อยากเดินเล่นสกายวอล์คแบบชิคๆ ชมวิวสวยๆ จากมุมสูง วันนี้ที่ปัตตานี มีสกายวอล์คให้คุณได้ไปเที่ยวกันแล้ว วันนี้จะพาคุณไปเที่ยวกันว่าสกายวอล์คแห่งนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง สกายวอล์คปัตตานีตั้งอยู่ในสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ สวนเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา (สวนแม่-สวนลูก) มีความสูงจากพื้นดินประมาณ 12 เมตร และมีทางเดินด้านบนยาว 400 เมตร สำหรับคนที่กลัวความสูงต้องบอกเลยว่าสกายวอล์คแห่งนี้คือความท้าทายสำหรับคุณ! เพราะทางเดินสกายวอล์คของที่นี่เป็นตาข่ายเหล็กที่สามารถมองทะลุไปจนถึงพื้นดินได้ เรียกได้ว่ามีขาสั่นกันบ้างแหละครับ แต่วิวด้านบนสวยงามมาก บรรยากาศดี สามารถมองไปได้ไกลสุดลูกหูลูกตา ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่แปลกใหม่สำหรับชาวปัตตานี ในยามเย็นช่วงพระอาทิตย์ตก จะมีผู้คนเดินทางมาเที่ยวที่สกายวอล์คแห่งนี้มากาย เพื่อรอชมวิวพระอาทิตย์ตกจากด้านบน และเมื่อเดินจนสุดทางสกายวอล์คแล้ว ก็จะมีทางเดินไม้ที่เป็นทางเดินเก่า ก่อนจะมีสกายวอล์ค เป็นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ชมป่าชายเลนบริเวณด้านล่างสกายวอล์คอีก ถือเป็นจุดเช็คอินที่มีสถานที่น่าสนใจเยอะแยะมากมาย และยังคงแปลกใหม่สำหรับหลายๆ คน ใครมีแพลนไปเที่ยวปัตตานีลองแวะไปเดินเล่นบนสกายวอล์คกันครับ รับรองว่าประทับใจแน่นอน ที่ตั้งสกายวอล์คปัตตานี : สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ สวนเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา (สวนแม่-สวนลูก) ชายหาดทะเล ตำบลรูสะมิแล อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี ที่มา >>> sanook
0 Comments
ใกล้เข้าสู่ช่วงเทศกาลวันหยุดยาวในวันอาสาฬหบูชาของปีนี้แล้ว 5 วัดสวยที่น่าไปทำบุญมาฝากกัน ให้ทุกคนได้พาครอบครัวไปเที่ยวพักผ่อนพร้อมกับทำบุญในวันหยุดที่จะมาถึงนี้มีที่ไหนกันบ้างไปดูกัน 1.วัดพิพัฒน์มงคล วัดเก่าแก่โบราณอายุกว่า 700 ปีของจังหวัดสุโขทัย มีศิลปะและสีสันในการสร้างที่แปลกตาไม่เหมือนที่อื่นๆ เป็นที่พระพุทธรูปทองคำศิลปะสมัยกรุงสุโขทัย ใครอยากจะเยี่ยมชมศิลปะล้านนาอันวิจิตรงดงามสวยงามและแปลกตาต้องมาที่วัดนี้ครับ ที่ตั้งวัดพิพัฒน์มงคล: ถนน สวรรคโลก - เถิน ตำบล ทุ่งเสลี่ยม อำเภอ ทุ่งเสลี่ยม สุโขทัย 2.วัดแม่นางปลื้ม อีกหนึ่งวัดเก่าแก่ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่นี่มีคนรู้จักไม่มากนัก ทำให้มีความเงียบสงบ ภายในวัดเต็มไปด้วยศาสนสถานที่ยังคงหลงเหลือร่องรอยความยิ่งใหญ่และสวยงามในอดีตเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีมนต์ขลัง และคลาสสิคมากๆ แถมอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพด้วย ลองไปพิสูจน์ด้วยตาตนเองกันดูครับ ที่ตั้งวัดนางปลื้ม : ตำบลคลองสระบัว อำเภอเมืองพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 3.วัดเนื่องจำนงค์ ชมความยิ่งใหญ่และสวยงามของหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ณ วัดเนื่องจำนงค์ พร้อมกับบรรยากาศอันเงียบสงบ เหมาะที่จะมาพักผ่อนหย่อนใจ และทำบุญในวันอาสาฬหบูชานี้โดยเฉพาะลูกศิษย์ลูกหาของลูกปู่ทวด ขับรถเพียงชั่วโมงเดียวจากกรุงเทพก็ถึงวัดนี้แล้วครับ ที่ตั้งวัดเนื่องจำนงค์ : ตำบล หนองชาก อำเภอ บ้านบึง จังหวัด ชลบุรี 4.วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดมุกดาหาร ณ วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ กับองค์พญานาคศรีมุกดามหามุนีนีลปาลนาคราช ที่มีความงดงามวิจิตตระการตามาก ตั้งอยู่บนยอดเขาสามารถชมวิวธรรมชาติได้อย่างพาโนราม่า เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในขณะนี้ ที่ตั้งวัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ : หมู่ที่ 5 ตำบลศรีบุญเรือง อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร 5.วัดพระพุทธบาทสุทธาวาส ชมเจดีย์ลอยฟ้าบนยอดเขาแห่งเมืองลำปาง ณ วัดพระพุทธบาทสุทธาวาส ความมหัศจรรย์ในการสร้างเจดีย์ตามยอดเขาสูง ที่ต้องเดินเท้าขึ้นบันไดกว่า 300 ขั้น มีคนเคยกล่าวว่าหากจะเปรียบสถานที่ใดในไทยที่ใกล้เคียงกับสวรรค์มากที่สุดก็คงจะเป็นที่นี่แหละ วันอาสาฬหบูชานี้พาครอบครัวไปเที่ยวกันดีกว่าครับ ที่ตั้งวัดพระพุทธบาทสุทธาวาส : อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง ที่มา >>> sanook
ใครที่คิดว่าฝั่ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยเรานั้นไม่ค่อยมีอะไรเที่ยว อยากให้ทุกคนลองมาสัมผัสด้วยตัวเองครับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของเรานั้นมีสถานที่เที่ยวสวยงามที่หลายคนยังไม่รู้จักซุกซ่อนอยู่อีกมากมายจริงๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกันในวันนี้ กับสะพานคอยร้อยปี สะพานประวัติศาสตร์ที่มีเรื่องราวความเป็นมามาอย่างยาวนาน เป็นสะพานที่ใช้เชื่อมต่อแผ่นดินใหญ่จากอำเภอตากใบไปสู่เกาะยาว เกาะที่เราเพิ่งจะเคยได้ยินชื่อเป็นครั้งแรก มาดูกันว่าทั้งสะพานคอยร้อยปีและเกาะยาวนั้นมีอะไรน่าสนใจบ้าง สะพานคอยร้อยปีมีความยาว 345 เมตร เดิมเป็นสะพานไม้ที่ทอดยาวข้ามผ่านแม่น้ำตากใบจากแผ่นดินใหญ่ไปสู่ เกาะยาว จังหวัดนราธิวาส แต่ปัจจุบันได้มีการสร้างสะพานปูนแข็งแรงและสวยงามทอดยาวขนาบไปกับสะพานไม้อันเก่าเป็นที่เรียบร้อยแล้วกลายเป็นเส้นทางหลักในการสัญจรของชาวบ้าน ซึ่งสาเหตุที่เรียกสะพานแห่งนี้ว่าสะพานคอยร้อยปีนั้นเพราะว่าในสมัยก่อนที่ยังไม่มีสะพานนั้นชาวบ้านในเกาะยาวเมื่อจะเดินทางมาที่ฝั่งตากใบต้องใช้เรือในการข้ามแม่น้ำมา กว่าจะมีการสร้างสะพาน จึงเป็นสาเหตุที่เรียกสะพานแห่งนี้ว่าสะพานคอยร้อยปีนั่นเอง ปัจจุบันสะพานคอยร้อยปีกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเดินเล่นกันในช่วงยามเย็น แดดร่มลมตกสะพานแห่งนี้จะเต็มไปด้วยผู้คน บ้างก็มีชมวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำตากใบในยามท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีทอง บางคนก็มาเดินเล่นรับลมชิลๆ มาถ่ายภาพในช่วงเวลาแสงสุดท้ายของวัน หรือบางคนก็มาเพื่อออกกำลังกาย แต่วันนี้เราจะพาทุกคนเดินข้ามสะพานคอยร้อยปีไปเพื่อสำรวจเกาะยาว ที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของฝั่งตากใบกันครับ เกาะยาวแห่งนี้เป็นเกาะที่มีความยาวประมาณ 9 กิโลเมตร โดยมีสองฝั่งคือฝั่งที่ติดกับแม่น้ำตากใบและอีกฝั่งหนึ่งติดกับทะเลอ่าวไทย เป็นเกาะที่มีหาดทรายขาวสะอาด เหมาะแก่การมาพักผ่อน ซึ่งประตูสู่เกาะยาวเพียงแห่งเดียวนั้นก็คือสะพานคอยร้อยปีนั่นเอง ทางเดินยาวกว่า 345 เมตรบนสะพานคอยร้อยปี เต็มไปด้วยความเพลินเพลินจากการได้สัมผัสกับธรรมชาติสองข้างทาง ผู้คนที่เดินผ่านหรือขับรถผ่านเราต่างยิ้มแย้มให้อย่างเป็นมิตร ระหว่างเดินพระอาทิตย์ก็ค่อยๆ ลดระดับความร้อนแรงลง เหลือเพียงแสงสีนวลทองแผ่ลงสู่ผิวแม่น้ำตากใบ ประกอบกับป่าชายเลนสีเขียวขจีที่ขึ้นอยู่เต็มที่ริมฝั่งแม่น้ำ เป็นภาพของธรรมชาติที่ยังคสมบูรณ์และสวยงามมาก เมื่อเดินข้ามมาถึงฝั่งเกาะยาวเราก็จะได้พบกับป้ายสัญลักษณ์ของเกาะยาว เป็นสัญญาณเตือนว่า ณ ตอนนี้เราได้เหยียบอยู่บนแผ่นดินเกาะยาวแล้ว เมื่อเดินเข้าไปในเกาะเราก็ได้พบหาดทรายที่มีพื้นที่กว้างมากและกินพื้นที่ลึกเข้ามาไกลจากริมทะเล บริเวณดังกล่าวมีทิวต้นมะพร้าวขึ้นอยู่เป็นหย่อมๆ ซึ่งเมื่อลองมองจากลักษณะทางภูมิศาสตร์แล้วที่นี่ดูคล้ายทะเลทรายมากจริงๆ อาจจะเพราะด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง ทั้งต้นมะพร้าว หาดทรายขนาดใหญ่ และลมทะเลที่พัดผ่านมาเป็นระยะๆ ทำให้เราจินตนาการไปว่าที่นี่คือทะเลทรายจริงๆ ถือเป็นมุมถ่ายรูปที่มีความแปลกใหม่และครีเอทมากๆ สำหรับทะเลทรายตากใบแห่งนี้ เมื่อเดินผ่านบริเวณชายหาดไปก็จะพบกับทะเลอ่าวไทย ถือเป็นประสบการณ์ครั้งแรกเช่นกันที่เราได้มาเที่ยวทะเลใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เช่นนี้ ซึ่งต้องบอกเลยว่าทะเลที่นี่สวยงามและน่าประทับใจมากจริงๆ เพราะเมื่อเรามองกวาดสายตาออกไปนั้นแทบจะมองไม่เห็นขยะในทะเลเลยสักชิ้น น้ำทะเลใสสะอาด เป็นทะเลที่สวยงามสุดๆ เราไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดเกาะยาวแห่งนี้ถึงกลายเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวตากใบ ที่วัยรุ่นและคนในพื้นที่นิยมที่จะข้ามฝั่งมาเที่ยวกัน เพราะบรรยากาศของที่นี่นั้นไม่เหมือนที่อื่น เป็นความตื่นตาตื่นใจที่ไม่เคยได้สัมผัสที่ไหนมาก่อน หาดทรายที่เงียบสงบไม่วุ่นวายแต่แปลกที่ไม่เหงา อากาศเย็นสบายในยามเย็น ภาพความงดงามของท้องทะเลในยามเย็นที่เราได้เห็น เป็นสิ่งที่ทำให้เราเข้าใจว่าเหตุใดคนที่นี่จึงอยู่กันได้อย่างมีความสุข สุดท้ายแล้วการมาเที่ยวสามจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นเป็นสิ่งที่ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ชาวบ้านทุกคนยังรอคอยนักท่องเที่ยว คอยที่จะต้อนรับ และอยากจะแสดงให้ทุกคนได้เห็นว่าบ้านของพวกเขานั้นสวยงามและน่าอยู่เพียงใด เราเพียงแค่ต้องเปิดใจเท่านั้นเอง ที่มา >>> sanook
หากพูดถึงสถานที่ชมทะเลหมอกที่สวยงามที่สุดในประเทศไทย ชื่อของภูทับเบิกคงจะขึ้นมาอยู่ในอันดับต้นๆ แน่นอน โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนแบบนี้ทะเลหมอกบนยอดภูทับเบิกยิ่งอลังการงานสร้างยิ่งขึ้นไปอีก ในช่วงเช้าของแต่ละวันของช่วงนี้จะมีสายหมอกลอยฟูฟ่องขึ้นมาให้นักท่องเที่ยวได้เก็บภาพบรรยากาศความประทับใจ แนะนำว่าให้ลองไปนอนกางเต็นท์นอนชมทะเลหมอกที่ภูทับเบิกกันดูสักครั้ง เป็นความฟินที่บอกไม่ถูกเลยทีเดียว เพราะเพียงแค่เปิดประตูเต็นท์ออกมาก็จะได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างเต็มที่ เป็นดั่งรางวัลของคนตื่นเช้าที่ธรรมชาติได้มอบให้แก่เราทุกคน หน้าฝนนี้อย่าปล่อยให้ความงดงามนี้ผ่านไปตามฤดูกาล รีบไปชมทะเลหมอกหน้าฝนที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ให้เราได้ชมที่ภูทับเบิกกันครับ ที่มา >>> sanook
ในช่วงหน้าฝนที่ชุ่มช่ำแบบนี้ การไปเที่ยวน้ำตกถือเป็นฤดูที่เหมาะสมที่สุด เพราะในช่วงนี้น้ำตกแต่ละแห่งจะมีน้ำเยอะ และสวยงาม ขอแนะนำสำหรับใครที่เบื่อจะไปเที่ยวน้ำตกเดิมที่มีคนเยอะแยะวุ่นวาย วันนี้เราจะพาไปชมน้ำตกที่มีความเงียบสงบ และมีคนรู้จักน้อย ที่สำคัญที่นี่มีความสวยงามอย่างน่าอัศจรรย์ น้ำตกแห่งนี้มีชื่อว่าตาดโตน ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติตาดโตน จังหวัดชัยภูมิ มีลักษณะเป็นลานหินกว้างขนาดใหญ่มีน้ำไหลลงมาในปริมาณมาก เมื่อได้ไปสัมผัสกับของจริงคุณจะรู้สึกได้ถึงความชุ่มช่ำและสดชื่นจากสายน้ำ โดยรอบน้ำตกถูกปกคลุมไปด้วยป่าไม้สีเขียวขจีดูอุดมสมบูรณ์มากๆ อากาศมีความเย็นสบาย สามารถมานั่งเล่น หรือแช่น้ำกันได้แบบชิลๆ และที่สำคัญสำหรับคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ ที่นี่คือโลเคชั่นระดับพันล้านเลยก็ว่าได้ ด้วยความที่น้ำตกแห่งนี้ยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมในวงกว้างมากนักทำให้ในแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาไม่เยอะมาก สามารถหามุมถ่ายรูปสวยๆ ได้สบาย ลองมาสัมผัสความมหัศจรรย์ของน้ำตกตาดโตนกันดูครับ คุณจะได้พบภาพที่แปลกใหม่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนตามรีวิวอื่นๆ ได้สัมผัสกับธรรมชาติ ปล่อยให้เรื่องเครียดๆ ในชีวิตลอยหายไปกับสายน้ำ และเก็บความทรงจำดีๆ กลับไปเป็นพลังบวกในการใช้ชีวิต นี่แหละครับที่เขาเรียกว่าความสุขของการท่องเที่ยว ที่ตั้งน้ำตกตาดโตน : สุดทางหลวงหมายเลข 2051 (ชัยภูมิ-น้ำตกตาดโตน) อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ เบอร์ติดต่ออุทยานแห่งชาติตาดโตน : 044-853-333, 044-853-293 ที่มา >>> sanook
งดอยกิ่วฝิ่นเป็นยอดดอยสูงในเขตอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง ซึ่งเป็นยอดเขาสูง 1,517 เมตร มีนักท่องเที่ยวเข้าไปท่องเที่ยวบนยอดดอยเพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้น อากาศที่กำลังสบายอุณหภูมิตอนเช้าประมาณ 24 องศา นักท่องเที่ยวสามารถไปกางเต้นท์ได้ที่ดอยกิ่วฝิ่น ซึ่งรองรับได้การกางเต็นท์ได้ 70 หลัง ที่นี่จึงเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดในจังหวัดลำปางเลยทีเดียว โดยเฉพาะหน้าฝนและหน้าหนาว ที่ป่าโดยรอบจะสวยงาม ต้นไม้นานาชนิดพากันอวดสีใบเขียวชอุ่ม อากาศเย็นสบายและสดชื่นบริสุทธิ์ ยิ่งในช่วงปลายฝนต้นหนาวที่นี่จะมีวิวของทะเลหมอกหน้าฝน และทิวเขาที่ทอดยาวสามารถชมวิวได้แบบ 360 องศา ในช่วงหน้าฝนแบบนี้ออกไปเที่ยวภูเขากันครับรับรองว่าจะได้พบเห็นกับธรรมชาติที่ชุ่มชื่นและทำให้คุณรู้สึกสดชื่นแบบที่ไม่คาดคิดมาก่อนแน่นอนครับ ที่มา >>> sanook
เที่ยวหน้าฝน สัมผัสอากาศดี ใกล้ชิดสายหมอก แบบฟินๆ ใครว่าหน้าฝนขึ้นดอยไม่ได้ เพราะหน้าฝนนี่แหละจะทำให้สัมผัสธรรมชาติ สายหมอก ไม่แพ้หน้าหนาว 1.ดอยหลวงเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตของกลุ่มวัยรุ่น ที่จะมาเดินขึ้นเขาที่สูงอันดับ 3 ของประเทศไทย เพื่อขึ้นมาชมความสวยงามของธรรมชาติ สัมผัสอากาศดี ฟินกับสายหมอก 2.ดอยหลวง จังหวัดตาก อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของนักเดินเขา กับเส้นทาง 22 กิโลเมตร ที่จะขึ้นมาดูพื้นที่สีเขียวของภูเขา ที่จะทำให้ฟิน อิน ไปกับธรรมชาติ 3.ดอยแม่โถ จังหวัดเชียงใหม่ อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ มีต้นไม้เล็ก ต้นไม้ใหญ่ ดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ พร้อมชมจุดชมวิว 360 องศา มุมไฮไลท์ของที่นี่ ที่จะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก รอชมพระอาทิตย์ยามเช้าและสายหมอกแบบฟินๆ 4.ดอยผาหมี จังหวัดเชียงราย สัมผัสธรรมชาติ สัมผัสสายหมอกแบบใกล้ชิด กับแหล่งท่องเที่ยวชมความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ และอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตอีกแห่งของจังหวัด ที่จะมีนักท่องเที่ยวมากมาย มาพักผ่อน ชมวิวสวยๆ กัน 5.ดอยเสมอดาว จังหวัดน่าน สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดน่าน ฟินไปกับจุดชมวิวทะเลหมอกในยามเช้า นอนมองดาวแบบใกล้ชิดในยามกลางคืน ใครอยากฟิน ไปกับธรรมชาติ “ดอยเสมอดาว” นี่แหละ จะทำให้คุณฟินจนต้องหลงรักที่นี่กัน 6.ดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย จิบชาร้อนๆ มองวิวธรรมชาติ ไร่ชาสีเขียว แบบสุดไกลตา ผ่อนคลายไปกับความเงียบสงบ อากาศที่สุดแสนบริสุทธิ์ ที่จะทำให้คุณฟิน เดินชิลล์ ในไร่ชา 7.ดอยตีดูว์ จังหวัดน่าน สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดน่าน จุดชมวิว แหล่งรวมนักท่องเที่ยวที่จะมารับชมสายหมอก มองภูเขา แบบฟินๆ ในยามเช้า 8.ดอยม่อนแจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ แหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตที่จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ ขึ้นมาชมวิวสวยๆ ของธรรมชาติ สวนกะหล่ำ มองวิวภูเขา สัมผัสสายหมอกและอากาศเย็นๆ 9.ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัด ที่มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี ธรรมชาติที่สมบูรณ์ พร้อมสถานที่ท่องเท่ียวฟินๆ มากมาย ภายในอุทยาน ใครที่อยากฟิน อิน ธรรมชาติ ก็เก็บกระเป๋าวางแผนเที่ยวในหน้าฝนกันนะครับ ที่มา >>> sanook
วันนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ ที่เที่ยวใหม่ของจังหวัดเพชรบุรีที่กำลังมีคนพูดถึงอยู่มากในช่วงนี้ นั่นก็คือตลาดน้ำกวางโจวนั่นเอง ตลาดน้ำแห่งนี้มีความพิเศษอยู่ที่เป็นตลาดน้ำแห่งเดียวในโลกที่ตั้งอยู่บนน้ำตกกวางโจว ท่ามกลางบรรยากาศแห่งป่าไม้ที่ความอุดมสมบูรณ์ ชาวบ้านต่างพากันพายเรือนำของมาวางขายกันอย่างคึกคัก สร้างบรรยากาศแห่งการท่องเที่ยวให้แก่พื้นที่บริเวณนี้ ซึ่งถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดเพชรบุรีเลยก็ว่าได้ ต่อจากนี้หากมาเที่ยวเมืองเพชรคุณจะไม่ได้มีแค่ทะเลหรือภูเขาอีกต่อไป เพราะต่อจากนี้จะมีตลาดน้ำกวางโจวเป็นอีกหนึ่งในที่เที่ยวห้ามพลาดของคุณด้วย โดยภายในตลาดจะมีสินค้าและอาหารมาขายมากมายจากชาวบ้านในพื้นที่ ที่ร่วมกันพัฒนาพื้นที่ตรงนี้ที่แต่ก่อนเป็นป่ารกร้างให้กลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวได้อย่างน่าอัศจรรย์ สินค้าและอาหารมีราคาที่ไม่แพง เพราะเป็นของที่ชาวบ้านทำกันมาขายเอง ราคาเป็นมิตร พ่อค้าแม่ค้าน่ารักมาก ยิ้มแย้มแจ่มใสต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกคน นอกจากจะได้ของฝากติดไม้ติดมือกันไปแล้ว ที่ตลาดน้ำกวางโจวแห่งนี้ยังมีมุมถ่ายรูปสวย ๆ ไว้รองรับนักท่องเที่ยวด้วย เช่นซุ้มต้นไผ่ และน้ำตกกวางโจว ที่เป็นแลนด์มาร์คยอดฮิตของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาที่นี่ ใครมีโอกาสได้มาเพชรบุรีลองแวะมาสัมผัสที่นี่ดูคุณจะได้เรียนรู้วิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวบ้าน รวมถึงได้พักผ่อนในมุมที่สงบ ๆ ท่ามกลางธรรมชาติที่ร่มรื่น เคียงข้างกับสายน้ำของน้ำตก ทำให้คุณสุขใจได้เพียงแค่เวลาไม่กี่ชั่วโมง วันเวลาเปิดปิด : ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ ตั้งแต่เวลา 9.30-17.00 ที่อยู่ : เขื่อนเเม่ประจัน 199 ม 4 ตำบล หนองหญ้าปล้อง อำเภอ หนองหญ้าปล้อง เพชรบุรี ที่มา >>> sanook
ไปถ่ายรูปชิคๆ คูลๆ ท่ามกลาง ทุ่งดอกบัวแดงกัน @ตลาดน้ำทุ่งบัวแดง ณ บางเลนจ.นครปฐม ใกล้ๆ กทม. แค่นี้เอง เสาร์ อาทิตย์ก็เที่ยวได้จ้า สำหรับทุ่งบัวแดง ณ บางเลนแห่งนี้มีบัวแดงอยู่ 2 สายพันธุ์คือ บัวแดงสายพันธุ์ดั้งเดิม ซึ่งจะบานตอนเช้าถ้ามาสายอาจจะไม่ได้ชม และอีกสายพันธุ์เป็นบัวแดงพันธุ์มะเหมี่ยว ซึ่งบัวมะเหมี่ยวจะบานสาย และจะบานไปตลอดทั้งวัน ทำให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมบัวได้ตลอดทั้งวันเลยรอบๆ จะประกอบไปด้วย ร้านค้าอยู่จำนวน 80 ร้านค้า ได้เดิน กิน เที่ยว เพลินๆ เลยจ้า เหมาะสำหรับ พาครอบครัว พาออเจ้าคนรู้ใจ ไปพักผ่อนวันหยุดกัน โดยมีเรือไว้บริการนักท่องเที่ยว ในราคาค่าบริการลำละ 100 บาทถ้าอยากถ่ายรูปมุมโดรน รูปละ 40 บาท ถ้าอยากเหมารูปทั้งหมดจัด ไป 300 บาท ถูกกว่าไปซื้อโดรนเองอีกนะ แถมมีคนถ่ายให้ด้วย ที่ตั้งตลาดน้ำทุ่งบัวแดง : ตำบล บางเลน อำเภอ บางเลน นครปฐม เวลาเปิด - ปิด : 8.00 - 18.00 น. ที่มา >>> sanook
หน้าฝนแบบนี้หลายๆ คนคงจะคิดถึงความเขียวขจีความชุ่มฉ่ำของธรรมชาติ วันนี้เราจะพาทุกคนไปไปพบกับความเขียวจีและชุ่มฉ่ำอย่างแท้จริง สถานที่แห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพเรียกได้ว่าเป็นความสวยงามที่อยู่แค่ปลายจมูกแต่หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้จัก ที่นี่คือดินแดนในฝันที่หลบซ่อนอยู่ในเขื่อนขุนด่านปราการชล โดยการเดินทางไปนั้นจะต้องนั่งเรือเข้าไปด้านในเขื่อน ซึ่งค่าเช่าเรือรวมกับทัวร์น้ำตกลำละประมาณ 1,000 บาท ถ้ามากันหลายคนก็หารได้ถูกราคานี้ถือว่าไม่แพงมาก เพราะวิวที่จะได้ไปเห็นมันตีราคาไม่ได้จริงๆ เมื่อรวมตัวกันได้แล้วก็ถึงเวลาออกไปตามหาดินแดนในฝัน โดยเรือจะพาเราไปชมน้ำตก 3 แห่ง จุดไฮไลท์อยู่ที่น้ำตกช่องลม ที่นี่ถือว่าเป็นต้นน้ำตามธรรมชาติที่สวยงามมากๆ บรรยากาศโดยรอบเต็มไปด้วยความเขียวขจีของต้นไม้มีสายน้ำไหลผ่านตรงกลางแบ็คกราวด์ด้านหลังคือภูเขาหินสีน้ำตาลที่คั่นกลางระหว่างสายน้ำและแผ่นดินช่วยเพิ่มให้ภาพที่เห็นตรงหน้ามีสีสันยิ่งขึ้น ไม่น่าเชื่อว่าจะมีสถานที่ที่สวยงามขนาดนี้อยู่ในประเทศไทยด้วย และที่สำคัญอยู่ใกล้ๆ แค่นครนายกนี้เอง รับรองได้เลยว่าหากมาเที่ยวที่นี่จะต้องได้รูปภาพสวยๆ กลับไปอวดเพื่อนๆ แน่นอน ความธรรมชาติของที่นี่ยังคงดิบและสมบูรณ์มากๆ ในวันที่ฝนเพิ่งตกจะมีหมอกจางๆ ลอยอยู่เหนือพื้นด้วย เป็นดินแดนในฝันที่ควรมาเห็นด้วยตาตนเองสักครั้งจริงๆ ค่าบริการเช่าเรือ : 1,000 บาท ที่ตั้ง : ด้านในเขื่อนขุนด่านปราการชล ตำบลนาหินลาด อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก ที่มา >>> sanook
|
AuthorWrite something about yourself. No need to be fancy, just an overview. Archives
January 2021
Categories |