สำหรับนักท่องเที่ยวสายถ่ายภาพแล้ว การออกตามหาโลเคชันสวยๆ ในงานเก็บบันทึกความทรงจำ สถานที่แปลกใหม่ ดูเจะเป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจเสมอ ในวันนี้มีโลเคชันท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่มีความงดงามเป็นอย่างมากในด้าน Landscape ที่แห่งนี้มีชื่อว่าเขาคูา ตั้งอยู่ที่อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลานั่นเอง เขาคูหาเป็นจุดชมวิวที่สามารถเดินเท้าขึ้นไปได้ไม่ยากมากนักทางเดินไม่ลาดชันเท่าไหร่ แต่ต้องใช้ความระมัดระวังในการเดิน มีจุดถ่ายรุปสวยๆ เป็นร่องเขาที่รายล้อมไปด้วยต้นสน ทำให้ภาพที่ถ่ายออกมานั้นเหมือนกับว่าถ่ายที่เมืองนอกเลยก้ว่าได้ อีกทั้งที่นี่ยังเป็นจุดชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าที่สวยงามอีกด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้หลายๆ คนอาจจะไม่รู้จักหรือไม่เคยได้ยินแม้แต่ชื่อเขาคูหา แต่หลังจากมีการโปรโมทประชาสัมพันธ์ออกไป เขาคูหาได้กลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่หลายๆ คนตั้งใจจะไปเยือนทันที หากใครมีดอกาสไปเที่ยวสงขลากันในช่วงนี้ต้องไม่พลาด ไปเก็บภาพความประทับใจสวยๆ ที่เขาคูหากันดูครับ รับรองว่าจะต้องได้ภาพเท่ๆ สวยๆ เหมือนอยู่เมืองนอกแน่นอน ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : Sanook Travel ,Peeranut P.
0 Comments
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยผู้สนับสนุนการจัดงาน ร่วมกับ จังหวัดปทุมธานี เชิญชวนทุกท่านร่วมงาน " Thai Fin In Carnival Pathum Thani " เพื่อประชาสัมพันธ์อาหารผ่านการท่องเที่ยว พร้อมสร้างสรรค์เมนูใหม่จากวัตถุดิบท้องถิ่น เป็นการส่งเสริมการสร้างรายได้เข้าชุมชน โดยใช้เสน่ห์ของเอกลักษณ์ของอาหารไทย
กิจกรรมภายในงานนำเสนอรูปแบบชุมชนวิถีชีวิตท้องถิ่นแบบไทยสไตล์ Carnivalการโชว์ปรุงอาหารเมนูคิดขึ้นมาใหม่โดย โดย เซเลบริตี้ เชฟ จากเลอ กอร์ดอง เบลอ ซิดนีย์ “เชฟบอส-พัฒนพงศ์ วงศ์วรรณ” ที่จะมาถ่ายทอดการทำอาหารเมนูคิดค้นขึ้นจากวัตถุดิบท้องถิ่น เพื่อเป็นเมนูประจำจังหวัดสูตรใหม่ แบบ Live สด ในแฟนเพจ Thai Fin In Carnival Pathum Thani และร่วมสนุกร่วมเชียร์ไปกับการแข่งขันทำอาหาร “ปรุงก๋วยเตี๋ยวเรือไทยฟิน” จาก นักศึกษา มหาวิทยาลัยราชมงคลธัญบุรี และแข่งขันการกินอาหารขึ้นชื่อ “ ก๋วยเตี๋ยวเรือชามฟิน” Detox Bar - บาร์เสริฟเครื่องดื่ม การแสดงMini concert ศิลปิน แช็คชุมแพ และ “อินสติ๊ง” Flash Fit เบเบ้ เซเลฟสายสุขภาพเชิญชวนให้ผู้เข้าร่วมงานออกมารวมตัวกันออกกำลังกาย เพื่อสะบัดไขมัน ให้ร่ายกายแข็งแรง สุขภาพจิตดี ห่างจากภาวะซึมเศร้า บูธขายของ แบบครบวงจร เอาใจเหล่าขาช้อป ไม่ว่าจะเป็น อาหาร เครื่องประดับ เสื้อผ้า โซนของฝากจากท้องถิ่น และอื่นๆ อีกมากมาย เรารวบรวมของอร่อยมาให้ ชม ชิม ช้อป ใช้ กันในง่ายแบบจุใจกันทีเดียว บูธสายสุขภาพและความงาม เช่น จุดตรวจวัดระดับไขมัน น้ำตาล มวลกล้ามเนื้อผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำการออกกำลังกายปรับเชฟให้เหมาะกับบุคคล ให้ความรู้ การใช้สูตรลดน้ำหนักในแบบต่าง ๆ เช่น"คีโตเจนิค" กินไขมันเพื่อลดไขมัน บอร์ดนิทรรศการเส้นทางการท่องเที่ยวฟาร์มออแกนิค เส้นทางสายสุขภาพ ในจังหวัดปทุมธานี และจังหวัดใกล้เคียง โดยให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยว แล้วพบกันที่งาน " Thai Fin In Carnival Pathum Thani " ณ มหาวิทยาลัยราชมงคลธัญบุรี อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานีวันที่ 28 - 30 สิงหาคม 2563 บอกเลยเหล่ารักสุขภาพ และขาช้อปทั้งหลายห้ามพลาดงานนี้ ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook ,Peeranut P. เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2563 นายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ นายเสกสรร นิยมเพ็ง นายกเทศมนตรีเมืองเพชรบูรณ์ นายสบธนา อั๋นประเสริฐ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพิษณุโลก และนางเยาวภา โตสงวน วัฒนธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงานประเพณีอุ้มพระดำน้ำ และเทศกาลอาหารอร่อย ประจำปี 2563 ณ.บริเวณหอวัฒนธรรมนครบาลเพชรบูรณ์ สำหรับงานประเพณีอุ้มพระดำน้ำ หรือพิธีอัญเชิญพระพุทธมหาธรรมราชา พระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดเพชรบูรณ์ลงสรงน้ำ เป็นประเพณีที่แปลกและมีอยู่เพียงแห่งเดียวในโลก ที่ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ทำสืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณนานกว่า 400 ปี โดยได้กำหนดจัดขึ้นในช่วงเทศกาลสารทไทยของทุกปี ซึ่งในปีนี้กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 - 20 กันยายน 2563 รวม 6 วัน 6 คืน โดยวันที่ 15 กันยายน เวลา 18.00 น.จะมีนักเรียน นักศึกษา พ่อค้า ประชาชน ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน 2,563 คน มารำถวายหน้าพระพุทธมหาธรรมราชาจำลององค์ใหญ่ ณ.พุทธอุทยานเพชบุระ และในวันที่ 16 กันยายน เวลา 17.00 น.นายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ จะทำพิธีอัญเชิญพระพุทธมหาธรรมราชาจากวัดไตรภูมิมาประดิษฐานบนราชรถบุษบก ที่ตกแต่งประดับประดาด้วยโคมไฟอย่างสวยงาม แห่ไปตามถนนสายต่างๆรอบๆเขตเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ พร้อมกับขบวนแห่ตามโบราณประเพณี เพื่อให้ประชาชนได้กราบไหว้สักการะบูชา โดยมีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีเปิดงานประเพณีอุ้มพระดำน้ำ ณ บริเวณหน้าหอโบราณคดีเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย พร้อมทั้งกำหนดให้บริเวณหน้าวัดมหาธาตุ พระอารามหลวงเป็นจุดรับชมขบวนการแสดง และจะอัญเชิญกลับมาประดิษฐานไว้ ณ.มณฑปพิธีวัดไตรภูมิ เพื่อจัดพิธีเฉลิมฉลอง และเช้าวันที่ 17 กันยายน ซึ่งตรงกับวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 ซึ่งเป็นวันสารทไทย และเป็นวันสำคัญของงาน นายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ จะทำพิธีอัญเชิญพระพุทธมหาธรรมราชามาประดิษฐานบนเรือบุษบก ออกแห่ทางน้ำที่ในแม่น้ำป่าสัก บริเวณท่าน้ำหน้าวัดไตรภูมิ เพื่อเดินทางไปประกอบพิธีอุ้มพระดำน้ำ ณ.ที่ท่าน้ำวัดโบสถ์ชนะมาร ซึ่งเป็นบริเวณที่ตามตำนานได้เล่าสืบทอดกันมาว่า มีชาวบ้านที่ไปทอดแหหาปลา พบพระพุทธมหาธรรมราชากำลังดำผุดดำว่ายอยู่ จึงได้อัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่วัดไตรภูมิจนถึงปัจจุบัน ซึ่งในปีนี้นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะเดินทางมาเป็นประธานในพิธี ส่วนการประกอบพิธีอุ้มพระดำน้ำ ผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งมีศักดิ์เทียบเท่ากับพ่อเมืองในสมัยโบราณ จะเป็นผู้อุ้มพระพุทธมหาธรรมราชาลงดำน้ำ พร้อมกับเสนาบดีทั้ง 4 คือ ฝ่ายเวียง ฝ่ายวัง ฝ่ายคลัง ฝ่ายนา โดยมีพระสงฆ์ 9 รูป สวดชัยมงคลคาถา โดยการประกอบพิธีอุ้มพระดำน้ำจะหันหน้าไปทางทิศเหนือ 3 ครั้ง และทิศใต้ 3 ครั้ง เพื่อขออำนาจบารมีให้ พระพุทธมหาธรรมราชา ช่วยดลบันดาลให้ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข ฝนตกต้องตามฤดูกาล และหลังจากประกอบพิธีอุ้มพระดำน้ำเสร็จ จะมีการโยนเครื่องเส่นถวาย ซึ่งเป็นข้าวต้มมัด กระยาสารท และข้าวตอก ดอกไม้ ให้ประชาชนที่มาร่วมในพิธีแย่งชิงกัน เพื่อเป็นศิริมงคล และในช่วงบ่าย จะจัดให้มีการประกวดเรือพายสวยงาม และการแข่งขันเรือพายทวนน้ำ ส่วนในช่วงกลางคืน จะจัดให้มีงานเทศกาลอาหารอร่อยจากอำเภอต่างๆ และการแสดงแสงสีเสียงหรือไลท์แอนท์ซาวด์ ตามตำนานประวัติความเป็นมาของพระพุทธมหาธรรมราชา พร้อมมหรสพสมโภชน์อีกมากมาย ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook ,Peeranut P.
หลังจากที่ประชาชนทั่วเมืองไทยได้ทึ่งกับการค้นพบถ้ำนาคา ซึ่งมีความงดงามคล้ายกับลำตัวของพญานาค รวมถึงได้มีการค้นพบส่วนหัวของพญานาค เป็นกองหินที่มีรูปลักษณ์คล้ายหัวของพญานาคจริงๆ ในอุทยานแห่งชาติภูลังกาจังหวัดบึงกาฬ ล่าสุดทางเพจ Buengkan Day ได้มีการเปิดเผยว่าทางทีมสำรวจได้ทำการค้นพบ ส่วนหัวที่สองของพญานาค! โดยเป็นการค้นพบโดยบังเอิญระหว่างการเดินสำรวจเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เส้นทางหน่วยพิทักษ์ฯ พระธาตุเจดีย์กองข้าวศรีบุญเนาว์ ซึ่งเส้นทางเดินจากพระธาตุเจดีย์กองข้าวศรีบุญเนาว์ ไปถึง ยอดเจดีย์พระอาจารย์เสาร์ เจดีย์หลวงปู่วัง จะเป็นที่ตั้งของหินหัวพญานาคแห่งที่ 2 มีรูปทรงแปลกตาเด่นชัดเหมือนหัวงู และมีเกล็ดที่มองดูคล้ายพญานาค อีกทั้งยังมีดวงตาที่เด่นชัดด้วย สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้พบเห็น ซึ่งการค้นพบในครั้งนี้เป็นการเพิ่มอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวภายในภูลังกาให้กับนักเดินทางที่อยากจะมาพิสูจน์ความสวยงามสุดลึกลับนี้ด้วยตาตนเอง นอกจากถ้ำนาคาและส่วนหัวพญานาคแห่งที่ 1 แล้ว ที่ส่วนหัวพญานาคแห่งที่ 2 นี้ก็งดงามอลังการไม่แพ้กัน หากใครมีโอกาสมาเที่ยวบึงกาฬลองแวะมาชมกันครับ ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook ,Peeranut P. ,Buengkan Day
หลังจากในช่วงนี้ฝนตกในทุกพื้นที่ ส่งผลให้แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติกลับคืนสู่ความสมบูรณ์สวยงาม โดยเฉพาะน้ำตกที่ไหลผ่านโขดหินน้อยใหญ่ ทั้งน้ำตกกังหันน้ำ น้ำตกห้วยขมึนน้อย น้ำตกร่มเกล้าภราดร ภายในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า รอนักท่องเที่ยวไปสัมผัส หลังจากในช่วงนี้ฝนตกในทุกพื้นที่ ส่งผลให้แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติกลับคืนสู่ความสมบูรณ์ สวยงาม โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ที่มีดอกไม้ และน้ำตก ที่สวยงาม โดยเฉพาะน้ำตก ทั้งน้ำตกกังหันน้ำ น้ำตกห้วยขมึนน้อย น้ำตกร่มเกล้าภราดร ใกล้กับโรงเรียนการเมืองการทหาร ที่ขณะนี้มีปริมาณน้ำที่ไหลมาจากเทือกเขาร่องกล้า ไหลผ่านโขดหินน้อยใหญ่ สวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยวชมกันได้ในช่วงฤดูฝนไปจนถึงสิ้นฤดูหนาว นายสุริยา กาละสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า กล่าวว่า ในช่วงฤดูฝนอย่างนี้ทำให้แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติสวยงาม ฝนที่ตกลงมาทำให้น้ำตามป่าเขา ซึ่งเป็นต้นน้ำของหลายสาขาหลากไหลสู่ชั้นหินน้อยใหญ่มีความสมบูรณ์อย่างมาก โดยเฉพาะน้ำตก ทั้งน้ำตกกังหันน้ำ น้ำตกห้วยขมึนน้อย น้ำตกร่มเกล้าภราดร นักท่องเที่ยวมาเที่ยวสามารถชมและสัมผัสกับอากาศที่สดชื่นธรรมชาติงามตาได้ ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook,Peeranut P.
ถ้าจะพูดถึงการดำน้ำดูปะการังสวยๆ หลายคนคงนึกถึงแหล่งดำน้ำชื่อดังทางภาคใต้อย่าง เกาะเต่า สิมิลัน กันใช่ไหมคะ แต่รู้หรือไม่ว่าไม่ไกลจากกรุงเทพฯ อย่างที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ก็มีแหล่งดำน้ำที่สวยไม่แพ้กันเลย วันนี้ขออาสาพาไปทริปสุดพิเศษ เที่ยวเกาะทะลุ ดำน้ำดูปะการัง แบบไม่ต้องไปไกล แค่ประจวบนี่เอง ว่าแล้วก็ตามมา เที่ยวประจวบ กันเลยจ้า สำหรับเกาะทะลุ ถ้าลองเสิร์ชคำนี้ก็จะพบว่ามีทั้งหมด 3 ที่ ก็คือที่ ประจวบ ชุมพร และระยอง แต่ที่ประจวบเป็นช่องเขาที่ใหญ่ที่สุด มีแนวปะการังที่สวยงาม ซึ่งเกาะทะลุแห่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์นี้ ตั้งอยู่ในอำเภอบางสะพานน้อย ใช้เวลานั่งเรือจากฝั่งไปยังเกาะทะลุประมาณ 30 นาที โดยเป็นเกาะรูปร่างยาวรี ตั้งอยู่ในแนวเหนือ-ใต้ มีหาดทรายขาว น้ำใส โดยชายฝั่งด้านตะวันตกคือบริเวณที่มีรีสอร์ท ชายหาด และแนวต้นมะพร้าวอันร่มรื่น เหมาะแก่การมา เที่ยวเกาะทะลุ พักผ่อนชิลๆ เป็นอย่างมาก ส่วนด้านตะวันออกก็คือจุดท่องเที่ยวไฮไลท์ เป็นผาหินสีแดงที่มีช่องทะลุขนาดใหญ่ เกิดจากการสึกกร่อนเนื่องจากคลื่นลมกัดเซาะ ซึ่งจุดนี้ยังเป็นจุดดำน้ำตื้นที่สวยงาม มีปลาสวยงามและปะการังหลากหลายชนิด สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี และถ้าวันไหนโชคดีมา เที่ยวประจวบ ครั้งนี้ก็อาจจะได้เจอฉลามวาฬมาว่ายอวดโฉมให้เราได้เห็นกันด้วยนะ อ่าวบนเกาะทะลุ บนเกาะทะลุจะมีด้วยกันอยู่หลายอ่าว ประกอบไปด้วย อ่าวใหญ่ ซึ่งเป็นท่าเรือของเกาะ และยังเป็นที่ตั้งของรีสอร์ทหนึ่งเดียวบนเกาะที่เงียบสงบและเป็นส่วนตัวมาก อยู่ติดชายหาดที่มีทรายขาวสะอาด สามารถเล่นน้ำ พายเรือคายัคได้ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร บาร์เครื่องดื่ม ห้องประชุม และ Scuba diving shop ถัดขึ้นไปทางเหนือจะเป็น อ่าวมุก บริเวณนี้มีหาดทรายขาวเช่นเดียวกัน สามารถเล่นน้ำได้ และยังมีร้านอาหารอีกด้วย ห่างชายฝั่งออกไปจะเป็นแหล่งอนุบาลปะการังเขากวาง นอกจากนี้ยังมี อ่าวกรวด อ่าวขนาดเล็กที่มีชายหาดเป็นหินกรวด มีปลาสวยงามตัวเล็กน่ารักมากมายอาศัยอยู่ตามดอกไม้ทะเล และ อ่าวเทียน อ่าวที่มีร่องทรายสีขาวใต้น้ำ ซึ่งเป็นจุดดำน้ำดูปะการังอันสวยงามที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศทางทะเล รับรองว่าใครที่รักการชมความงามของโลกใต้น้ำสวยๆ จะต้องตกหลุมรักทริป เที่ยวเกาะทะลุ อย่างแน่นอน การเดินทางไป เกาะทะลุ จ.ประจวบคีรีขันธ์
– รถยนต์ส่วนตัว ให้ปักหมุดใน GPS ว่า ท่าเรือไปเกาะทะลุ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองประจวบประมาณ 110 กิโลเมตร บริเวณนี้จะมีออฟฟิศของทัวร์ต่างๆ ให้เราเลือก – รถประจำทาง สามารถขึ้นรถทัวร์ได้ที่สายใต้ใหม่ สายกรุงเทพฯ-บางสะพานน้อย หรือขึ้นรถตู้ สายหมอชิต-บางสะพานน้อย ที่ท่ารถตู้ตรงข้ามหมอชิต 2 รถ จะผ่านท่าเรือไปเกาะทะลุเลยค่ะ ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook ,Mushroom Travel เชื่อหรือไม่ว่าวิวที่ทุกคนจะได้เห็นกันต่อไปนี้ เป็นวิวที่อยู่ห่างจากเมืองกรุงไปแค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น กับเขาอินทร์แขวน จังหวัดกาญจนบุรี แหล่งท่องเที่ยวสุดอันซีนที่หลายคนไม่เคยเห็นมาก่อน เขาอินทร์แขวนตั้งอยู่ในเขตวัดเขาช่องเสด็จ ตำบลหนองหญ้า อำเภอเมืองกาญจนุบรี เป็นยอดเขาที่มีก้อนหินขนาดใหญ่มองคล้ายพระธาตุอินทร์แขวนที่ประเทศพม่าอยู่ด้านบน สามารถปีเขาเพื่อขึ้นไปถ่ายภาพและชมวิวมุมสูงของทุ่งนาด้านบนได้ แต่ต้องระมัดระวังด้วยเพราะหินมีความแหลมคมอาจจะโดนบาดได้ แต่ถึงทางขึ้นจะทุลักทุเลสักนิดแต่บอกเลยว่าหากได้มาเห็นวิวด้านบนนั้นจะทำให้หายเหนื่อยไปอย่างปลิดทิ้งแน่นอน ถือได้ว่าเป็นมุมลับๆ อันซีนเมืองกาญที่สักครั้งควรมาเยือน ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook ,Peeranut P.
หากใครมีโอกาสได้แวะเวียนไปเที่ยวจังหวัดสุพรรณบุรี แล้วอยากจะหาจุดชมวิวสวยๆ ชมวิวมุมสูงให้หายคิดถึงธรรมชาติ แถมยังได้ไหว้พระขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วย วันนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับวัดเขาดีสลัก สถานที่ท่องเที่ยวและศาสนสถานที่มีชื่อเสียงเป็นที่นิยมของคนสุพรรณบุรี วัดเขาดีสลัก เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาในเขตอำเภออู่ทอง เป็นวัดที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ ด้านบนเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ชาวบ้านให้การเคารพนับถือ ได้ด้านสถาปัตยกรรมนั้นวัดแห่งนี้ถือว่ามีสถาปัตยกรรมที่งดงามมากๆ ไม่ว่าจะเป็นมณฑปที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาท หรือจะเป็นวิหารด้านหน้ามณฑปก็งดงามเช่นกัน จากด้านบนนี้เราสามารถชมวิวทุ่งนาของอำเภออู่ทองได้แบบพาโนรามา มีทั้งต้นไม้น้อยใหญ่ และขุนเขาที่สลับซับซ้อนไปกับทุ่งนาเขียวขจี เป็นวิวธรรมชาติที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของสุพรรณบุรีเลยก็ว่าได้ วันหยุดเสาร์อาทิตย์นี้หากใครอยากจะหาที่เที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ ลองแวะมาไหว้พระ สักการะรอยพระพุทธบาทและชมวิวสวยๆ ที่วัดเขาดีสลักแห่งนี้กันครับ ที่ตั้งวัดเขาดีสลัก : ตำบล พลับพลาไชย อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook ,Peeranut P. หากใครมีเวลาว่างในช่วงสุดสัปดาห์นี้ อยากจะหาที่เที่ยวใกล้ๆ ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ สุพรรณบุรีถือว่าเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่น่าไปเยือนมาก แต่หลายคนอาจจะมองข้าม จริงๆ แล้วที่สุพรรณบุรีมีแหล่งท่องเที่ยวเยอะมาก ทั้งในด้านศิลปะวัฒนธรรม และธรรมชาติ โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาตินั้นหลายๆ คนอาจจะคิดว่าสุพรรณบุรีไม่ค่อยมี แต่จริงๆแล้วที่อำเภอด่านช้างจังหวัดสุพรรณบุรีนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยธรรมชาติที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ ดั่งเช่นที่เขื่อนกระเสียว ที่เราจะพาทุกคนไปชมกันในวันนี้ เขื่อนกระเสียวเป็นเขื่อนดินที่ความยาวที่สุดเป็นอันสองของประเทศไทย รองจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เขื่อนกระเสียวแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณ บ้านนาตาปิ่น หมู่ที่ 3 ตำบลด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี มีความยาวถึง 4,250 เมตร สูง 32.5 เมตร และกว้างที่พื้นที่ผิวน้ำถึง 35 ตารางกิโลเมตร เขื่อนกระเสียวถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากชาวบ้านในละแวกอำเภอด่านช้าง และในอำเภอใกล้เคียง บริเวณสันเขื่อนนั้นสามารถเช่าจักรยานปั่นชมวิวไปได้ตลอดระยะทางกว่า 4 กิโลเมตร ระหว่างทางคุณจะได้เห็นการแบ่งครึ่งระหว่างผืนป่าและผืนน้ำ โดยมีสันเขื่อนเป็นจุดแบ่งกั้น เป็นภาพที่ดูสวยงามมากจริงๆ นอกจากนี้ในระหว่างทางบริเวณสันเขื่อนจะมีทุ่งดอกหญ้าเล็กๆ ที่ขึ้นเป็นแนวไปตลาดข้างทางให้เราได้ชมวิวเขื่อนไปพร้อมกับทุ่งดอกหญ้าอีกด้วย หากหยุดเสาร์อาทิตย์นี้ใครอยากจะหาทริปสั้นๆ เดินทางง่ายๆ ไม่เหนื่อยมาก แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยวิวธรรมชาติสวยๆ เราแนะนำเลยว่าให้มาที่เขื่อนกระเสียว คุณจะได้ภาพสวยๆ เก็บไปเป็นความทรงจำอย่างแน่นอน ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook ,Peeranut P.
คิดถึงเชียงใหม่ คิดถึงธรรมชาติ คิดถึงแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง ต้องมาที่ “จอมทอง” อำเภอท่องเที่ยวชื่อดัง ของจังหวัดเชียงใหม่ ที่ใครมาแล้วก็ติดใจ จนต้องกลับมากันอีก “จอมทอง” ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งอำเภอท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดยอดฮิต จุดเช็คอินที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ต้องมาเที่ยวชมความสวยงามของธรรมชาติ และผ่อนคลายไปกับบรรยากาศที่เงียบสงบ แต่จะมีที่ไหนบ้างที่น่าสนใจ และต้องมาเช็คอิน มาดูไปพร้อม ๆ กันเลย 1.พระธาตุศรีจอมทอง เริ่มต้นกับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่อำเภอมาอย่างยาวนาน และมีประวัติเล่าขานที่น่ารับชม “พระธาตุศรีจอมทอง” พระธาตุเก่าแก่สวยงาม สีทองเด่นอร่าม (พระธาตุประจำปีชวด) เป็นที่เคารพนับถือของชาวเหนือ ที่ใครผ่านมาที่อำเภอจอมทอง ต้องแวะเข้ามากราบไหว้กันเป็นประจำ 2.อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ถ้าหากมาถึงที่อำเภอจอมทองกันแล้วไม่ได้มาเที่ยวเช็คอินที่นี่ เหมือนกับว่ามาไม่ถึง กับจุดเช็คอินท่องเที่ยวยอดฮิตที่มีอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี “อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์” อุทยานท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดเชียงใหม่ ที่จะทำให้คุณได้เพลินตาไปกับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ พร้อมถ่ายรูปกับป้าย “จุดสูงสุดแดนสยาม” ไว้เป็นที่ระลึก 3.บ้านแม่กลางหลวง สัมผัสบรรยากาศของวิวทิวทัศน์ทุ่งนาขั้นบันได ที่เรียงรายสวยงามลงเป็นขั้น ๆ ท่ามกลางความเงียบสงบ ณ “บ้านแม่กลางหลวง” หรือที่รู้จักคุ้นหูกันดีในชื่อ “แม่กลางหลวง” สถานที่ท่องเที่ยวที่จะทำให้คุณได้ผ่อนคลายกับธรรมชาติ และเพลินตาไปกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบาย 4.นาขั้นบันไดบ้านผาหมอน เพลินตา สบายใจไปกับนาขั้นบันไดที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดของอำเภอจอมทอง “บ้านผาหมอน” เป็นหมู่บ้านกลางหุบเขาที่ถูกโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ เงียบสงบ และโดดเด่นด้วยนาขั้นบันไดที่เรียงรายสวยงาม พร้อมบ้านพักของชุมชนให้ได้มาพักแรม ชมบรรยากาศความสวยงามของธรรมชาติที่นี่อย่างใกล้ชิด 5.น้ำตกแม่กลาง “น้ำตกแม่กลาง” แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ จุดแวะเที่ยวเล่นน้ำผ่อนคลาย ก่อนเข้าสู่ภายในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ สัมผัสสายน้ำอันเย็นฉ่ำที่ตกผ่านหน้าผาขนาดใหญ่ สวยงาม ไหลลงมาสู่แอ่งน้ำขนาดใหญ่ ให้ได้มานั่งเล่นน้ำ แช่น้ำ และที่สำคัญมีน้ำใหลตลอดทั้งปี 6.น้ำตกแม่ยะ ชมความสวยงามของสายน้ำที่ไหลลงมาจากด้านบน เป็นสายน้ำที่ไหลลงมาเป็นแบบขั้นบันได จนได้ขนานนามว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดแห่งอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ และเป็นน้ำตกที่สวยเป็นอันดับต้น ๆ ในประเทศไทย กับชื่อที่คุ้นหูกันเป็นอย่างดี “น้ำตกแม่ยะ” น้ำตกขนาดใหญ่ ไหลลดหลั่นลงมาประมาณ 30 ชั้น ให้คุณได้มาเที่ยวชมละอองน้ำที่กระจายสวยงาม และเป็นม่านน้ำในช่วงหน้าฝน รอบข้างเป็นป่าไม้พรรณไม้ร่มรื่นเหมาะสำหรับการไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ 7.น้ำตกแม่เตี๊ยะ เที่ยวชมความอลังการของน้ำตกกลางป่าลึก ขนาด 4 ชั้น “น้ำตกแม่เตี๊ยะ” น้ำตกขนาดใหญ่ และสวยงาม ตั้งอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติออบหลวง รอบข้างรายล้อมไปด้วยต้นไม้ที่อุดมสมบูรณ์ ให้บรรยากาศที่สุดแสนร่มรื่น และให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับสายน้ำที่ชุ่มฉ่ำใจ 8.เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน
จุดท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อ และโด่งดังที่สุดภายในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ “เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน” จุดชมวิวทิวทัศน์ที่จะทำให้คุณได้ฟิน อิน ธรรมชาติ กับเส้นทางธรรมชาติระยะทาง 3 กิโลเมตร เต็มอิ่มไปด้วยความสวยงาม เดินรับสายลมเย็น ๆ ชมวิวทิวทัศน์ ถ่ายรูป สูดอากาศบริสุทธิ์กันให้ชุ่มฉ่ำปอด 9.ดอยผาตั้ง สัมผัสธรรมชาติ รับชมความสวยงามของสายหมอก ทิวเขา และวิวทิวทัศน์สีเขียว ๆ ที่อุดมสมบูรณ์บน “ดอยผาตั้ง” สถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งภายในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เต็มเปี่ยมไปด้วยธรรมชาติ และความเงียบสงบ รวมไปสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง “ม่อนน้องแกะ” สุดน่ารัก ขนนิ่ม ๆ ให้ได้มาเล่น มาถ่ายรูปกันอย่างใกล้ชิด และที่นี่ยังถือได้ว่าเป็นจุดชมวิวดอกพญาเสือโคร่งที่ขึ้นชื่อกันอีกด้วย 10.ทุ่งดอกไฮเดรนเยีย บ้านขุนแปะ เพลินตาไปกับดอกไม้สีสันสวยงาม ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบาย ภายใน “โครงการหลวงขุนแปะ” ชมความสวยงามของ “ดอกไฮเดรนเยีย” ที่บานสะพรั่งไปทั่วทุ่งแบบไม่ต้องไปไกลถึงเวียดนาม แค่มาที่อำเภอจอมทองก็ฟินแล้ว ขอบคุณข้อมูลแลภาพประกอบจาก : sanook ,พาไป |
AuthorWrite something about yourself. No need to be fancy, just an overview. Archives
January 2021
Categories |