ถ้ำ ประติมากรรมจากธรรมชาติ ที่เก็บความลึกลับซ่อนความพิศวงเอาไว้ ให้ผู้คนได้เข้าไปค้นหาในความลี้ลับของธรรมชาติ ซึ่งความเชื่อในเรื่องตำนานบางครั้งได้กล่าวไว้ว่า มีถ้ำบางถ้ำคือประตูมุ่งเข้าไปสู่เมืองลับแล ดินแดนอารยธรรมของโลกคู่ขนานกับบนโลกแห่งความจริง บางตำนานก็เล่าว่ามีถ้ำบางถ้ำ คือประตูที่มุ่งไปสู่เมืองบาดาลดินแดนแห่งวังของพญานาคราช แต่ความเชื่อทางวิทยาศาสตร์ความสวยงามของถ้ำคือ แร่ธาตุที่หล่อหลอมรวมกับสภาพภูมิประเทศผสมกับอุณหภูมิ จึงเกิดเป็นแสงสีสันแสนสวยอย่างหลากสี "ถ้ำหินปูน" เกิดขึ้นจากการกัดเซาะของน้ำจนเกิดเป็นโพรงถ้ำ "ถ้ำน้ำแข็ง" เกิดจากการละลายจากธารน้ำแข็ง "ถ้ำชายฝั่ง" เกิดจากการกัดเซาะหินผาจนเกิดเป็นโพรงถ้ำด้วยเกลียวคลื่น "ถ้ำภูเขาไฟ" เกิดจากการเย็นตัวของลาวาจากภูเขาไฟ จนก่อเกิดเป็นถ้ำที่สวยงามดังที่คุณจะได้เห็น 10 ถ้ำที่สวยงามที่สุดในโลกมีที่ไหนกันบ้าง ต้องลองมาชมไปด้วยกัน 1.Reed Flute Cave (China) The Reed Flute Cave หรือถ้้ำขลุ่ยอ้อ ตั้งอยู่ที่กวางสี (Guangxi) ประเทศจีน Reed Flute Cave เป็นถ้ำหินปูน ภายในตัวถ้ำที่มีหินงอก หินย้อยที่มีสีสันสวยงาม ซึ่งบริเวณปากถ้ำมีต้นพืชปกคลุมขึ้นอยู่ ที่สามารถนำมาทำขลุ่ยได้ จึงเป็นที่มาของชื่อถ้ำว่า "The Reed Flute Cave" ตัวของถ้ำนี้มีอายุมานานมากกว่า 1,200 ปี 2.Phraya Nakhon Cave (Thailand) ถ้ำพระยานคร เป็นถ้ำที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประเทศไทย ถ้ำพระยานครมีหลุมที่ด้านบนของเพดาน จึงทำให้แสงแดดสามารถส่องผ่านเข้ามาได้ ซึ่งด้านบนหลุมของถ้ำมีสะพานที่มีชื่อว่า "สะพานแห่งความตาย" ภายในถ้ำเป็นที่ตั้งของพระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เวลาเสด็จมาทอดพระเนตรอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด 3.Antelope Canyon (USA) Antelope Canyon (แอนเทอโลปแคนยอน) ตั้งอยู่ในรัฐแอริโซนา สถานที่ยอดนิยมในการเข้าไปถ่ายรูปจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา แอนเทอโลปแคนยอนถูกแกะสลักโดยธรรมชาติ ผ่านช่วงเวลามานับเป็นพันปี จากสายลมและน้ำท่วมฉับพลัน ในช่วงฤดูมรสุมของทะเลทรายแห่งแอริโซนา 4.Vatnajokull Glacier Cave (Iceland) ถ้ำน้ำแข็ง ที่ตั้งอยู่ใกล้ Vatnajokul ในประเทศ Iceland ถือได้ว่าเป็นถ้ำธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป เปิดประสบการณ์สัมผัสกับความงดงามที่ซ่อนตัวอยู่ในช่องว่างของถ้ำน้ำแข็ง ที่ก่อตัวขึ้นเรียงรายด้วยความหนาวเย็นจนเป็นสีสันที่งดงาม คุณจะได้พบกับคริสตัลน้ำแข็งหลากสีที่รายล้อมไปรอบตัว เป็นดั่งอัญมณีที่มีความล้ำค่าจากธรรมชาติ 5.Batu Caves (Malaysia) ถ้ำ Batu (บาตู) ตั้งอยู่ในประเทศมาเลเซีย เป็นถ้ำหินปูนที่มีอายุมากว่า 400 ล้านปีมาแล้ว ซึ่งในสมัยนั้นถ้ำได้ถูกใช้เป็นที่พักพิงของชนพื้นเมือง แล้วยังมีการทำการเกษตร ภายในถ้ำมีรูปปั้นฮินดูที่ได้รับการยกย่องเพื่อให้เป็นสถานที่สักการะบูชา มีเพดานถ้ำที่สูงมากด้านทางเข้ามีบันไดเพื่อเดินเข้าไปในตัวถ้ำ ถ้ำบาตูยังมีถ้ำหลักแบ่งเป็นสามส่วน โดยมีถ้ำใหญ่สุดเป็นวิหารถ้ำสร้างในแบบศาสนาฮินดู 6.Mendenhall Glacier Cave (USA) ถ้ำน้ำแข็ง Mendenhall ตั้งอยู่ใกล้กับ Juneau, Alaska USA ถ้ำแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของธารน้ำแข็ง Mendenhall ถ้ำแห่งนี้ความสวยงามเกิดจาก การละลายตัวของน้ำแข็งที่เปลี่ยนไปตามสภาพภูมิอากาศ จนเกิดเป็นความสวยงามที่ธรรมชาติได้สร้างมาให้ ซึ่งมีน้ำไหลผ่านโขดหินด้านบนเพดานธารน้ำแข็งสีฟ้า เหมือนกระจกกั้นห่างไปไม่เกินปลายฝ่ามือ 7.Cave in Algarve (Portugal) ถ้ำแห่ง Benagil ชื่อที่ถูกเรียกว่าแอลการ์ฟ คือชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศโปรตุเกส เป็นสถานที่ยอดนิยมที่สุดในการท่องเที่ยวของประเทศโปรตุเกส ถ้ำแห่งแอลการ์ฟมีหน้าผาหินก่อตัวยาวจากพื้นทรายของทะเลขึ้นไปด้านบนเพดาน มีช่องว่างมองเห็นท้องฟ้าสีสดใส ส่วนด้านล่างทอดตัวยาวด้วยหาดทรายสีขาวอันน่าไปเยือน 8.Glowworms Cave (New Zealand) ถ้ำ Waitomo Glowworms Cave ตั้งอยู่ทางเหนือของประเทศ New Zealand เป็นถ้ำหินปูนเกิดจากการก่อตัวของฟอสซิลปะการัง, เปลือกหอย และสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กในทะเลที่บีบอัดตัวจนเป็นหินปูน ผ่านเวลามามากกว่า 30 ล้านปี ภายในถ้ำมีแมลงขนาดเล็กที่สามารถเรืองแสงได้ สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า "Glowworms" สายพันธุ์ที่พบได้เฉพาะในนิวซีแลนด์ที่เดียว 9.Tham Lod Cave (Thailand) Tham Lod Cave (ถ้ำลอด) ตั้งอยู่ที่อำเภอ ปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ถ้ำลอดเป็นถ้ำหินปูน มีจุดเด่นที่มีลำธารน้ำจืดไหลผ่านระหว่างกลางถ้ำประมาณ 200-300 เมตร ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยที่สวยงาม โครงสร้างภายในของกำแพงถ้ำ มีลักษณะเป็นเสาใหญ่จากการรวมตัวกันของหินงอกหินย้อย 10 Kyaut Sae Cave (Myanmar) ถ้ำ Kyaut Sae ตั้งอยู่ในประเทศพม่า เพดานถ้ำมีช่องขนาดเล็กซึ่งในตอนกลางวัน มีแสงสีส้มผสมสีฟ้าสาดส่องเข้ามาภายในถ้ำจนสวยงาม ตามตำนานโบราณของถ้ำ Kyaut Sae นั้น ได้ถูกใช้เป็นที่หลบซ่อนของชาวบ้านในยุคศตวรรษที่ 13 จากการรุกรานของจักรวรรดิมองโกล เป็นสถานที่ทำสมาธิและพลังแห่งศรัทธาของผู้ที่นับถือทางพระพุทธศาสนา ที่มา >>> Pepper,sanook
0 Comments
Leave a Reply. |
AuthorWrite something about yourself. No need to be fancy, just an overview. Archives
January 2021
Categories |