฒนธรรมของจีนโบราณ ด้านในหมู่บ้านจะมีการออกร้านค้าขายสินค้าจากผู้คนในพื้นที่ เกิดการสร้างรายได้ และแหล่งเดินเที่ยวช็อปปิ้งสำหรับนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีสถาปัตยกรรมสไตล์จีนที่ช่วยสร้างบรรยากาศแห่งการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี รวมถึงเป็นมุมถ่ายรูปที่สวยงามอีกด้วย นอกจากที่หมู่บ้านมังกรสวรรค์แล้ว ติดกันคุณยังสามารถเดินเล่นไปที่ศาลหลักเมืองสุพรรณบุรี และพิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกรได้อีกด้วย ซึ่งในโซนนี้ก็ถือได้ว่าเป็นไฮไลท์ของเมืองสุพรรณบุรีเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะมังกรสวรรค์ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่เหนือพิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกรนั้น เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญของเมืองสุพรรณบุรีเลยทีเดียว เป็นจุดถ่ายรูปที่ต้องห้ามพลาดหากได้มาเยือนที่นี่ ยิ่งใหญ่อลังการและสวยงามมากๆ ยิ่งได้มายืนชมใกล้ๆ คุณจะเห็นได้ถึงความวิจิตรตระการตา ลวดลายตามตัวมังกร เป็นศิลปะอันทรงคุณค่า ที่คู่ควรแก่การเก็บรักษาไว้อย่างแท้จริง ถัดจากพิพิธภัณฑ์มังกรสวรรค์แล้วเราก็จะได้พบศาลหลักเมืองสุพรรณบุรี ซึ่งออกแบบตัวอาคารศิลปะแบบจีนอย่างงดงาม สามารถเข้าไปสักการะบูชาศาลหลักเมืองด้านในได้ และเท่านั้นยังไม่หมด สำหรับเส้นทางการเดินเล่นในบริเวณนี้ เพราะด้านในด้านหลังศาลหลักเมืองนั้นยังมีอุทยานพุทธบัญชา (พระยูไล) ซึ่งในส่วนนี้บอกเลยว่าหากคุณได้มีโอกาสได้เข้ามาเดินเล่นจะเสมือนกับว่าคุณได้หลุดมาเที่ยวที่เมืองจีนเลยจริงๆ การตกแต่งสวนสไตล์จีน รูปปั้นของเซียนหลากหลายองค์ ระฆังทรงจีน และเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม เป็นจุดท่องเที่ยวสุดอันซีนที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้มาเยือน และเป็นอีกหนึ่งจุดที่ถ่ายรูปออกมาแล้วดูสวยงามเหมือนอยู่เมืองจีนเลยจริงๆ และทั้งหมดนี้ก็คือความสวยงามของสถาปัตยกรรมสไตล์จีนที่อยู่ในเมืองไทย เป็นสถานที่เที่ยวที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ สามารถเดินทางไปเช้าเย็นกลับได้ เตรียมชุดกี่เพ้าสไตล์จีนๆ แล้วไปถ่ายรูปสวยๆ ที่หมู่บ้านมังกรสวรรค์กัน - ที่ตั้งหมู่บ้านมังกรสวรรค์ : ตำบล รั้วใหญ่ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี - เวลาเปิด - ปิด : 10.00 - 18.00 น. ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook , Peeranut P.
0 Comments
หากใครมีเวลาในการท่องเที่ยวไม่มากนัก และอยากจะหาสถานที่สวยๆ สำหรับไปเดินเล่นถ่ายรูป ชมธรรมชาติพร้อมกับสถาปัตยกรรมทีสวยงาม มีสถานที่แห่งหนึ่งมาแนะนำ เราจะพาทุกคนไปที่จังหวัดสมุทรปราการ เมืองเล็กๆ ริมปากแม่น้ำเจ้าพระยา ที่นี่มีที่เที่ยวลับซ่อนอยู่! สะพานแขวนข้ามแม่น้ำ ภาพที่หลายๆ คนอาจจะไม่เคยเห็นหรือคุ้นตามาก่อน ตรงจุดนี้เรียกได้ว่าเป็นที่เที่ยวลับที่มีความสวยงามมากๆ โดยพิกัดสะพานแขวนนี้จะตั้งอยู่ตรงบริเวณท่าเรือเก่า หน้าองค์พระสมุทรเจดีย์ สัญลักษณ์ของเมืองสมุทรปราการ ในเขตฝั่งอำเภอพระสมุทรเจดีย์ สะพานแขวนแห่งนี้เป็นเส้นทางที่จะพาทุกคนไปสู่ป้อมผีเสื้อสมุทรที่ตั้งอยู่กลางเกาะปากแม่น้ำเจ้าพระยานั่นเอง โดยทางฝั่งป้อมผีเสื้อสมุทรนั้นก็จะมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนให้ได้เดินชมธรรมชาติกันไปจนถึงตัวป้อมเลยทีเดียว ในส่วนบนสะพานนั้นถือว่าเป็นมุมถ่ายรูปที่เพอร์เฟ็คมากๆ โดยเฉพาะในยามเย็นที่ท้องฟ้ากำลังเปลี่ยนสีสวยงามนั้น คุณจะได้เห็นภาพของนกกาบินกลับรัง โค้งน้ำที่ถูกอาบไปด้วยแสงอาทิตย์ และองค์พระสมทุรเจดีย์ที่มีพื้นหลังเป็นท้องฟ้าสีทองส่องอำพัน ประกอบกับสถาปัตยกรรมของตัวสะพานแขวนนั้นยิ่งช่วยเพิ่มมิติความสวยงามให้แก่ภาพที่เราได้เห็น จนอดไม่ได้ที่จะลั่นชัตเตอร์เก็บภาพช่วงเวลาแห่งความมหัศจรรย์นี้ลงมาเก็บไว้ในกล้องถ่ายรูปกันเป็นสิบๆ ใบเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังสามารถเดินไปเที่ยวบริเวณวัดพระสมุทรเจดีย์ได้อีกด้วย ซึ่งในจุดนี้สามารถมาถ่ายรูปองค์พระสมุทรเจดีย์ในยามพระอาทิตย์ตก ท้องฟ้าถูกแต่งแต้มเต็มไปด้วยสีสัน เป็นฉากหลังให้กับองค์พระสมุทรเจดีย์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ หรือหากใครเดินเล่นกันจนเหนื่อยแล้วจะมานั่งชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาในยามเย็น บริเวณหน้าลานพระสมุทรเจดีย์ก็สามารถทำได้ จากจุดนี้จะมองเห็นหอชมเมืองสมุทรปราการ และวิถีชีวิตของผู้คนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ท่ามกลางแสงทไวไลท์ ได้มองจากมุมนี้ก็เพลิดเพลินและมีความสุขดี โดยรวมแล้วนี่ถือเป็นเส้นทางวันเดย์ทริปที่น่าสนใจมากๆ เดินทางง่ายๆ มีทั้งธรรมชาติและสถาปัตยกรรมสวยๆ ให้ได้ชมกัน แถมยังอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ด้วย ใครที่ยังไม่มีแผนจะไปไหนกันเสาร์ อาทิตย์นี้ลองแวะมาเยี่ยมชมสะพานแขวนและสักการะบูชาองค์พระสมุทรเจดีย์ ที่จังหวัดสมุทรปราการกันครับ - ที่ตั้งสะพานแขวนและองค์พระสมุทรเจดีย์ : ตำบลปากคลองบางปลากด อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ - การเดินทาง : สามารถนั่ง BTS มาลงที่สถานีปากน้ำ และต่อรถมาที่ท่าเรือข้ามฝาก จากนั้นข้ามเรือมาที่องค์พระสมทุรเจดีย์จากนั้นก็สามารถเดินเที่ยวต่อได้ ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook , Peeranut P.
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าภาพที่คุณจะได้เห็นต่อไปนี้นั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ในเมืองไทย กับภาพความยิ่งใหญ่อลังการของพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ หรือหลวงพ่ออู่ทอง ประติมากรรมพระพุทธรูปขนาดใหญ่ยักษ์ที่สร้างขึ้นจากการแกะสลักหน้าผาหินในเขตอำเภออู่ทอง การก่อสร้างพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ สร้างขึ้นในพื้นที่ของเหมืองหินเก่าที่รกร้าง มีจุดประสงค์ในการสร้างขึ้นเพื่อเป็นอุทยานทางพระพุทธศาสนา และเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาของเมืองสุพรรณบุรี ความยิ่งใหญ่อลังการของพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ ได้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ที่มาเยือน พลันทำให้นึกถึงความมหัศจรรย์ในการก่อสร้างกว่าที่จะได้องค์พระที่เสร็จสมบูรณ์เช่นนี้ เป็นสิ่งที่น่าทึ่งมากจริงๆ บริเวณด้านหลังองค์พระจะมีการเจาะอุโมงค์ลอดเข้าไปในหน้าผา และมีพระพุทธรูปรวมถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ประดิษฐานอยู่มากมายให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปปฏิบัติธรรมและสักการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์กัน เรียกได้ว่าที่นี่ได้กลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของเมืองอู่ทองไปแล้ว ใครต่อใครที่มาเที่ยวอู่ทองต่างก็ต้องแวะมาเยี่ยมชมความยิ่งใหญ่อลังการขององค์พระแกะสลักนี้ ซึ่งในอนาคตนั้นจะมีการสร้างองค์พระแกะสลักเพิ่มรอบบริเวณหน้าผาหินนี้ จะทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดยิ่งใหญ่ที่เป็นหน้าเป็นตาของชาวสุพรรณบุรีอย่างแน่นอน ใครมีโอกาสแวะมาเที่ยวอำเภออู่ทองลองแวะมาเยี่ยมชมความมหัศจรรย์ประติมากรรมบนหน้าผาหินแห่งนี้ แวะสักการะพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง รวมถึงมาหามุมถ่ายรูปสวยๆ คู่กับประติมากรรมสุดยิ่งใหญ่แห่งนี้กันครับ ที่ตั้งพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ : ตำบล อู่ทอง อำเภอ อู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook , Peeranut P.
คนไทยถ้าตั้งใจทำอะไร ไม่แพ้ชาติใดในโลก คำๆ นี้ถูกยืนยันด้วยผลงานที่เราได้เห็นเมื่อเราได้มาเยือน บ้านหุ่นเหล็ก พิพิธภัณฑ์ หรือจะเรียกว่าเป็นธีมปาร์คก็ได้ ที่นี่ได้รวบรวมหุ่นยนต์หลากหลายชนิดที่สร้างขึ้นมาจากเศษเหล็กเหลือใช้นำมาหลอมหลวมและสร้างสรรค์จนกลายเป็นผลงานศิลปะระดับมาสเตอร์พีซ บ้านหุ่นเหล็กเป็นการสร้างสรรค์ดินแดนแห่งจินตนาการบอกเล่าความมหัศจรรย์เหล่านี้ผ่านทางหุ่นเหล็กแต่ละตัวที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่าถูกใจคุณหนูๆ แน่นอน เพราะที่นี่มีทั้งหุ่นซุปเปอร์ฮีโร่และตัวละครจากในการ์ตูนเรื่องต่างๆ รวบรวมเอาไว้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหุ่น Ironman, หุ่น Bubble B , หุ่น Captain America, หุ่น Batman เป็นต้น ซึ่งหุ่นแต่ละตัวก็จะถูกจัดเป็นโซนๆ ตามธีมของตัวละครนั้นๆ เรียกได้ว่ามีการจัดการที่ดีมากเลยทีเดียว ไม่แพ้ธีมปาร์คในเมืองนอกอย่างแน่นอน และในส่วนของเรือนไทยภายในบ้านหุ่นเหล็กนั้นก็จะเป็นงานศิลปะจากเศษเหล็กสไตล์ไทยๆ ภายในตัวเรือนไทยประดิษฐานพระพิฆเนศ และพระพุทธรูปเอาไว้หลากหลายองค์เลยทีเดียวให้นักท่องเที่ยวได้มากราบไหว้สักการะกัน อีกทั้งยังมีโซนเครื่องเล่นสำหรับเด็กๆ ที่มีสไลเดอร์ให้ได้เล่นสนุกระหว่างการเดินชมหุ่นเหล็กกันอีกด้วย และโซนที่เราชอบเป็นพิเศษนั่นก็คือบริเวณด้านหลังของบ้านหุ่นเหล็ก ที่จะเป็นโซนผลิตหุ่นเหล็กที่เราได้เห็นด้านใน ในโซนนี้เราจะได้ชมการสร้างสรรค์ผลงานของทางพี่ๆ เจ้าหน้าที่ผู้อยู่เบื้องหลังความงดงามเหล่านี้ ยิ่งเห็นวิธีการทำกว่าจะได้หุ่นแต่ละตัวแล้วยิ่งนับถือใจของผู้สร้างสรรค์ผลงานแต่ละชิ้นจริงๆ ไม่ง่ายเลยที่จะนำเศษเหล็กแต่ละชิ้นมาประกอบกันจนได้หุ่นที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้ และสำหรับใครที่เดินเล่นกันจนเหนื่อยแล้วทางบ้านหุ่นเหล็กก็มีคาเฟ่เล็กๆ ให้ได้นั่งพักผ่อนคลายร้อนกันชื่อว่าสภากาแฟ มีเมนูอาหารและเครื่องดื่มให้บริการพร้อมกับห้องแอร์เย็นฉ่ำ มานั่งพักกันได้แบบชิลๆ และทั้งหมดนี้ก็คือผลงานระดับโลกจากฝีมือคนไทย ที่ใครต่อใครมาเห็นก็ต้องอึ้ง ความวิจิตรงดงามและรายละเอียดของหุ่นแต่ละตัวนั้นทำออกมาได้อย่างน่ามหัศจรรย์ เป็นธีมปาร์คฝีมือคนไทยที่เราอยากให้ทุกคนได้มาเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้งจริงๆ - ที่ตั้งบ้านหุ่นเหล็ก : 41/2 หมู่ 6 ตำบลตลาดกรวด อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง - ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 60 บาท เด็ก 30 บาท - เวลาเปิด - ปิด : 9.00 - 17.00 น. ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook , Peeranut P.
มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ สภาพอากาศดังกล่าว ทำให้มีฝนตกตามเทือกเขาชายแดนไทย-กัมพูชา อากาศชื้น ส่งผลให้บนจุดชมวิวผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ มีทะเลหมอกเกิดขึ้นสวยงามอากาศเย็นสบาย เช้านี้อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 22 องศาเซลเชียส มีลมพัดเบาๆ นักท่องเที่ยวขึ้นสัมผัสอากาศเย็นสบายและชมทะเลหมอกชมตะวันขึ้นสามแผ่นดิน นับได้เวลาเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สร้างสรรค์มาได้อย่างงดงามน่าอัศจรรย์มากๆ เหมาะจะใช้เป็นแหล่งท่องเที่ยวในช่วงหน้าฝนแบบนี้ รับรองว่ามาเที่ยวที่นี่จะได้ทั้งประสบการณ์อันน่าประทับใจและรูปถ่ายสวยๆ เก็บไปเป็นความทรงจำแน่นอน กับทะเลหมอกผามออีแดง อันซีนแห่งภาคอีสาน ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook , Peeranut P.
ภูทอก จุดชมวิวและสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในจังหวัดเลย ในช่วงหน้าฝนแบบนี้ถือได้ว่าเป็นฤดูกาลที่เหมาะสมแก่การไปเยี่ยมชมอย่างมาก เพราะในวันไหนที่มีฝนตกลงมาตอนกลางคืนนั้นฟ้าหลังฝนจะแปรเปลี่ยนเป็นสายหมอกในยามเช้า เคล้ากับแสงตะวันสีทองที่ส่องประกายเปลี่ยนแปลงสายหมอกขาวให้กลายเป็นสีทองผ่องอำพันไปด้วย เป็นภาพบรรยากาศแห่งความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่ควรค่าแก่การมาเห็นด้วยตาตัวเอง การเดินทางขึ้นสู่ภูทอกนั้นก็สามารถนั่งรถขึ้นไปที่จุดชมวิวได้เลยไม่ต้องผ่านการเดินป่าแต่อย่างใด ค่าบริการรถขึ้นสู่ภูทอกนั้นมีค่าบริการ 25 บาทเท่านั้น โดยจะมีรถบริการอยู่บริเวณด้านล่างทางขึ้นภู ระยะทางขึ้นมาสู่จุดชมวิวประมาณ 10 นาทีเท่านั้นถือว่าสะดวกสบายมากเลยทีเดียว จากจุดนี้จะสามารถมองเห็นไปได้ไกลถึงฝั่งลาว รวมถึงเห็นวิวแม่น้ำโขงจากมุมสูงด้วย เป็นวิวระดับล้านที่แลกมาด้วยค่าเดินทางระดับ 10 อย่างแท้จริง หากในช่วงหน้าฝนนี้ใครยังไม่มีแพลนจะไปเที่ยวกันที่ไหน ลองแวะมาชมความอลังการของทะเลหมอก และชมพระอาทิตย์ขึ้นเหนือสันเขาที่ภูทอกกันครับ - พิกัดภูทอก : ตำบลเชียงคาน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย - ช่วงเวลาในการชมทะเลหมอก : 5.00 - 8.30 น. ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook , Peeranut P.
อุทยานแห่งชาติเขาค้อ เตรียมเปิดแหล่งท่องเที่ยวชมทะเลหมอกยามเช้า แห่งใหม่ “เขาผ้าขาว” ซึ่งทะเลหมอกในยามเช้าจะปรากฏให้นักท่องเที่ยวได้เห็นทั้งฤดูฝน และฤดูหนาว โดยที่ช่วงนี้อุณหภูมิต่ำสุดจะอยู่ที่ 21-23 องศาเซลเซียส รวมไปถึงสภาพป่าฝน ที่มีความเขียวขจีของผืนป่า และดอกไม้นานาพรรณ ที่จะสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวที่มีโอกาสได้มาสัมผัส สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่นี้ สภาพป่ายังมีความสมบูรณ์ ทั้งป่าสนสามใบ และป่าตามธรรมชาติ ขณะเดียวกันก็ยังมีสัตว์ป่า หลากหลายชนิดให้ได้พบเห็น เช่นเก้ง หมูป่า เม่น ไก่ฟ้า และนกสวยงาม ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ ทางอุทยานฯ มีการพัฒนาเส้นทางเพื่อรองรับการท่องเที่ยวให้สะดวกสบาย คาดว่าภายในสิ้นเดือนมิถุนายน พร้อมเปิดรับนักท่องเที่ยวค้างแรม ทั้งลานกางเต็นท์ และบ้านพัก ขณะที่การชมทะเลหมอก ที่ภูทับเบิก อ.หล่มเก่า ก็ยังคงมีนักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นไปสัมผัสสภาพอากาศหนาวเย็น และชมทะเลหมอกในหน้าฝน กันอย่างต่อเนื่อง ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก :sanook , Peeranut P.
คลองปากประเป็นแหล่งน้ำสำคัญของอำเภอควนขนุน ที่เกิดจากลำน้ำสายต่างๆ ไหลรวมมาบรรจบกัน ก่อนจะออกสู่ทะเลสาบสงขลา ที่นี่จึงกลายเป็นแหล่งชุมนุมของปลาและเป็นแหล่งจับปลาที่สำคัญ โดยชาวบ้านได้ตั้งยอขนาดใหญ่ ที่เรียกว่า “ยอยักษ์” มีที่เดียวในประเทศไทย ดักจับปลาเป็นจำนวนมากจนเกิดเป็นทิวทัศน์ที่แปลกตา สำหรับนักท่องเที่ยวเพื่อให้ได้บรรยากาศที่สวยงาม ต้องบังคับตัวเองให้ตื่นเช้ากันสักหน่อย เพราะการล่องเรือจากคลองปากประไปยังทะเลน้อยใช้เวลานานพอสมควร โดยเรือจะออกตั้งแต่ตีห้าครึ่ง เพื่อไปให้ทันดูพระอาทิตย์ขึ้น จะได้เห็นแสงแรกของวันพร้อมกับวิวยอยักษ์ที่คลองปากประ ต้นลำพูขึ้นโดดเดี่ยวกลางน้ำ อยู่ใกล้ๆ กับจุดที่มียอยักษ์เรียงราย มีที่นี่ที่เดียวเท่านั้น ระหว่างทางล่องเรือจะผ่านสะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 เป็นสะพานข้ามทะเลสาบ ความยาวเกือบ 6 กิโลเมตร สร้างขึ้นเพื่อเชื่อมการเดินทางระหว่าง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง และ อ.ระโนด จ.สงขลา ถือเป็นสะพานที่ยาวที่สุดในประเทศไทย บนสะพานมีจุดชมวิวทะเลสาบ ซึ่งสามารถเห็นวิถีชีวิตควายน้ำ และนกนานาพันธุ์ จากความสวยงามและความสมบูรณ์ของท้องทะเลแห่งนี้ ทำให้มีนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศเดินทางมาชมความสวยงามดังกล่าว ล่าสุดนักท่องเที่ยวจากจังหวัดต่างๆและนักท่องเที่ยวภายในจังหวัดพัทลุง นำโดยนายสุเมธ บุญยก นายกเทศบาลเมืองพัทลุง และนายนิพนธ์ เพชรรักษ์ นักธุรกิจท่องเที่ยวไทย นำนักท่องเที่ยวลงเรือพร้อมกัน 30 ลำ กว่าเกือบ 200ชีวิต ล่องเรือชมยอยักษ์และแสงแรกของวันสัมผัสสายลมเย็นๆในท้องทะเลสาบ พร้อมชมดอกบัวแดงและควายน้ำ นอกจากนั้นยังชมวิถีชีวิตประมงพื้นบ้านที่ทำมาหากินในท้องทะเลสายแห่งนี่ยังหลายชั่วอายุคน ขณะที่บรรดานักท่องเที่ยวเมื่อได้ชมแสงแรกของวันสัมผัสสายลมเย็นๆชมยอยักษ์ ชมดอกบัว และควายน้ำ ขณะที่ล่องเรือนักท่องเที่ยวต่างชื่นชอบ เกือบทุกคนยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเก็บภาพที่ประทับใจ และหนึ่งของความประทับใจของนักเที่ยวเมื่อขึ้นไปยืนบนพื้นดินที่ยื่นออกมาในทะเล บริเวณที่เรียกว่า “ แหลมดิน”นั้นนักท่องเที่ยวต่างกระโดดถ่ายขึ้นถ่ายภาพ กับสวยงามเบื้องหลังทั้งที่เป็นทะเล อีกฝั่งเป็นผืนป่าพรุ แบบอิสระสนุกสนาน สำหรับนักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่นี่ ไม่กลัวไม่ที่พักปัจจุบันมีที่พักโรมแรม รีสอร์ท มากมาย และสามารถติดเรือนำเที่ยวล่องในทะเลสาบกว่า 30 ลำในราคาลำละ 600 บาท ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook , Peeranut P.
หากคุณเบื่อที่จะถ่ายรูปในมุมเดิมๆ เวลาไปเที่ยวภูทับเบิก หรือไม่อยากไปอยู่ในจุดที่คนเยอะๆ จนดื่มด่ำกับวิวธรรมชาติได้แบบไม่เต็มที่ มีจุดชมวิวแห่งใหม่มาแนะนำกันครับ จุดชมวิวนี้มีชื่อว่า ภูฟ้าเพียงดินและผาหัวสิงห์ มุมลับๆ แห่งภูทับเบิกที่จะมอบประสบการณ์ในการชมทะเลหมอกแบบส่วนตัวสุดๆ ให้กับคุณ จุดชมวิวภูฟ้าเพียงดินและผาหัวสิงห์นี้ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ก่อนจะขึ้นภูทับเบิกในช่วงกิโลเมตรที่ 17 ก่อนเข้า อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เป็นพื้นที่สันเขาสูงชันที่มีทางเดินตามธรรมชาติ ให้ได้รู้สึกถึงการเดินป่ากันอยู่บ้าง เมื่อเดินไปถึงบริเวณจุดชมวิวคุณจะลืมความเหนื่อยล้าจากการเดินทางไปได้โดยสิ้นเชิง ความมหัศจรรย์ของภูเขาที่เขียวขจีซ้อนตัวทับกันเป็นชั้นๆ มองออกไปได้ไกลสุดลูกหูลูกตา ความเขียวขจีและชุ่มฉ่ำของป่าในหน้าฝน และพระเอกของที่นี่อย่างทะเลหมอกสีขาวโพลน ลอยละล่องเป็นชั้นๆ สร้างภาพรวมแห่งความประทับใจให้กับผู้มาเยือน ซึ่งจากจุดนี้เราจะสามารถมองเห็นผาหัวสิงห์ได้อยู่เบื้องล่าง ลักษณะของผาหัวสิงห์นั้นจะมีลักษณะเป็นผืนดินที่ยืนขึ้นไปบนอากาศลักษณะเหมือนหัวของสิงห์นั่นเอง ซึ่งเมื่อยามที่ผาหัวสิงห์แห่งนี้ถูกสายหมอกรุมล้อมจะแปรเปลี่ยนสภาพเหมือนแผนดินที่ลอยอยู่บนฟ้ามากๆ เป็นภาพสุดมหัศจรรย์ที่ต้องมาเห็นด้วยตาตัวเอง ที่ตั้งภูฟ้าเพียงดิน : หลักกิโลเมตรที่ 17 ก่อนทางเข้าอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook , Peeranut P.
อุทัยธานี เมืองสโลว์ไลฟ์ที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ทั้งทางวัฒนธรรมและสถานที่ท่องเที่ยว ที่นี่มีหลายๆ สถานที่ท่องเที่ยวที่ยังคงหลบซ่อนความสวยงามเอาไว้อยู่จากโลกภายนอก ดั่งเช่นสถานที่ที่เราจะพาทุกคนไปชมกันในวันนี้ ที่มีชื่อว่า "ฝายกั้นน้ำปางสวรรค์" เหมือนดั่งชื่อเลยครับ ที่นี่สวยงามปางสวรรค์วิมานจริงๆ ฝายกั้นน้ำแห่งนี้เป็นฝายกั้นน้ำในชุมชน ที่เป็นเหมือนโอเอซิสของเด็กๆ ในพื้นที่ด้วย เพราะในช่วงวันหยุดก็จะมีเด็กๆ ออกมาเล่นน้ำธรรมชาติกันในฝายแห่งนี้ เหมือนกับว่ามีน้ำตกส่วนตัวให้ได้เล่นกันตลอดเวลาน่าอิจฉาจริงๆ ฝายกั้นน้ำที่ขุดลงไปในดินมีน้ำไหลเวียนตลอดเวลา กลายเป็นภาพของม่านน้ำขนาดย่อมที่ไหลแรงและสวยงาม ท่ามกลางบรรยากาศแห่งต้นไม้ใบหญ้าอันเขียวขจี สำหรับคนที่ชื่นชอบการถ่ายรูป ก็ต้องบอกเลยว่านี่คือโลเคชั่นที่งดงามมากๆ ทั้งม่านน้ำ และความเขียวขจีที่โอบล้อมฝายกั้นน้ำนี้เอาไว้ ถูกใจนักท่องเที่ยวที่ชอบถ่ายภาพแน่นอน หากในช่วงหน้าฝนนี้ใครอยากจะสัมผัสกับความชุ่มฉ่ำ ความเขียวขจีของธรรมชาติ และสายน้ำที่เย็นฉ่ำ อย่ารอช้ารีบเก็บกระเป๋าแล้วมาเที่ยวที่ฝายกันน้ำปางสวรรค์กัน รับรองว่าประทับใจแน่นอน ข้อมูลเพิ่มเติม - ที่ตั้ง : ตำบลคอกควาย อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี - ข้อควรระวัง : ควรระมัดระวังในการเล่นน้ำเพราะพื้นมีความลื่น ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook , Peeranut P.
|
AuthorWrite something about yourself. No need to be fancy, just an overview. Archives
January 2021
Categories |