ใครกำลังมองหาที่เที่ยวใกล้กรุง! เก็บกระเป๋าจัดทริปเล็กๆ เท่ียวน้ำตก ชมทุ่งนา ทำตัวชิลล์ในวันพักผ่อนที่จังหวัดนครนายก กับทริป 2 วัน 1 คืน เที่ยวที่ไหนดี เก็บกระเป๋า เช็ครถ พร้อมแล้วออกเดินทางได้! ออกเดินทางเช้าๆ หน่อย ไปตามหา “ทุ่งบัวแดง” ที่ อ.บ้านนา ที่จะเบ่งบานตั้งแต่เช้า จนถึงประมาณ 11 โมง ไม่ต้องไปหาบัวแดงแบบไกลๆ ที่นครนายกก็มีน้า … สังเกตุง่ายๆ บึงจะอยู่ทางซ้ายมือเส้นทางไป อ.บ้านนา ไปนั่งถ่ายรูปชิลล์ๆ กับทุ่งบัวแดง ขับมาอีกนิด มาเส้นนี้ทั้งที! ต้องมาต่อกันที่ “วัดจุฬาภรณ์วนาราม” ชมธรรมชาติ เดินเล่นในอุโมงค์ไม้ไผ่ ที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ แล้วไปไหว้พระเสริมบุญ … ถึงแม้จะเป็นวัด แต่ที่นี่ถึอว่าเป็นจุดเช็คอิน มุมถ่ายรูป ท่องเที่ยวอีกแห่งนึง ที่ห้ามพลาดเมื่อมาที่ อ.บ้านนา จ.นครนายก กัน เข้าหน้าฝนแล้ว ก็ต้องไปตามหาทุ่งนาสีเขียวที่ “ภูกะเหรี่ยง”เป็นแหล่งท่องเที่ยววิถีธรรมชาติ อิงหลักเศรษฐ์กิจพอเพียง มีสะพานไม้ที่ทอดยาว กลางทุ่งนา ให้ได้เดินชมธรรมชาติ ใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ ให้เพลินๆ เปิดวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00-18.00 น. “พุทธอุทยานมาฆบูชาอนุสรณ์” สถานที่สำคัญทางศาสนา ที่สร้างขึ้นในวัน “มาฆบูชา” วันสำคัญของศาสนาพุทธ มีการสร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ พร้อมดัวยองค์พระพุทธรูป 1,250 องค์ เป็นตัวแทนพุทธสาวกแสดงถึงเหตุการณ์สำคัญเมื่อครั้งพุทธกาล ที่นี่ยังถึอว่าเป็น “อุทยานมาฆบูชาอนุสรณ์หนึ่งเดียวในโลก” “น้ำตกสาริกา” เป็นน้ำตกในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตั้งอยู่ที่ตำบลสาริกา เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีสายน้ำไหลตกจากหน้าผาเป็นทอด ๆ ถึง 9 ชั้น ทำให้สายน้ำไหลตกลงมาอย่างสวยงามเป็นอีกหนึ่งน้ำตกขึ้นชื่อของนครนายกที่ไม่ควรพลาดมาเยี่ยมชม ยิ่งในช่วงหน้าฝน บอกเลยว่าต้องมาที่นี่ “คลองมะเดื่อ” ถึงแม้ที่นี่จะเป็นเพียงลำธารเล็กๆ แต่มีความร่มรื่นแล้วธรรมชาติที่ไม่เล็กเลย จึงทำให้ที่นี่โด่งดังขึ้นมาจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีผู้คนนิยมมาจนถึงปัจจุบัน มีทั้งความเงียบสงบ บรรยากาศที่สบาย ใครอยากพักผ่อน ต้องมาที่นี่เลย เที่ยวชมธรรมชาติ เล่นน้ำตกกันเพลินแล้ว มาเที่ยวต่อในยามค่ำที่ “ตลาดเท่งเถิดเทิง ไนท์วินเทจ” แหล่งท่องเที่ยวเพิ่งเปิดใหม่ไม่นาน มีสินค้า ของกิน พร้อมด้วยสินค้าวินเทจ และร้านค้าอีกมากมาย มาเปิดไว้รอ ขาช้อป ขาชิม มาเดินเที่ยวเล่นกัน เปิดบริการวันศุกร์ – วันอาทิตย์ เวลา 5 โมงเย็น จนถึง เที่ยงคืน หมดไปหนึ่งวันกับการท่องเที่ยวนครนายก … เข้าสู่วันที่ 2 ตื่นเช้ากันหน่อย ไปดูแสงยามเช้าที่ “เขาหล่นผจญภัย” โลเคชั่นสุดฮิต มุมถ่ายรูปเก๋ๆ ของวัยรุ่น ชาวฮิปส์ทั้งหลาย ไม่อยากตกเทรน หรือ อยากมีรูปสวยๆ ต้องมาเลย … อย่าลืมเอากล้องติดตัวมาด้วยนะ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 6 โมงเช้า จนถึง 6 โมงเย็น มาถึงจังหวัดนครนายกทั้งที ถ้ามาไม่ถึง “เขื่อนขุนด่านปราการชล” ก็คงจะมาไม่ถึงถึงนครนายก … เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่จะมีนักท่องเที่ยว นั่งรถชมวิวบนสันเขื่อน ล่องเรือชมธรรมชาติ ตามหาน้ำตก “ผางามงอน” น้ำตกเล็กๆ ท่ามกลางธรรมชาติสีเขียว หรือจะไปเล่นน้ำในบริเวณหน้าเขื่อน มาที่เขื่อนขุนด่านได้ทั้งเล่นน้ำ ชมวิว ชิลล์ธรรมชาติ ครบหมดเลย “น้ำตกนางรอง” อีกแหล่งท่องเที่ยว เป็นน้ำตกขนาดกลางที่มีความสวยงามขึ้นชื่ออีกแห่งของจังหวัดนครนายก แต่ละชั้นมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และเล็กรองรับน้ำที่ไหลลงมาเหมาะสำหรับลง เล่นน้ำเป็นอย่างมาก และสามารถเลือกเล่นน้ำได้หลายจุด มีน้ำตลอดทั้งปี “น้ำตกวังตะไคร้” ถือได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งของประเทศ ที่จะมีนักท่องเที่ยวมากมาย มาพักผ่อน ผ่อนคลายไปกับธรรมชาติ เล่นน้ำกันเพลินๆ กับกิจกรรมภายในอุทยาน “แก่งเทียม” แหล่งรวมตัวของนักท่องเที่ยว ที่จะมาเล่นน้ำ ล่องแก่ง กันเพลินๆ ตั้งแต่ต้นเขื่อนยันสุดแก่ง โดยใช้เวลาประมาน 1 ชม ครึ่ง ในการล่อง “อุทยานพระพิฆเนศ” สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่จะมีนักท่องเที่ยวนิยมมากราบไหว้ขอพร ขอโชค ให้การเดินทาง ที่นี่ยังถือได้ว่าเป็นที่ประดิษฐานพระพิฆเนศปางเสวยสุของค์ใหญ่ที่สุดในโลก! กันอีกด้วย “สะพานทุ่งนามุ้ย” เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมของคนที่ชอบการถ่ายรูป เป็นสะพานไม้ทอดยาวผ่านทุ่งนา มีมุมถ่ายรูปสวยๆ ให้นั่งแอ็คท่าถ่ายรูป เพลินไปกับธรรมชาติ ใครที่ยังคิดแพลนเที่ยวในวันหยุดนี้ไม่ออก ลองเก็บกระเป๋าชวนเพื่อน ชวนคนรู้ใจ หรือคนที่บ้าน ไปเที่ยวเล่น ผ่อนคลาย ในหน้าฝน พร้อมชมธรรมชาติ นอนแช่น้ำชิลล์ๆ กันที่จังหวัดนครนายกกัน ที่มา >>> sanook
0 Comments
เกาะเต่า” แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นส่วนหนึ่งของ อ.เกาะพะงัน ที่จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มาเที่ยวเล่น มาพักผ่อน กันอย่างไม่ขาดสาย ไม่ว่าจะเป็นช่วง Low Season หรือ High Season ภายในเกาะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งร้านอาหาร แหล่งบันเทิง แหล่งช้อปปิ้ง ที่พัก ไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวทั้งหลายที่จะมาพักผ่อนภายในเกาะ ภายในเกาะมีชายหาดที่ขึ้นชื่อมากมาย หาดทรายรี, หาดปะการัง, อ่าวโฉลกบ้านเก่า, หาดแม่หาด, อ่าวแหลมเทียน, อ่าวหินวง และ อ่าวเทียนนอก ซึ่งแต่ละหาดก็จะ หาดทรายสีขาว น้ำทะเลสีฟ้าใส และมีความสวยงามที่แตกต่างกันออกไป “แสงยามเย็น” เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ภายในเกาะ ที่จะมีนักท่องเที่ยวทั้งหลายมานั่งรอชมพระอาทิตย์ตก ชมแสงอาทิตย์ผาดผ่านน้ำทะเล ลับขอบฟ้า อยู่ริมชายหาด บริเวณร้านอาหารริมชายหาด ก็จะมีการแสดงโชว์ควงกระบอกไฟ ในยามค่ำคืน จนกลายเป็นแหล่งรวมนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากมาย ที่จะมานั่งรับชมการแสดงกันตามร้านอาหารต่างๆ ทำให้กลางคืนของที่นี่กลายเป็นสถานที่ที่จะมีแต่ความบันเทิง กิจกรรมไฮไลท์ภายในเกาะเต่า “การดำน้ำ” ถือว่าได้เป็นแหล่งฝึกน้ำดำที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งภายในประเทศไทย ที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการดำน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำตื้น ดำน้ำลึก มาที่นี่สอนการดำน้ำหมดทุกรูปแบบ “เกาะเต่า” มีแหล่งดำน้ำ ชมความสวยงามของปะการัง และ ปลาอีกหลายสายพันธุ์ ถือว่าได้ว่าเกาะเต่าเป็นแหล่งดำน้ำอีกแห่งในประเทศไทย ที่จะมีคนนิยมมาดำน้ำชมความสวยของโลกใต้น้ำกัน แหล่งดำน้ำตื้น : อ่าวม่วง, อ่าวหินวง, อ่าวโตนด และ อ่าวลึก แหล่งดำน้ำลึก : กองหินตุ้งกู, เจแปนนิส การ์เด็นท์, กองหินชุมพร, หินใบ, เกาะฉลาม และ แหลมเทียน อีกหนึ่งสถานที่ห้ามพลาดเมื่อมาถึงเกาะเต่า นั่นก็คือ “เกาะนางยวน” เป็นหมู่เกาะเล็กๆ ที่สวยงามและมีเสน่ห์อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะเต่า ประกอบด้วยเกาะเล็กๆ 3 เกาะเชื่อมตัวกัน มีสันทรายเชื่อมต่อระหว่างแต่ละเกาะให้มาเดินชมความสวยงายงามภายในเกาะได้ และมีจุดชมวิวที่เป็นมุมสุดฮิต มุมถ่ายรูป มุมเช็คอิน ภายในเกาะ ที่สามารถเห็นวิวของทั้ง 3 เกาะ จนทำให้ชื่อเสียงของ “เกาะนางยวน” โด่งดังไปไกลทั่วโลกกันเลยทีเดียว ค่าธรรมเนียมขึ้นเกาะสำหรับคนไทย 30 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท “เกาะเต่า” มีความอุดมสมบูรณ์ของทั้งธรรมชาติบนบกและใต้ท้องทะเล ปะการังสวย ปลาหลายพันธุ์ และ เต่าทะเล ไฮไลท์ของที่นี่ … หากใครกำลังมองหาที่เที่ยว ที่พักผ่อน มาที่นี่ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมทั้งกิจกรรมมากมาย ฤดูกาลท่องเที่ยว ช่วงสิงหาคม – กันยายน จะเป็นช่วงไฮซีซั่นเพราะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเป็นจำนวนมาก ช่วงพฤศจิกายน – มกราคม เป็นช่วงหน้ามรสุม แต่สามารถมาเที่ยวเกาะเต่า ได้กันตลอดทั้งปีกันเลยน้า ชอบช่วงไหน เลือกกันเลย การเดินทางรถยนต์ส่วนตัว หรือเช่ารถขับเองจากกรุงเทพ ใช้เส้นทางถนนพระราม 2 หรือ ธนบุรีปากท่อ เข้าสู่สมุทรสาคร สมุทรสงคราม จากนั้นไปยังชุมพร หรือถ้าคุณจะไปขึ้นเรือที่สุราษฎร์ธานี ให้ขับต่อจากชุมพรตามทางหลวงหมายเลข 41 ไปยังอำเภอไชยา เข้าสู่สุราษฎร์ธานี รวมระยะทางประมาณ 685 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง รถโดยสารประจำทาง สามารถขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งสายใต้ กรุงเทพ-ชุมพร หรือสุราษฎร์ธานี มีให้บริการทุกวัน สอบถามได้จากบริษัทขนส่งจำกัด โทร.1490 รถไฟ มีให้บริการทุกวัน ทั้งรถไฟธรรมดา รถด่วน และรถด่วนพิเศษจากสถานีหัวลำโพง โดยสามารถเลือกไปลงได้ที่ชุมพรหรือที่สุราษฎร์ธานี สอบถามได้ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 1690 การเดินทางโดยเรือท่าเรือจากจังหวัดชุมพรไปยังเกาะเต่า บริษัทเรือต่างๆ มักมีบริการรับส่งจากสถานีขนส่งหรือสถานีรถไฟไปยังท่าเรือ รวมถึงบริเวณท่าเรือยังมีจุดบริการรับฝากรถสำหรับคุณที่ขับรถไปเองด้วย ท่าเรือท่ายาง อยู่ห่างจากตัวเมืองชุมพรประมาณ 8 กิโลเมตร มีเรือเอกชนให้บริการหลายบริษัท มีทั้งแบบเรือนอน (ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง ค่าโดยสารประมาณคนละ 200 บาท) และเรือด่วน (ใช้เวลาประมาณ 2ชั่วโมง ค่าโดยสารประมาณคนละ 400 บาท) ท่าเรือเร็วลมพระยา บริเวณหาดทุ่งมะขามน้อย ห่างจากตัวเมืองชุมพรประมาณ 28 กิโลเมตร เรือไปเกาะเต่าใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชั่วโมง ค่าโดยสารประมาณคนละ 600 บาท ท่าเรือจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีไปยังเกาะเต่า ท่าเรือนอน ใกล้เทศบาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8-9 ชั่วโมง ค่าโดยสารประมาณคนละ 250 บาท ท่าเรือซีทรานเฟอร์รี่ ตำบลดอนสัก ห่างจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานีประมาณ 80 กิโลเมตร ซึ่งทางบริษัทฯ มีบริการรถรับส่งจากสนามบินสุราษฎร์ธานีไปยังท่าเรือ รวมทั้งค่าเรือไปส่งยังเกาะเต่า มีค่าโดยสารประมาณคนละ 950 บาทต่อเที่ยว โปรดตรวจสอบตารางการเดินทางกับผู้ให้บริการอีกครั้ง ที่มา >>> sanook
ชื่อของวัดใหญ่ชัยมงคลนั้นคงจะเป็นสถานที่ที่หลายๆ คนนึกถึงหากมีโอกาสได้ไปเที่ยวไหว้พระที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเฉพาะในช่วงที่ละครบุพเพสันนิวาสกำลังโด่งดังนั้น หลายๆ วัดในอยุธยาก็ได้ติดกระแสด้านการท่องเที่ยวไปด้วยรวมไปถึงวัดใหญ่ชัยมงคลแห่งนี้ ซึ่งเมื่อถึงตอนนี้กระแสเรื่องการท่องเที่ยววัดเก่าในอยุธยาเริ่มจะซาลงไปแล้ว สำหรับคนที่ไม่อยากจะมาเจอผู้คนวุ่นวายอยากจะมาไหว้พระทำบุญถ่ายรูปกันแบบชิลๆ กับโบราณสถานอันงดงามจากยุคอดีต ช่วงนี้ถือว่าเหมาะสมที่จะมาเที่ยวที่สุดแล้ว วัดใหญ่ชัยมงคลเป็นวัดที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ชาติไทย เดิมชื่อ "วัดป่าแก้ว" หรือ "วัดเจ้าไท" ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะพระนคร ปัจจุบันเป็นพื้นที่ตำบลคลองสวนพลู อำเภอเมือง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จุดเด่นของวัดได้แก่เจดีย์องค์ใหญ่ที่เชื่อกันว่า ได้รับการปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ภายในได้มีการค้นพบชัยมงคลคาถาบรรจุอยู่ ภายในพระอุโบสถ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธชัยมงคล พระประธานที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัด นอกจากนี้แล้วภายในวัดยังเป็นที่ประดิษฐานศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2544 อีกด้วย ซึ่งในด้านการท่องเที่ยวนั้นวัดใหญ่ชัยมงคลถือว่าเป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมที่วิจิตรงดงามมาก ทั้งองค์เจดีย์ใหญ่ศิลปะแบบอยุธยาโบราณที่ยังคงตั้งเด่นเป็นสง่ามาจนถึงปัจจุบันนี้ พระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธชัยมงคลพระประธานของวัด พระพุทธรูปปางไสยาสน์องค์ใหญ่ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นมุมถ่ายภาพที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความสวยงามของประวัติศาสตร์ แนะนำให้ไปเที่ยววัดใหญ่ชัยมงคลกันในยามเช้า อากาศที่นี่จะดีมาก ได้เห็นวิถีชีวิตของผู้คน เดินเล่นชมโบราณสถานกันได้แบบสบายใจไม่มีคนพลุกพล่านมากนัก จึงหมดปัญหาเรื่องความวุ่นวาย จะถ่ายภาพมุมไหนก็สวยงามไปหมด มาเที่ยวใกล้กรุงเทพใช้เวลาแค่วันเดียวได้ทั้งบุญได้ทั้งความสบายใจ รวมถึงได้รูปภาพสวยๆ กลับไปด้วย หยุดเสาร์อาทิตย์นี้ไปรู้จะไปไหนไปเที่ยววัดใหญ่ชัยมงคลกันครับ ที่ตั้งวัดใหญ่ชัยมงคล : ตำบลไผ่ลิง อำเภอเมือง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่มา>>> sanook
ทะเลหมอกฆูนุงสีรีปัต หรือชาวบ้านเรียกกันว่า ภูเขาหินกิโลเมตรที่21 เป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงามมากที่สุดอีกจุดของจังหวัดชายแดนภาคใต้ สถานที่ต้องมนต์สะกดของทะเลหมอกท่ามกลางผืนป่าขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างรอยต่อ ต.ตาเนาะแมเราะ กับ ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา โดยจุดชมทะเลหมอกบนยอดเขามีความสูงจากระดับน้ำทะเล670เมตร มีพื้นที่ให้ยืนชมความสวยงามยามเช้าได้เพียงประมานห้าสิบคนเท่านั้น แต่สามารถมองดูทะเลหมอกได้รอบตัวถึง 360 องศา นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีก 1 แห่ง ที่เป็นอันซีนไทยแลนด์ ไม่ไปไม่ได้แล้ว ที่ต้องไปปักหมุดเป็นผู้พิชิตยอดเขาฆูนุงสีรีปัต สำหรับทะเลหมอกฆูนุงสีรีปัต อยู่ห่างจากที่พักในเมืองเบตงไปตามเส้นทางหมายเลข 410 ( ยะลา – เบตง ) ประมาณ 21 กิโลเมตร ผู้สนใจเที่ยวทะเลหมอกฆูนุงซีลีปัต สามารถติดต่อได้ที่ นายอิบบรอเฮ็ม สาอะ 0854708039 หรือนายซูกิฟฟลี จะปะกิยา 082-2656900 หรือ จะประสานกลุ่ม เยาวชน 0810938549 (เฮง) โดยค่าใช้จ่ายเป็นค่านำเที่ยว รปภ.ลูกหาบ รถยนต์ อาหารว่าง 2 มื้อ ข้าว 1 มื้อ และเต้นท์ กรุ๊ปละ 5 คน เพียงคนละ 600 บาทเท่านั้น ที่มา >>> sanook
กลายเป็นที่ฮือฮาในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยเป็นอย่างมากสำหรับสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่เพิ่งจะเปิดให้ประชาชนได้เข้าไปสักการะ องค์พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช รูปปั้นพญานาคใหญ่ยักษ์ แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของจังหวัดมุกดาหาร องค์พญานาคตั้งอยู่ที่บริเวณบนภูเขาสูงในพื้นที่ของวัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ ตำบลนาสีนวน อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร ซึ่งลักษณะของพญานาคนั้นจะนอนขดตัวไปมาและชูลำคอสูงสง่าหันไปทางแม่น้ำโขงเบื้องล่าง ลำตัวยาว 122 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง 1.50 เมตร สูงประมาณ 20 เมตร มีสีเขียวอมฟ้า สะท้อนแสงสวยงาม พร้อมกับมีลวดลายที่ละเอียดอ่อน วิจิตรบรรจง แต่ก็แฝงไปด้วยความน่าเกรงขาม นอกจากนี้ที่วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ รออยู่อีกมากมาย อาทิ พระธาตุภูมโนรมย์, พระอังคารเพ็ญ, รอยพระพุทธบาทจำลอง และที่พลาดไม่ได้ก็คือ "พระพุทธรูปเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9" เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ตั้งเด่นสง่าบนเขาภูมโนรมย์ รูปทรงเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 39.99 เมตร สูง 59.99 เมตร ความสูงจากฐานถึงยอดเศียร 84 เมตร ใครที่อยากจะไปเที่ยวชมความยิ่งใหญ่อลังการขององค์พญาศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช แนะนำว่าให้พกกลอ้งถ่ายภาพไปถ่ายเก็บภาพความยิ่งใหญ่อลังการกันด้วย รับรองว่าได้ภาพสวยๆ กลับไปบ้านแน่นอน และที่สำคัญ แลนด์มาร์กแ่หงใหม่ของเมืองมุกดาหารแห่งนี้ยังสามารถเข้าไปเยี่ยมชมและสักการะได้แบบฟรีๆ ไม่เสียค่าบริการด้วย ชาวมุกดาหารอย่าลืมไปชมกันนะครับ ที่ตั้งวัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ : หมู่ที่ 5 ตำบลศรีบุญเรือง อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร ที่มา >>> sanook
ถ้ำที่ทุกคนจะได้เห็นต่อไปนี้ หลายๆ คนคงจะเห็นได้ถึงความอลังการ และยิ่งใหญ่ภายในตัวถ้ำ ซึ่งเราเองก็ตกตะลึงตั้งแต่แรกเห็นเหมือนกัน ซึ่งจริงๆ แล้วถ้ำแห่งนี้มีชื่อว่า ถ้ำลอดมหาจักรพรรดิ์ วัดหลวงพี่แซม เป็นถ้ำที่สร้างขึ้นมาจากฝีมือมนุษย์ ตรงกลางห้องโถงของถ้ำมีพญานาค 7 เศียร (อนันตนาคราช) เล่นน้ำอยู่ กลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่หลอมรวมจิตใจของชาวบ้านในละแวกนั้น นอกจากองค์พญานาคแล้วภายในถ้ำยังบรรจุวัตถุมงคลไว้อีกมากมาย ในยามที่ในถ้ำเปิดไฟขึ้นมา จะมีแสงสีสาดส่องอย่างสวยงาม ปัจจุบันถ้ำลอดแห่งนี้ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ผู้คนต่างเดินทางมาไหว้พระขอพรกันเป็นจำนวนมาก และยังเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม สำหรับผู้ที่มีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาด้วย ใครที่ยังไม่รู้จะไปเที่ยวไหนในวันเสาร์อาทิตย์ขับรถไปเที่ยวกันชิลๆ ใกล้กรุงเทพที่ถ้ำลอดมหาจักรพรรดิ์กันได้ครับอยู่ใกล้ๆ แค่ชลบุรีแค่นี้เอง ที่ตั้งถ้ำลอดมหาจักพรรดิ์ : วัดหลวงพี่แซม ต.หนองปรือ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี (อยู่ติดกับถนนเส้น 331) ที่มา >>> sanook
เที่ยวสบายๆ ในหน้าฝน ชมธรรมชาติ เรียนรู้ประวัติศาสตร์ ล่องแพ เล่นน้ำตก นอนชิลล์ ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ กับทริปเล็กๆ เก็บเป๋าเที่ยวกาญจนบุรี พร้อมแล้วมาเริ่มกันเลย … เข้าหน้าฝนทั้งที ต้องไปดูทุ่งนาสีเขียวกันที่ร้าน “รักษ์คันนา” และ “มีนา คาเฟ่” เพิ่มพลังหาอะไรกินรองท้องก่อนตะลุยเที่ยวเมืองกาญ พร้อมนั่งชมวิววัดถ้ำเสือ …. ใครที่ชอบถ่ายรูป ก็เตรียมกล้องให้พร้อม แล้วหามุมถ่ายรูปเล่นกันได้ ชมวิวกันเสร็จ ก็เริ่มเที่ยวที่แรกกันที่ “วัดถ้ำเสือ” วัดชื่อดังในจังหวัดกาญจนบุรี ที่มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในจังหวัด มีความสวยงามโดดเด่น ตั้งสง่า สามารถมองเห็นได้แบบไกลๆ ต่อมาที่ “ต้นจามจุรียักษ์ หรือ ต้นก้ามปู” ที่นี่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวมากมายมาชมความเก่าแก่กว่า 100 ปี ที่ให้ความสวยงามและความร่มรื่นกันแบบสุดๆ ด้วยรากฐานและกิ่งก้านสาขาที่ใหญ่มากกกก ชมความเก่าแก่ของธรรมชาติแล้ว ก็มาต่อที่ “สุสานทหารพันธมิตรดอนรัก” ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นทื่ระลึกถึงผู้เสียชีวิตในระหว่างกานสร้างทางรถไฟสายมรณะ อีกหนึ่งโบราณสถานของจังหวัด “ปราสาทเมืองสิงห์” เป็นศิลปะยุคโบราณ ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นพุทธศาสนาสถานในพุทธศาสนา นิกายมหายาน คล้ายกับปราสาทของขอม มาถึงจังหวัดกาญจนบุรีทั้งที ถ้าไม่ได้มา “สะพานข้ามแม่น้ำแคว” ก็คงจะไม่ถึงกาญจน์กันนะ ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแรกของจังหวัด ถือว่าเป็นจุดเชื่อมโยงของประวัติศาสตร์โลกในหน้าสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นอนุสรณ์สงครามมหาเอเชียบูรพา อีกหนึ่งสถานที่ “อนุสรณ์สถานช่องเขาขาด” สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเชลยศึกในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เดินเรียนรู้ประวัติศาสตร์ สัมผัสธรรมชาติ ชมความเก่าแก่ของเครื่องมือในการสร้างทางรถไฟ อีกหนึ่งกิจกรรมที่ต้องมาทำ นั่นก็คือ “การล่องแพ” ชมธรรมชาติ ชมวิว 2 ข้างทาง ของแม่น้ำไทรโยค นอนพักท่ามกลางธรรมชาติ ให้ร่างกายได้ฟื้นฟูกันแล้ว ก็มาเที่ยว “น้ำตกไทรโยค” น้ำตกที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของเมืองกาญจน์ ที่สามารถลงไปเล่นน้ำ หรือ ล่องแพ ชมความสวยงามกันได้ จบแล้ว กับทริปเล็กๆ เที่ยวเมืองกาญจน์ ชมธรรมชาติ ชมประวัติศาสตร์กัน แบบง่ายๆ 2 วัน 1 คืน … ที่เที่ยวภายในจังหวัดกาญจนบุรีมีอีกมากมายหลายแห่ง อันนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของจังหวัด เท่านั้นนะ ที่มา >>> sanook,Paapaii
ภูฟ้าไทย จุดชมวิวแห่งใหม่ของเชียงราย เหมาะสำหรับเป็นที่เที่ยวหน้าหนาว ไว้ชมวิวทิวทัศน์ธรรมชาติ พระอาทิตย์ขึ้น และทะเลหมอกสวย ๆ ที่คุณต้องประทับใจ ช่วงหน้าหนาวแบบนี้จะมีอะไรดีกว่าการขึ้นเหนือไปรับอากาศเย็น ๆ พร้อมกับกิจกรรมการชื่นชมทะเลหมอกสวย ๆ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่อยากขึ้นไปเบียดเสียดผู้คนตามจุดชมวิวทะเลหมอกชื่อดังต่าง ๆ วันนี้เรามีอีกหนึ่งแหล่งจุดชมวิวทะเลหมอกสวย ๆ มาฝาก นั่นคือ "ภูฟ้าไทย" จังหวัดเชียงราย ที่นี่เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกแห่งใหม่ ที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสอากาศหนาวเย็น ชมทะเลหมอก และชมวิวธรรมชาติได้รอบ 360 องศา ภูฟ้าไทย ตั้งอยู่ที่บ้านร่มฟ้าไทย อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย และติดกับแนวชายแดน สปป.ลาว ฝั่งตรงข้ามบ้านเชียงของ ซึ่งนับเป็นจุดที่มองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าตัดกับทะเลหมอกในหุบเขาได้อย่างงามตา ด้วยเพราะภูฟ้าไทยมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,515 เมตร จึงทำให้อากาศที่นี่หนาวเย็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าหนาว นักท่องเที่ยวอาจจะได้พบเห็นปรากฏการณ์น้ำค้างแข็งที่เกาะอยู่ตามยอดหญ้าเป็นบริเวณกว้าง ลักษณะเด่นของภูฟ้าไทยอยู่ที่ทางเดินขึ้นที่ค่อนข้างสะดวก ซึ่งเป็นทางเดินระยะทางเพียงแค่ 300 เมตร ข้างบนนักท่องเที่ยวจะได้ฟินกับจุดชมวิวทะเลหมอกในแบบ 360 องศา ขณะเดียวกันยังชื่นชมกับความสวยงามของพระอาทิตย์ขึ้นและตกดิน อีกทั้งยังมองเห็นภูชี้ฟ้าบริเวณจมูกสิงโตได้อย่างชัดเจน ที่นี่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ครั้งละ 200 คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหน้าเทศกาล ที่หวังให้ภูฟ้าไทยเป็นที่ระบายนักท่องเที่ยวจากภูชี้ฟ้า ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวหน้าหนาวที่คนไม่เยอะ สวยทุกตารางพื้นที่ ต้องไม่พลาดมาเช็กอินที่ภูฟ้าไทยอย่างเด็ดขาด นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงราย โทร. 053 744 674-5 และ 053 717 433 การเดินทางมายังภูฟ้าไทย เดินทางจากตัวเมืองเชียงรายโดยรถยนต์หรือรถประจำทางผ่านอำเภอเทิง ขึ้นไปถึงภูชี้ฟ้าที่หมู่บ้านร่มฟ้าไทย เดินเท้าจากหมู่บ้าน ผ่านสำนักสงฆ์ภูชี้ฟ้าขึ้นไปถึงจุดชมวิวภูฟ้าไทยระยะทาง 2 กิโลเมตร และอีกเส้นทางหนึ่งเดินเท้าจากจุดจอดรถวนอุทยานภูชี้ฟ้าขึ้นไปทางเดียวกับภูชี้ฟ้าประมาณ 400 เมตร เดินแยกไปทางด้านขวาอีกประมาณ 1 กิโลเมตร ที่มา >>> kapook
ภูลมโล 2561 ชมความสวยงามของดินแดนสีชมพูของดอกนางพญาเสือโคร่ง ที่กำลังผลิกลีบบานสะพรั่ง รอต้อนรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม 2560 จนถึงเดือนมกราคม 2561 กลับมาอีกครั้งกับการชมความสวยงามของดอกนางพญาเสือโคร่งที่ภูลมโล ท่ามกลางสายลมหนาวช่วงปลายปี ที่แทรกตัวบานอยู่ตามหุบเขา ป่าไม้และต้นหญ้าสวยจับใจ จนกลายเป็นจุดท่องเที่ยวเช็กอินรับลมหนาวยอดฮิต ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมกันเป็นจำนวนมาก และเราก็ไม่พลาดที่จะเก็บเอาภาพมาฝาก มาดูกันสิว่าบรรยากาศปีนี้จะสวยและโรแมนติกเท่ากับปีก่อน ๆ ได้หรือเปล่า ภูลมโล ถือได้ว่าเป็นจุดชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลกกสะทอน อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย และเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เป็นประจำทุกปีช่วงปลายเดือนธันวาคมถึงมกราคม ดอกนางพญาเสือโคร่งที่ภูลมโลจะพร้อมใจกันผลิกลีบชมพูบานจำนวนกว่าแสนต้น บนพื้นที่กว่า 1,200 ไร่ มองดูแล้วเป็นเหมือนดินแดนสีชมพูที่ใครได้มาเห็นเป็นต้องประทับใจกันทุกคน ภาพดอกนางพญาเสือโคร่ง อัปเดตล่าสุดวันที่ 15 มกราคม 2561 จากเฟซบุ๊ก ภูลมโล,ซากุระเมืองไทย,นางพญาเสือโคร่ง,กกสะทอน ดอกนางพญาเสือโคร่งออกดอกบานเกือบเต็มพื้นที่ ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปสวยกันอย่างเต็มที่ และจะบานเรื่อยไปจนถึงช่วงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2561 นักท่องเที่ยวที่ต้องการขึ้นไปชื่นชมความสวยงามของดอกนางพญาเสือโคร่ง ทางอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าได้ออกประกาศเรื่องห้ามนำยานพาหนะที่อุทยานแห่งชาติมิได้อนุญาตเข้าไปในเขตภูลมโล เพื่อเป็นการดูแลรักษาไม่ให้เกิดความเสียหายของระบบนิเวศในอุทยาน ลดปัญหาการจราจรติดขัด ลดอุบัติเหตุ (จากผู้ขับขี่ที่ไม่ชำนาญเส้นทาง) และเพื่อให้นักท่องเที่ยวชมดอกนางพญาเสือโคร่งได้อย่างเต็มที่ การขึ้นชมนางพญาเสือโคร่งบนภูลมโล สามารถขึ้นได้หลายเส้นทาง ถ้ามาจากจังหวัดเพชรบูรณ์ ขึ้นทางบ้านทับเบิก ส่วนฝั่งจังหวัดเลยขึ้นทางตำบลกกสะทอน อำเภอด่านซ้าย ซึ่งเป็นเส้นทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยเริ่มเส้นทางจากที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลกกสะทอน นักท่องเที่ยวสามารถขับรถมาจอดไว้ที่ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลกกสะทอน แล้วจะมีรถของชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวกกสะทอน รอรับ-ส่งนักท่องเที่ยวอยู่ตรงบริเวณดังกล่าว ข้อแนะนำเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับคนที่ต้องการเดินทางไปเที่ยวภูลมโล 1. ศึกษาข้อมูลสถานที่และการเดินทางให้เรียบร้อย 2. ควรติดต่อชมรม เพื่อหาข้อมูลการท่องเที่ยว 3. เคารพสถานที่ วัฒนธรรม และผู้คนที่พบเจอ 4. ทิ้งขยะลงถัง เพื่อทัศนียภาพที่ดีสำหรับการชมดอกนางพญาเสือโคร่ง 5. ไม่เด็ดและจับดอกนางพญาเสือโคร่ง 6. ควรเตรียมอุปกรณ์กันหนาวไปด้วย ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวหน้าหนาวสวย ๆ อยู่ละก็ ลองมาเที่ยวที่ภูลมโลกันดูนะคะ เราเชื่อว่าความสวยงามของดอกนางพญาเสือโคร่ง จะเป็นอีกหนึ่งความประทับใจที่เที่ยวหน้าหนาว ที่คุณจะต้องจดจำไปอีกนานแสนนาน ที่มา >>> kapook
จัดมาให้ครบ จบเรื่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ในแบบฉบับเช้าไป-เย็นกลับก็ดี พักค้างคืนก็ได้ สามารถพักผ่อนในวันหยุดสั้น ๆ ได้จุใจ มีที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ให้เลือกมากมาย เวลาหยุดเสาร์-อาทิตย์ ก็อยากเอาตัวเองไปเติมความสุขกับธรรมชาติ หรือสถานที่ท่องเที่ยวดี ๆ บรรยากาศสวย ๆ บ้าง แต่จะไปไกลจากกรุงเทพฯ เกินไป ก็กลัวว่าจะมีเวลาไม่พอ วันนี้เราก็เลยจัดหนักจัดเต็มคัดสรรที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ในรูปแบบต่าง ๆ มาฝากกัน มีทั้งที่เที่ยวธรรมชาติและวัฒนธรรม ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์จริง ๆ จะมีที่ไหนเด็ด ๆ โดนใจบ้าง ไปเช็กกันเลย 1.เกาะขาม จังหวัดชลบุรี เกาะขาม ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เป็นที่เที่ยวทะเลที่มีความสวยงามเทียบเท่ากับท้องทะเลทางฝั่งอันดามันเลยทีเดียว น้ำทะเลใสปิ๊ง หาดทรายขาวสะอาดตา บรรยากาศเงียบสงบ รอบ ๆ เกาะมีแนวปะการังให้ได้ดำน้ำชมกันอย่างเพลินใจ ในแต่ละวันทางเจ้าหน้าที่จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว จึงทำให้เกาะขามยังคงรักษาความสวยงามไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ปัจจุบันเกาะขามเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมทุกวัน แต่วันธรรมดาจะมีเรือไปยังเกาะเพียงแค่ไม่กี่เที่ยวเท่านั้น 2.เกาะแสมสาร จังหวัดชลบุรี เกาะแสมสาร ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เป็นอีกหนึ่งเกาะที่อยู่ในความดูแลของกองทัพเรือ การจัดการการท่องเที่ยวที่นี่จึงมีระบบและวิธีการคล้าย ๆ กับเกาะขาม และความสวยงามยังสวยไม่น้อยกว่าที่เที่ยวทะเลทางฝั่งอันดามันด้วยเช่นกัน บนเกาะแห่งนี้มีชายหาดขาวสะอาดตากว้างใหญ่ น้ำทะเลเป็นสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ใส มองเห็นไปถึงพื้นทะเล และยังมีกิจกรรมสนุก ๆ ให้ทำหลากหลายอย่าง เช่น พายเรือคายัก ดำน้ำดูปะการัง และปั่นจักรยานชมธรรมชาติ ปัจจุบันมีการเปิดให้นักท่องเที่ยวได้จองตั๋วออนไลน์กันแล้ว 3.เกาะล้าน จังหวัดชลบุรี เกาะล้าน ตั้งอยู่ใกล้กับชายฝั่งเมืองพัทยา ห่างจากฝั่งราว ๆ 7 กิโลเมตร ถือได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทะเลยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ สามารถเดินทางไปเที่ยวเองได้ จากกรุงเทพฯ มีรถโดยสารสาธารณะส่งถึงท่าเรือแหลมบาลีฮาย และบนเกาะล้านก็ยังเที่ยวง่าย มีที่พักหลากหลายแบบให้เลือกพักผ่อน พร้อมทั้งร้านค้า ร้านอาหารอีกเพียบ ยิ่งไปกว่านั้นบนเกาะล้านยังมีธรรมชาติที่สวยงาม หาดทรายขาว เนื้อทรายเนียนละเอียด นุ่มนิ่ม น้ำทะเลสวยใสปิ๊ง เหมะแก่การไปเที่ยวชิล ๆ ในวันหยุด 4.เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี เกาะสีชัง ตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งอำเภอศรีราชาประมาณ 12 กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลที่มีบรรยากาศเงียบสงบสวยงาม ละครหลายเรื่องก็เลือกที่จะมาถ่ายทำกันที่นี่ เพราะมีวิวสวย บรรยากาศที่เป็นธรรมชาติมาก ๆ บนเกาะสีชังมีแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งและยังสำคัญกับประวัติศาสตร์ไทย อย่างพิพิธภัณฑ์พระจุฑาธุชราชฐาน ก็เคยเป็นที่ประทับแปรพระราชฐานฤดูร้อนของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระราชวงศ์ โดยมีสัญลักษณ์สำคัญคือ "สะพานอัษฎางค์" สะพานไม้สีขาวสไตล์ไทย-ตะวันตก ที่ยื่นลงไปในทะเล โรแมนติกสุด ๆ นอกจากนี้ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่น ๆ อาทิ ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่, แหลมจักรพงษ์, ช่องเขาขาด, หาดถ้ำเขาพัง, บ่อน้ำผุด, ท่ายายทิม, พิพิธภัณฑ์ชลทัศนสถาน เป็นต้น 5.หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อำเภอหัวหิน เป็นสถานที่พักตากอากาศริมทะเลที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่อดีต ปัจจุบันชายหาดหัวหินยังคงคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว แต่บรรยากาศก็เงียบสงบ สามารถไปนั่งเล่นชมวิวทะเลหรือว่ายน้ำได้ตลอดทั้งวัน นอกจากนี้หัวหินยังเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลากหลายรูปแบบ ทั้งอุทยานราชภักดิ์, ตลาดโต้รุ่งหัวหิน, สถานีรถไฟหัวหิน, เวเนเซีย หัวหิน, ตลาดน้ำหัวหินสามพันนาม, เพลินวาน หัวหิน, The Cicada Market, วัดห้วยมงคล, ฟาร์มแกะดำ, ไร่องุ่นหัวหินฮิลส์ วินยาร์ด, Black Mountain Water Park, สวนน้ำวานา นาวา หัวหิน, Seenspace Hua Hin เป็นต้น |
AuthorWrite something about yourself. No need to be fancy, just an overview. Archives
January 2021
Categories |