Wood House @ เขาฉกรรจ์ คาเฟ่วิวสวย วันนี้อยากจะแนะนำให้ทุกคนได้ไปตามรอยกัน ที่นี่ตั้งอยู่บริเวณเขาฉกรรจ์ จังหวัดสระแก้ว เรียกได้ว่าเป็นทั้งคาเฟ่และสถานที่ท่องเที่ยวที่กำลังมาแรงมากๆ ณ ขณะนี้เลยก็ว่าได้ ด้วยความที่โลเคชั่นของทางร้านตั้งอยู่เห็นวิวเขาฉกรรจ์แบบพาโนรามา และอีกทั้งยังมีทุ่งดอกทานตะวันที่ช่วงนี้กำลังเบ่งบานสะพรั่งเหลืองอร่ามอยู่ขั้นกลางระหว่างภูเขาและตัวร้าน สร้างความสวยงามตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่ได้มาเยี่ยมเยือน นอกจากนี้ทางร้านยังตกแต่งสถานที่ได้อย่างสวยงามมีมุมห้อยขาให้ได้นั่งดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ ชมวิวทุ่งดอกทานตะวันและเขาฉกรรจ์แบบ 360 องศา และสำหรับคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพทางร้านก็มีสะพานไม้ที่ยื่นไปในทุ่งดอกทานตะวันเป็นดั่งแลนด์มาร์คถ่ายรูปสวยของที่ร้านด้วย ใครมาที่นี่รับรองได้รูปสวยๆ ไปอวดในโซเชี่ยลแน่นอน ใครมีแผนกำลังจะมาเที่ยวสระแก้วหรือวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ยังไม่รู้จะไปทีไ่หนดี เราแนะนำเลยครับว่าที่นี่สวยงามและน่ามาชมด้วยตาตนเองจริงๆ ที่ตั้ง Wood House @ เขาฉกรรจ์ : ตำบลเขาฉกรรจ์ อำเภอเขาฉกรรจ์ จังหวัดสระแก้ว เวลาเปิด - ปิด : 8.00 - 18.00 น. ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook , Peeranut P.
0 Comments
น้ำตกวังก้านเหลืองชื่อว่าชื่อนี้อาจจะยังไม่คุ้นหูสำหรับหลายๆ คน แต่ขอบอกเลยว่านี่คือ Hidden Gem แห่งวงการกางเต็นท์อย่างแท้จริง น้ำตกวังก้านเหลืองตั้งอยู่ในตำบล ท่าดินดำ อำเภอ ชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี เป็นน้ำตกกลางป่าที่มีน้ำใสไหลเย็นและมีน้ำสีสวยมากๆ น้ำที่นี่มีสีเขียวมรกตสุดมหัศจรรย์ และด้วยบรรยากาศสุดดิบของป่าไม้และสมบูรณ์มากๆ ทำให้ที่นี่เหมาะแก่การมากางเต็นท์พักผ่อน ดื่มด่ำกับความสวยงามของธรรมชาติ แต่หากใครจะมากางเต็นท์ที่นี่ต้องทำใจสักหน่อยเพราะไม่มีไฟฟ้าให้ใช้ มีเพียงแสงสลัวสลัวจากบ้านเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เท่านั้น แต่หากใครที่ชอบบรรยากาศเงียบๆ และสงบ ตัดขาดจากโลกภายนอกแบบนี้บอกเลยว่าที่นี่เหมาะสมที่สุด ในส่วนของห้องน้ำสามารถใช้บริการห้องน้ำของเจ้าหน้าที่ได้ไม่ต้องกังวล มาที่นี่เพียงตัวเปล่าและเต็นท์หลังเดียวแล้วมาเก็บเกี่ยวความทรงจำและความสวยงามกลับไปเพียงเท่านั้นพอ ที่ตั้งน้ำตกวังก้านเหลือง : ตำบล ท่าดินดำ อำเภอ ชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี ค่าบริการกางเต็นท์ : ฟรี ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook , Peeranut P.
เป็นที่รู้กันดีสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยว่าในทุกๆ ช่วงต้นปีแบบที่ ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจะมีการจัดงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย สุดยิ่งใหญ่เอาใจคนรักการท่องเที่ยวขึ้นที่สวนลุมพินี ซึ่งในปีนี้ก็ถึงเวลาที่หลายๆ คนรอคอยแล้ว เพราะเมื่อวันที่ 23 มกราคม ที่ผ่านมา นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้เป็นประธานในการเปิดงานมหกรรมเที่ยวเมืองไทยขึ้นที่สวนลุมพินี โดยงานนี้จะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 23 - 27 มกราคม 2562 โดยในปีนี้ถือว่าเป็นครั้งที่ 39 สำหรับเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ภายในงานมีอะไรน่าสนใจบ้างตาม Sanook! Travel ไปชมกันครับ ภายในงานเต็มไปด้วยของกินของใช้และมุมถ่ายรูปเด็ดๆ เพียบ โดยจะแบ่งโซนการขายของและตกแต่งออกเป็น 9 โซน ทั้งโซนภูมิภาคต่างๆ ในประเทศไทย และโซนกิจกรรมสนุกๆ จากทาง ททท. ได้แก่ 1.ไทยเที่ยวไทย ไทยยั่งยืน โซนนี้จะอยู่บริเวณหน้าลานพระบรมรูปราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 6 เปรียบดั่งเป็นโซนต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคนที่เข้ามาร่วมงาน ตกแต่งภูมิทัศน์ด้วยเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่นของประเทศไทย ทั้งปลาตะเพียนสาน ร่มบ่อสร้าง และต่างๆ อีกมากมาย 2.เที่ยวไทยสุดคุ้ม ใครที่กำลังมองหาโปรแกรมการท่องเที่ยวเจ๋งๆ ทัวร์ราคาประหยัดต้องมาโซนนี้ เพราะทาง ททท. ได้รวบรวมเอาผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวและผู้ให้คำปรึกษาด้านโปรแกรมทัวร์มารวมไว้ในจุดนี้ จะขึ้นเหนือ ล่องใต้ ทะเลหรือภูเขาก็สามารถมาหาดูที่นี่ประกอบการตัดสินใจก่อนเดินทางได้ 3.เที่ยวไทยเท่ 5 ภูมิภาค โซนไฮไลท์ประจำงานนี้กับการจัดแสดงหมู่บ้านท่องเที่ยวทั้ง 5 ภาค ได้แก่ 3.1 ภาคกลาง 3.2 ภาคเหนือ 3.3 ภาคอีสาน 3.4 ภาคใต้ 3.5 ภาคตะวันออก ซึ่งแต่ละภาคก็ตกแต่งสถานที่ที่สะท้อนวิถีชีวิตและเอกลักษณ์ของความเป็นไทยได้อย่างเต็มที่ แถมมีของกินท้องถิ่นมาขายในงานด้วย เดินเที่ยวครบทั้ง 5 ภาคแล้วเหมือนได้ตระเวนเที่ยวมาทั่วประเทศเลยก็ว่าได้ 4.ของดีกทม. ใครจะมาเที่ยวงงานนี้โปรดทำท้องของคุณให้ว่างๆ เอาไว้ เพราะงานนี้ของกินเยอะจริงๆ ในโซนของดีกทม. นี้จะเป็นการรวมร้านอร่อย อาหารระดับตำนานในกทม. มาไว้รวมกันให้คุณได้เลือกชิมเลือกทานกันได้เต็มที่ บอกเลยว่าเดินหลงเข้าโซนนี้ไปมีอิ่มพุงกางแน่นอน 5.เวทีกลาง อีกหนึ่งไฮไลท์ของงานนี้กับเวทีกลางของงาน ซึ่งนอกจากจะเป็นสถานที่จัดพิธีเปิดแล้วยังมีการแสดงโชว์ต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้รับชมทุกวัน เช่นการแสดงโขนพระราชทาน การแสดงมโนหา์เรืองแสง การแสดงละครนอก รวมไปถึงการแสดงของศิลปินชื่อดังของเมืองไทย อย่าง หนึ่ง จักรวาล, ปาล์มมี่, หญิงลี, เจ เจตริน, จ๊ะ อาร์สยาม เป็นต้น 6.TAT STUDIO และ Startup พื้นที่นำเสนอส่วนผสมของข้อมูลการท่องเที่ยวและเทคโนโลยีสู่ข้อมูลการสื่อสารเชิงการตลาดผ่านสถานีข่าว ททท. หรือ TAT Studio ที่จะคอยนำเสนอข้อมูลทางการท่องเที่ยวของเทศกาลเที่ยวเมืองไทยในทุกรูปแบบ และมีมุมถ่ายรูปสวยๆ บนกำแพง Graffiti ที่สวยงามอีกด้วย 7.เมืองไทยสวยด้วยสองมือ "ขยะให้โชค" นักท่องเที่ยวยุคใหม่ต้องใส่ใจสิ่งแวดล้อม ซึ่งด้วยความที่โลเคชั่นในการจัดงานเที่ยวเมืองไทยนั้นตั้งอยู่ในสวนลุมพินีเพราะฉะนั้นนักท่องเที่ยวทุกคนจึงควรรักษาสิ่งแวดล้อมและช่วยกันเก็บขยะ ทาง ททท. จึงได้จัดตั้งโซนนี้ขึ้นมา ชื่อว่าขยะให้โชค โดยจะมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวที่มาร่วมงานนำขยะรีไซเคิล มาแลกเพื่อลุ้นรับของรางวัล และร่วมเสวนา โดยบล็อกเกอร์ท่องเที่ยวชื่อดังแนะนำการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และร่วมสนุกกับกิจกรรมบนเวทีจากศิลปิน Bmk 48, กอล์ฟ พิชญะ เป็นต้น 8.เมืองไทยใครๆ ก็เที่ยวได้ นำเสนอเส้นทางการท่องเที่ยวไทยที่ทุกคนสามารถเที่ยวได้ Tourism for all พร้อมชมการสาธิตและการจำหน่ายสินต้าจากผู้ด้อยโอกาสทางร่างกายที่จะมาอวดฝีมือให้ทุกๆ คนได้ชมกันภายในงาน และภายในโซนนี้ยังมี Tourism Dapartment Store กับแพ็คเกจการท่องเที่ยวชุมชนมานำเสนอให้กับนักท่องเที่ยวด้วย ใครที่ชอบการท่องเที่ยวโดยชุมชนโซนนี้ถือว่าน่าสนใจเลยทีเดียว 9.พันธมิตรท่องเที่ยวไทย โซนนี้คือสวรรค์สำหรับคุณหนูๆ จัดขึ้นโดยกรมทรัพยากรธรณี ที่ได้สร้าง Dino Park ขึ้นมากลางสวนลุมพินี มีไดโนเสาร์ตัวใหญ่ให้เด็กๆ ได้ไปถ่ายรูปและเรียนรู้ประวัติความเป็นมา รวมถึงให้ความรู้ทางด้านธรณีวิทยาแก่เด็กๆ และทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยก็ได้สร้างความสุขจากใจชุมชนรอบเขื่อนไว้เป็นแลนด์มาร์กสำหรับเด็กๆ ให้ได้มาเรียนรู้กัน ทั้ง 9 โซนนี้หากใครสามารถเดินได้จนครบ บอกเลยว่าคุณได้ไปท่องเที่ยวมาทั่วประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว! วันนี้ช่วงเลือกงานหากใครยังไม่รู้จะไปเดินเล่น ไปเที่ยว ไปหาของกินที่ไหนดู ลองแวะไปเดินชิลๆ ถ่ายรูปสวยๆ และหาของกินอร่อยๆ ที่งานเที่ยวเมืองไทยกันครับ ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook , Peeranut P.
หากพูดถึงเขาค้อแล้วล่ะก็ เชื่อว่าหลายคนคงจะคิดถึงวิวของขุนเขาที่ล้อมรอบความยิ่งใหญ่อลังการของธรรมชาติที่คุณจะได้พบเจอเมื่อได้ไปเที่ยวเขาค้อ ซึ่งวันนี้เอง ก็มีที่พักวิวสวยบนเขาค้อซึ่งมีความพิเศษกว่าที่อื่นๆ มาแนะนำให้ทุกคนได้ไปตามรอยกัน ที่นี่มีความพิเศษอย่างไร และน่าสนใจตรงไหน ตามไปดูกัน Phukaew Resort เขาค้อ ที่พักบนเขาวิวสุดอลังการที่มีจุดชมวิวชื่อว่า Phukaew Peak จุดชมวิวรูปมือยักษ์ที่เมื่อคุณได้ขึ้นไปยืนอยู่บนมือยักษ์นั้นแล้วจะได้ภาพสวยๆ ที่สวยงามและดูแปลกตาน่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก วิวด้านหน้าคือทะเลภูเขาที่ทอดยาวไปสุดลูกหูลูกตา ป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์เขียวขจีไปทั่วทั้งเขา ยิ่งมองยิ่งสบายใจ ยิ่งได้ไปสัมผัสยิ่งมีความสุข นอกจากจุดชมวิวมือยักษ์นี้ที่ Phukaew Resort เขาค้อ ยังมีที่พักในบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติให้บริการ ห้องพักสวยสะอาด และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แถมยังตื่นมาได้ชมวิวภูเขาและสาบหมอกในยามเช้าด้วย และที่เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของทางที่พักก็คือกิจกรรมแอดเวนเจอร์มาพักที่นี่ไม่มีเหงาแน่นอน เพราะมีกิจกรรมให้ทำเยอะมาก ทั้งโหน Zipline ปีนผาจำลอง เป็นต้น และยังมีกิจกรรมสำหรับเด็กๆ อีกมากมายเหมาะสำหรับจะพาครอบครัวมาเที่ยวพักผ่อนกัน ในส่วนของอาหารการกิน ที่นี่ก็มีให้บริการเช่นกันทั้งอาหารคาวและหวานรวมไปถึงเครื่องดื่ม ทานอาหารท่ามกลางวิวแห่งขุนเขาแบบนี้บอกเลยว่าฟิน ใครที่กำลังมองหาทีพ่ักบนเขาค้อกันอยู่ เราขอแนะนำเลยว่าไปพักที่นี่ ที่เดียวจบครบทั้งวิวสวยๆ ที่พักสบายๆ และกิจกรรมสนุกสนานจริงๆ อย่ารอช้าวันหยุดนี้รีบเก็บกระเป๋าไปเที่ยวกันครับ ที่ตั้ง Phukaew Resort เขาค้อ : 75 หมู่14 ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook , Peeranut P.
นักท่องเที่ยวสายบุญต้องไปตามรอย! วัดท่ามะกอกสถานที่เที่ยวทางพระพุทธศาสนาของจังหวัดระยอง วัดนี้ตั้งอยู่ใน ต.พังราด อ.แกลง จ.ระยอง เป็นวัดที่สร้างขึ้นมาด้วยศิลปะผสมผสาน เกิดเป็นสถาปัตยกรรมอันงดงามที่น่าไปเยี่ยมชม ไฮไลท์หลักของทางวัดก็คืออุโบสถที่สร้างขึ้นมาเป็นรูปทรงแบบเรือนารายณ์ทรงสุบรรณ มีการฉลุลวดลายรอบพระอุโบสถไว้อย่างงดงาม รอบๆ อุโบสถมีประติมากรรมทางพระพุทธศาสนาอีกมากมาย เป็นทั้งสถานที่ทำบุญและพักผ่อนหย่อนใจ รวมไปถึงคนที่ชื่นชอบการถ่ายรูปนั้นมาเที่ยววัดนี้รับรองว่าได้รูปภาพสวยๆ กลับไปเป็นของฝากอย่างแน่นอน ที่ตั้งวัดท่ามะกอก : ต.พังราด อ.แกลง จ.ระยอง ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook , Peeranut P.
ความสุขของการท่องเที่ยวบางทีอาจจะเป็นการได้ไปยืนสวยๆ อยู่กลางทุ่งดอกไม้หลากหลายสีสัน ซึ่งหลายๆ คนคงจะเคยเห็นภาพทุ่งดอกไม้ตามต่างจังหวัดที่มีสีสันสวยงามกันมาบ้างแล้ว แต่ในวันนี้ จะพาคุณไปทำความรูจักกับสวนดอกไม้แสนสวยใกล้กรุงเทพฯ แค่นนทบุรี กับ "งานความสุขปลูกได้" ความสุขที่ทุกคนสามารถมาสัมผัสได้ด้วยตนเอง ภายในงาน แบ่งออกเป็น 7 จุดด้วยกัน ได้แก่ 1.บ้านดอกไม้ พิทูเนียหลากสี และวงกตดางเรือง ที่รอทุกท่านไปหลง(ไหล) 2.แปลงพืชตระกูลแตงและมะระ ที่ปลูกในเวียดนาม อินเดีย รูปทรงแปลกตา 3.Green house แตงโมและเมล่อน หลากหลายสายพันธุ์แปลกตาที่รอทุกท่านไปชิม 4.ข้าวโพดหลากสีและผักขึ้นค้าง ถั่วต่างๆและฟักทองพันธุ์ต่างๆ แปลกตา 5.อุโมงค์ผักแห่งความสุข ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ถึง 160 เมตร 6.วตกตผักพื้นบ้าน รวบรวมผักพื้นบ้านสุดแปลก มากคุณประโยชน์ ที่นี่ที่เดียว 7.โซนผักแนวตั้ง ไม้กลับหัว home gardening รวบรวมไอเดียการปลูกผักสำหรับคนเมืองพื้นที่น้อย แต่ละโซนล้วนเป็นมุมถ่ายรูปที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ทางด้านการเกษตรสำหรับคนที่ชื่นชอบธรรมชาติควรมาเยี่ยมชม และที่สำคัญงานนี้เข้าชมฟรีด้วย! มาเก็บรูปภาพสวยๆ ความทรงจำดีๆ และดื่มด่ำไปกับความสวยงามของต้นไม้และดอกไม้ในงานนี้กันครับ ข้อมูลเพิ่มเติม พิกัดงานความสุขปลูกได้ : อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี ระยะเวลาจัดงาน : เปิดแค่ 3 วัน 18-20 มกราคม 2562 ค่าเข้าชม : ฟรี ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook , Peeranut P.
เข้าช่วงเดือนมกราคมของทุกปี พาไปเที่ยวชมความสวยงามของดอกไม้ที่บานสะพรั่งไปทั่วทุ่ง ท่ามกลางลมหนาวที่กำลังพัดผ่าน พร้อมชมบรรยากาศสายหมอกแบบสุดฟินของภาคเหนือ 1.หมู่บ้านรักไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอน หมู่บ้านเล็กๆ ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ถูกรายล้อมด้วยธรรมชาติและหุบเขา มีอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี พร้อมบรรยากาศที่เงียบสงบ ชมสายหมอกที่ปกคลุมสายน้ำในยามเช้า ให้ความโรแมนติกสุดๆ 2.ภูลมโล จังหวัดเลย ฤดูกาลของการเที่ยวหุบเขาสีชมพูที่ “ภูลมโล” ของจังหวัดเลย พร้อมออกดอกเบ่งบานของ “ดอกพญาเสือโคร่ง” กลางเดือนมกราคมของทุกปี ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบายของลมหนาว พร้อมมุมถ่ายรูปมากมาย จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตจะมีท่องเที่ยวตั้งตารอที่จะมารอชมความสวยงามของ “ดอกพญาเสือโคร่ง” ของที่นี่ในทุกๆ ปี 3.ภูเรือ จังหวัดเลย สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดเลย ขึ้นไปชมวิวธรรมชาติที่สมบูรณ์ สัมผัสลมหนาวและชมสายหมอกในยามเช้าอย่างใกล้ชิด พร้อมชมดอกฤดูหนาวหลากหลายสีสันที่จัดการแสดงโชว์ ให้ได้มาถ่ายรูปกันแบบฟินๆ ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบาย 4.ภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย ขึ้นไปชมวิว ชมธรรมชาติ ชมทะเลหมอกยามเช้า พร้อมชมความสวยงามของพันธุ์ไม้ฤดูหนาวที่เบ่งบานขึ้นตามสันเขา กับสถานที่ท่องเท่ียวยอดฮิตของจังหวัดเชียงราย ยอดเขาสูงที่สุดในเทือกเขาดอยผาหม่นติดชายแดนไทย–ลาว 5.ม่อนแจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวหน้าหนาวสุดฮิตของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นจุดชมวิวทะเลหมอก ภูเขา ที่สวยงามติดอันต้นๆ ของประเทศไทย เดินชมความสวยงามของพันธุ์ไม้ฤดูหนาว มากมายไปด้วยมุมถ่ายรูปสวยๆ และกิจกรรมมากมาย ท่ามกลางบรรยากาศที่เย็นสบายสุดๆ 6.ดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่ สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของจังหวัดเชียงใหม่ มากมายไปด้วยพันธุ์ไม้ฤดูหนาว ที่จะเบ่งบานสะพรั่งออกดอกออกมีสีสันสวยงาม ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบายทั้งปี ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook , พาไป
เกาะเหลาเหลียง อีกหนึ่งเกาะน่าเที่ยวของท้องทะเลตรัง น้ำทะเลสวย ฟ้าใส บรรยากาศเงียบสงบ อีกหนึ่งขุมทรัพย์ท้องทะเลไทยควรค่าแก่การมาเช็กอิน เกาะเหลาเหลียง เกาะท่องเที่ยวแบบส่วนตัวในจังหวัดตรัง หลายคนอาจจะยังไม่ค่อยคุ้นชื่อเท่าไรนัก แต่บอกให้รู้ไว้ตรงนี้เลยว่า…ที่นี่เปรียบเสมือนเกาะสวรรค์สำหรับคนรักการเที่ยวทะเลอย่างแท้จริง ทั้งยังมีกิจกรรมให้คุณได้ทำสนุก ๆ จะมาเที่ยวเป็นหมู่หรือเป็นคู่ ก็ดูเข้าทีไปเสียทั้งหมด ใครที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยวทะเลอยู่ในหัว เราขอเชียร์ให้คุณลองมาเที่ยวที่เกาะเหลาเหลียงดู แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้จักเกาะเหลาเหลียงว่าอยู่ที่ไหน ? เดินทางไปยังไง ? นอนพักที่ไหน ? ทุกคำถาม เราหาคำตอบมาให้แล้วค่ะ เกาะเหลาเหลียง ตั้งอยู่ที่ไหน ? เกาะเหลาเหลียง อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลสุกร อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง มองจากไกล ๆ จะเห็นเป็นเกาะแฝดตั้งตระหง่านเคียงคู่กัน คือ เกาะเหลาเหลียงน้อง (เหนือ) และเกาะเหลาเหลียงพี่ (ใต้) มีลักษณะเป็นภูเขาหินปูนที่ล้อมรอบด้วยหาดทรายขาวและน้ำทะเลใส อุดมสมบูรณ์ด้วยปะการังและฝูงปลาชนิดต่าง ๆ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการดำน้ำทั้งตื้นและลึก ทำไมถึงต้องไปเที่ยวเกาะเหลาเหลียง ? ด้วยเพราะเกาะเหลาเหลียงเป็นเกาะท่องเที่ยวแบบส่วนตัว จำนวนนักท่องเที่ยวบนเกาะจึงมีไม่มาก เพราะฉะนั้นแล้ว ใครที่อยากไปเที่ยวทะเลในบรรยากาศที่สงบและเป็นส่วนตัว เกาะเหลาเหลียงตอบโจทย์คุณได้อย่างแน่นอน ซึ่งส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่นี่ มักเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ต้องการหามุมสงบพักผ่อนนั่งชมวิวทะเล หรือไม่ก็อ่านหนังสือเงียบ ๆ ท่ามกลางธรรมชาติท้องทะเลสวยน่าหลงใหล รวมถึงโลกใต้น้ำของเกาะเหลาเหลียงก็สวยงามเกินคำบรรยาย เพราะแค่เราว่ายน้ำออกมาจากหาดไม่เท่าไร ก็จะพบกับปะการังมากมาย มีทั้งปะการังกิ่งไม้เล็ก ปะการังเขากวาง ปะการังดอกกะหล่ำ ปะการังอ่อน กัลปังหาและดอกไม้ทะเลก็มีเยอะแยะ ปลาทะเลตัวเล็กตัวน้อยมากมายหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นปลาการ์ตูนที่อยู่ตามแนวดอกไม้ทะเล หรือปลาตะปูพร้อมจะมาล้อมรอบตัวเพื่อต้อนรับเราแบบใกล้ชิดมาก ๆ ประวัติเกาะเหลาเหลียง มีตำนานเมื่อครั้งโบราณถึงได้เล่าประวัติความเป็นมาของเกาะเหลาเหลียง ว่าครั้งหนึ่งมีเรือพ่วงติดกันมา 2 ลำ มีชื่อว่า เหลาเหลียงพี่ และเหลาเหลียงน้อง เดินทางรอนแรมค้าขายมาจากทางประเทศจีน วันหนึ่งเมื่อเดินทางมาถึงบริเวณเกาะแห่งหนึ่งซึ่งมีชื่อว่า เกาะเภตรา ก็ได้เกิดอาเพศคลื่นขนาดยักษ์ ด้วยความไม่รู้ของคนในเรือ จึงเผลอกล่าวสบถวาจาขึ้น เหตุนั้นเองทำให้พระเจ้าไม่พอใจ และทรงลงโทษ โดยการสาปเรือทั้งสองลำนั้นให้กลายเป็นหิน ดังที่เราได้เห็นจากลักษณะของภูเขาบนเกาะเหลาเหลียงนั่นเอง ฤดูการท่องเที่ยวเกาะเหลาเหลียง จริง ๆ แล้วเกาะเหลาเหลียงไม่ได้เปิดให้ท่องเที่ยวตลอดทั้งปี โดยจะปิดเกาะเป็นประจำทุกปีในช่วงฤดูฝน (เดือนมิถุนายน-ตุลาคม) เนื่องจากมีลมมรสุมและต้องการให้ธรรมชาติได้ฟื้นฟูตัวเอง และจะเปิดเกาะให้เที่ยวอีกทีในช่วงประมาณปลายเดือนตุลาคม โดยในปี 2561 เกาะเหลาเหลียงพร้อมเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวอีกครั้งในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2561 เกาะเหลาเหลียง ไปยังไง ? ปกติแล้วนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเกาะเหลาเหลียงมักจะจองแพ็กเกจท่องเที่ยว ซึ่งรวมบริการรับ-ส่งจากท่าเรือมายังเกาะเหลาเหลียงไว้แล้ว ดังนั้นจึงไม่ต้องห่วงเรื่องการเดินทาง รับรองว่าสะดวกสบายหายห่วงอย่างแน่นอน แพ็กเกจเที่ยวเกาะเหลาเหลียง วิธีที่สะดวกที่สุดสำหรับการมาเที่ยวเกาะเหลาเหลียง แนะนำว่าให้จองแพ็กเกจทัวร์กับที่พัก Laoliang Beach จะดีที่สุด เพราะคุณจะได้เต็มอิ่มไปกับกิจกรรมสนุก ๆ อาหารอร่อย ๆ และการพักผ่อนอย่างสะดวกสบาย โดยมีแพ็กเกจท่องเที่ยวให้เลือกหลากหลาย ทั้งแบบ One Day Trip, เที่ยวเกาะดูปะการัง (2 วัน 1 คืน) และเที่ยวเกาะดูปะการัง (3 วัน 2 คืน) เป็นต้น สามารถดูรายละเอียดแพ็กเกจท่องเที่ยวเกาะเหลาเหลียงเพิ่มเติมได้ที่ วิธีการจอง Package "เกาะเหลาเหลียง" บนเกาะเหลาเหลียง ทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตราได้ให้สัมปทานแก่เอกชนเพียงแห่งเดียว (Laoliang Beach) ในการดูแลเรื่องท่องเที่ยวและกิจกรรมต่าง ๆ ทุกอย่างบนเกาะ นั่นก็เพื่อเป็นการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว ทั้งยังเป็นการป้องกันและดูแลไม่ให้ทรัพยากรธรรมชาติบนเกาะถูกทำลาย โดยที่พักจะมีแต่ที่พักแบบเต็นท์เท่านั้น ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวม แยกชาย-หญิง รับรองว่าสะอาดน่าใช้บริการ เต็นท์มีขนาดใหญ่ ด้านในมีฟูกนุ่ม ๆ พร้อมด้วยพัดลม โคมไฟ และสิ่งอำนวยความสะดวกเล็ก ๆ น้อย ๆ มีให้เลือกทั้งแบบ Garden view ติดแนวภูเขา และ Sea view ติดหน้าหาด นอนรับลมทะเลเย็น ๆ รวมถึงยังมีห้องอาหารบรรยากาศธรรมชาติ และมีจุดนั่งชิลอยู่ทั่วเกาะ รวมถึงยังมีกิจกรรมสนุก ๆ เช่น ปีนผา พายเรือคายัก และตกปลา เป็นต้น ให้ได้ทำอีกด้วย ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : travel.kapook
วันเด็กปีนี้หากใครยังไม่รู้จะพาคุณหนูๆ ไปไหน ขอแนะนำ 10 จุดเช็กอินท่องเที่ยววันเด็กประจำปี 2562 นี้ 1.งาน SANRIO CHARACTERS Toys World 2019 ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ ฉลองเทศกาลวันเด็ก ยกขบวน Hello Kitty and Friends มอบความสุขส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่น ตื่นตาตื่นใจกับเมืองลูกกวาดและของเล่น นำโดย Hello Kitty และผองเพื่อนจาก Sanrio อาทิ My Melody, Cinnamoroll, Keroppi, Gudetama ที่จะมากระทบไหล่เด็กๆ ระยะเวลาจัดงาน : วันที่ 4 - 13 มกราคม 2562 สถานที่จัดงาน : ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ 2.“Major Movie Kids Day 2019” เด็กอายุไม่เกิน 12 ปี ดูหนังฟรี 100,000 ที่นั่ง ที่เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ทุกสาขาทั่วประเทศ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ต้อนรับปีใหม่ด้วยการมอบความสุขความบันเทิงในวันเด็กแห่งชาติ วันเสาร์ที่ 12 มกราคม 2562 เปิดโรงหนังให้เด็กดูหนังฟรี 100,000 ที่นั่ง ที่ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ปทุกสาขาทั่วประเทศ ง่าย ๆ สำหรับน้อง ๆ ที่อายุไม่เกิน 12 ปี สามารถขอรับคูปองที่สาขาเพื่อชมภาพยนตร์ฟรี 1 ที่นั่ง 3.“คิดส์สนุกสุขสยาม” เมืองสุขสยาม ณ ไอคอนสยาม เมืองสุขสยาม ณ ไอคอนสยาม ร่วมกับ เมืองไทยประกันชีวิต องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (นมไทย-เดนมาร์ค) จัดงาน “คิดส์สนุก สุขสยาม” ภายใต้แนวคิด เรียนรู้วิถีชีวิตไทยผ่านกิจกรรมการเรียนรู้และการละเล่นที่แสนสนุก เพื่อเป็นการส่งเสริมและพัฒนาการเรียนรู้เด็กไทย ชวนคุณหนูๆ ฝึกทักษะกับกิจกรรมสุดสร้างสรรค์ เช่น ตกแต่งถุงผ้ารักษ์โลก เพ้นท์ร่มล้านนา ขนมลูกชุบแฟนซี ชมการแสดง 4 ภาค อาทิ การแสดงโขน ผีตาโขน มโนราห์ กลองสะบัดชัย รำกิ่งกะหร่า พร้อมชมแฟชั่นโชว์เด็กชุดไทย และร่วมสนุกกับกิจกรรมไฮไลท์ วอร์คแรลลี่ “ตะลุยภารกิจพิชิตของรางวัล” 7 ฐาน เช่น เต้นโต เรือกอและ ผีตาโขน โรงสีข้าว หนุมาน เมืองไทยประกันชีวิต และนมไทย-เดนมาร์ค เพียงลงทะเบียนหรือเข้าร่วมกิจกรรม #คิดส์สนุกสุขสยาม รับสิทธิร่วมเล่นกิจกรรมพร้อมรับของรางวัลมากมาย ระยะเวลาจัดงาน : วันที่ 9 – 13 มกราคม 2562 สถานที่จัดงาน : ไอคอนสยาม 4.“คุณหนูอิ่มฟรี” บุฟเฟ่ต์จัดหนักที่โรงแรมอัล มีรอซ โรงแรมอัล มีรอซ (Al Meroz) บนถนนรามคำแหงซอย 5 ร่วมฉลองวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2562 กับ “Happy Children’s Day” อร่อยกับอาหารบุฟเฟ่ต์นานาชาติ สำหรับมื้อกลางวันและมื้อค่ำที่ห้องอาหารดีวาน ชั้น 1 ของโรงแรมฯ พร้อมสนุกกับซุ้มกิจกรรมที่ยกขบวนมาเอาใจคุณหนู อาทิ เชฟเบเกอรี่น้อย จิตรกรน้อย การ์ตูนตัวโปรด ฯลฯ คุณหนูอายุ 4-12 ปี รับสิทธิ์ทานฟรี! 2 คน เมื่อมาพร้อมกับผู้ใหญ่ 2 คน ในวันเสาร์ที่ 12 มกราคมนี้ สถานที่จัดงาน : โรงแรม อัล มีรอซ ถนนรามคำแหงซอย 5 กรุงเทพมหานครฯ 5.“ผจญภัยในห้องครัว” ในกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ @มิวเซียมสยาม มิวเซียมสยาม เชิญชวนคุณหนูๆ และครอบครัว มาร่วมสนุกถอดรหัสความเป็นไทยผ่านเมนูอาหารไทยยอดนิยม ในกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ตอน “ผจญภัยในห้องครัว” ภายในงานจะพบกับเกมสนุกๆ มากมายให้ทุกคนได้เรียนรู้กรรมวิธีและการเลือกใช้วัตถุดิบในการปรุงอาหารอย่างพิถีพิถันของคนไทย เพื่อให้น้องๆ ได้รู้ว่ากว่าที่จะมาเป็นอาหารเลิศรสของไทยนั้น การเลือกใช้ ‘วัตถุดิบ’ ถือเป็นหัวใจสำคัญ มาร่วมกันออกตามหาวัตถุดิบจากเมนูอาหารในห้องไทยชิมทั้ง 4 ฐานเกม อาทิ ฐานฟาร์ม ฐานตลาด ฐานสวนผัก และฐานสวนผลไม้ ที่จะมากระตุ้นการเรียนรู้ด้วยเกมสนุกๆ พร้อมได้ความรู้อย่างเพลิดเพลิน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเวิร์กชอปงานประดิษฐ์เสริมสร้างจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์จากวัสดุธรรมชาติ และกิจกรรมอื่นๆ พร้อมของรางวัลอีกมากมาย ระยะเวลาจัดงาน : วันที่ 12 มกราคม 2562 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 18.00 น. สถานที่จัดงาน : มิวเซียมสยาม ท่าเตียน กรุงเทพมหานคร 6.“RUBBERLAND RUBBER Adventure” รับเบอร์แลนด์ (RUBBERLAND) อุทยานการเรียนรู้ยางพารา รูปแบบ Edutainment แห่งแรกในเอเชีย ขนขบวนความสุขมาสร้างสีสันในช่วงวันเด็กกับกิจกรรม “RUBBERLAND RUBBER Adventure” เนรมิตรับเบอร์แลนด์ให้มีแต่ความสนุก สำหรับน้องๆ หนูๆ กับกิจกรรม RUBBERLAND WALK RALLY ตะลุยภารกิจในดินแดนยางพารา ร่วมค้นหาความลับที่ซ่อนไว้ตามฐานต่างๆ เพียงร่วมเล่นเกมส์ก็รับของที่ระลึกทันที โดยน้องๆ ที่มีส่วนสูงไม่เกิน 135 ซม. เข้าฟรี ระยะเวลาจัดงาน : วันที่ 12-13 มกราคม 2562 ตั้งแต่เวลา 11.00 - 17.00 น. 7."Children’s Day The Carnival @ Siam Serpentarium” สยาม เซอร์เพนทาเรียม ศูนย์การเรียนรู้และพิพิธภัณฑ์งูรูปแบบ interactive ที่ให้ความรู้คู่ความบันเทิงแห่งแรกในเอเชีย จัดกิจกรรม “Children’s Day The Carnival @ Siam Serpentarium” ชวนน้องๆ บุกตะลุยเข้าไปในโลกแห่งงู พร้อมร่วมสนุกกับกิจกรรมสุดพิเศษ Face & Body Paint แปลงร่างเป็นงู พลาดไม่ได้กับเกมบันไดงูยักษ์ ที่มีของรางวัลให้น้องๆ ได้ร่วมลุ้นมากมาย และสนุกไปกับพี่โบโซ่ที่ขนลูกโป่งแสนสวยมาสร้างสีสันภายในงาน พิเศษสุด! สำหรับเด็กที่มีอายุไม่เกิน 15 ปี เข้าฟรี ระยะเวลาจัดงาน : วันเสาร์ที่ 12 มกราคม 2562 ระหว่างเวลา 09.00-16.00 น. 8.ทำเนียบรัฐบาล แน่นอนว่าการได้เข้าไปสู่ทำเนียบรัฐบาลสถานที่สำคัญระดับประเทศแบบนี้ต้องเป็นความฝันของเด็กๆ หลายๆ คนแน่นอน และเป็นประจำทุกปีที่ทางรัฐบาลจะเปิดให้เด็กๆ ได้เข้าไปเที่ยวในทำเนียบรัฐบาล ในปีนี้ก็เช่นกัน พาเด็กๆ ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ดีๆ ที่ทำเนียบรัฐบาลกัน 9.ท้องฟ้าจำลอง เติมเต็มจินตนาการและสร้างแรงบันดาลใจในด้านดาราศาสตร์ของเด็กๆ ที่ท้องฟ้าจำลอง สถานที่ท่องเที่ยวที่จะทำให้คุณหนูๆ ตื่นตาตื่นใจไปกับวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ วันหยุดนี้พาครอบครัวไปเที่ยวท้องฟ้าจำลองให้เด็กๆ ได้ไปเห็นวิทยาการทางด้านวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ด้วยตัวเองกัน 10.พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร จตุจักร พาน้องๆ หนูมาร่วมสนุกและร่มทำกิจกรรมสนุกสนานมากมายที่พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร ร่วมเล่นเกมชิงของรางวัล และสนุกสนานไปพร้อมกับการเรียนรู้จากกิจกรรมของทางพิพิธภัณฑ์วันที่ 12 มกราคม 2562 เด็กๆ เข้าชมได้ฟรี ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook , Peeranut P.
ใครอยากจะสัมผัสกับบรรยากาศแห่งขุนเขา และปะทะกับอากาศอันหนาวเย็น จะพาคุณไปชมความสวยงามของร้านอาหารแห่งหนึ่งที่จังหวัดอุทัยธานี มากินอาหารที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับขุนเขาที่ล้อมรอบแบบธรรมชาติสุดๆ เพราะที่นี่คือบ้านชายเขา สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย นั่นเอง บ้านชายเขาเป็นแห่งแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ที่นี่มีทั้งร้านอาหารให้บริการ รวมไปถึงจุดชมวิวและมุมถ่ายรูปสวยๆ ในเช้าบางวันที่มีหมอกลงบริเวณนี้จะมีบรรยากาศคล้ายคลึงกับต่างประเทศมาก จนได้รับสมญานามว่าสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทยเลยทีเดียว และมาเที่ยวที่นี่อย่าพลาด พกกล้องถ่ายรูปพร้อมกับแต่งตัวสวยๆ หล่อๆ มาเก็บภาพความประทับใจกับขุนเขากัน รับรองว่าจะต้องได้รับความทรงจำดีๆ กลับไปแน่นอน ที่ตั้งบ้านชายเขา : 51 ม.3 ต.ทุ่งนางาม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook , Peeranut P.
|
AuthorWrite something about yourself. No need to be fancy, just an overview. Archives
January 2021
Categories |