เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับใครที่ตั้งใจจะไปร่วมงานถือศีลกินผักจังหวัดภูเก็ตในช่วงเทศกาลกินเจ เพราะในปีนี้ทางจังหวัดภูเก็ตมีกำหนดจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ในช่วงวันที่ 26 กันยายน - 4 ตุลาคม 2565 ตลอดระยะเวลา 9 วัน 9 คืน
โดยในปีแรกนี้จะเป็นการสร้างการรับรู้ และปีต่อๆ ไปจะเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจได้เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว นอกจากนี้ ยังมีการจำหน่ายอาหารเพื่อสุขภาพในงาน “ประเพณีถือศีลกินผัก ปักธง เพื่อสุขภาพ ให้ภูเก็ตเข้าสู่ Phuket Hub อย่างแท้จริง” ตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน-4 ตุลาคม 2565 ณ เทศบาลกะทู้ เวลา 15.00-22.00 น. และบริเวณอ๊ามจุ๊ยตุ่ย เวลา 10.00-24.00 น. ทั้งนี้ ขอเชิญประชาชาชนเข้าร่วม “งานประเพณีถือศีลกินผัก จังหวัดภูเก็ต 2565” ตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน-4 ตุลาคม 2565 ณ จังหวัดภูเก็ต ร่วมชำระล้างร่างกายและจิตใจ ไปกับประเพณีอันเก่าแก่ ความเชื่อ ความศรัทธา มนต์เสน่ห์ของอาหารสร้างสรรค์จากชุมชนอ๊ามโบราณ ซึ่งเป็นการกลับมาจัดงานอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้ง หลังจากเกิดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19
0 Comments
สายเดินป่าเตรียมตัว เตรียมใจกันให้พร้อม อุทยานแห่งชาติภูกระดึง เส้นทางเดินป่าที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ประกาศเปิดการท่องเที่ยวอีกครั้งในวันที่ 1 ตุลาคม 2565 นี้หลังจากที่ทางอุทยานแห่งชาติภูกระดึงได้ประกาศปิดไปตามฤดูกาล จนถึงวันนี้ทางอุทยานได้กำหนดวันเปิดอีกครั้งตั้งแต่ 1 ตุลาคม - 31 พฤษภาคม 2566
โดยมีขั้นตอนการท่องเที่ยว ดังนี้ 1.จองคิวเข้าอุทยานแห่งชาติผ่าน App QueQ ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 60 วัน 2.จองบ้านพักและเต็นท์ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 60 วัน ได้ที่ https://nps.dnp.go.th/reservation.php หรือโทร.042810834 3.ชำระค่าบริการบุคคลและยานพาหนะที่ด่านตรวจ 1 4.ติดต่อฝากยานพาหนะที่ด่านตรวจ 2 5.ติดต่อลงทะเบียนบ้านพักหรือเต็นท์ ณ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวศรีฐาน (เชิงเขา) 6.จ้างหาบสัมภาระที่อาคารหมายเลข 4 7.ลงทะเบียนขึ้นเขาและยื่นบัตรค่าบริการบุคคลที่ด่านตรวจ 3 8.เดินเท้าขึ้นสู่ยอดภูกระดึง-วันธรรมดา อนุญาตให้ขึ้น-ลงเขา เวลา 06.00-13.00 น.-วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ อนุญาตให้ขึ้น-ลงเขา เวลา 05.30-13.00 น. ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook.travel,Peeranut P. กลับมาเปิดให้บริการแล้วสำหรับ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โฉมใหม่ใหญ่กว่าเดิม 5 เท่าพร้อมรับการจัดงานประชุมระดับนานาชาติภายใต้แนวคิดการออกแบบที่สะท้อนความเป็นไทยผ่านการดึงลวดลายผ้าทอราชสำนักและผ้าพื้นเมืองมาผสมผสานกับงานช่างศิลป์ไทยในสาขาต่างๆ ทั้งยังปรับมุมมองนำเอกลักษณ์ความเป็นไทยสู่ความเป็นสากลที่มากขึ้นผสมผสานไปกับแนวคิดการออกแบบอาคารให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด และแม้ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โฉมใหม่ที่เปิดให้บริการในวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2565 จะเป็นการพลิกโฉมงานดีไซน์ทั้งโครงสร้างและการตกแต่งภายในแตกต่างจากเดิมไปมาก ทว่าสิ่งหนึ่งที่ทางศูนย์การประชุมฯ ยังเก็บรักษาไว้คือ “งานศิลปะชิ้นเยี่ยมจากศิลปินชั้นครู” ไอโคนิกที่อยู่คู่ศูนย์การประชุมฯ มาตั้งแต่ พ.ศ.2534 มีด้วยกันทั้งหมด 4 ชิ้น ส่วนจะมีชิ้นไหนบ้างSarakadee Lite ชวนไปปักหมุด 1.ชื่องาน : โลกุตระ ศิลปิน : ชลูด นิ่มเสมอ “โลกุตระ” ที่ตั้งตระหง่านอยู่บริเวณหน้าศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์และกลายเป็นสัญลักษณ์ของหอประชุมแห่งชาติมาตั้งแต่ พ.ศ.2534 เป็นหนึ่งในผลงานชิ้นเอกของ อาจารย์ชลูด นิ่มเสมอ ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (ประติมากรรม) ประจำปี พ.ศ. 2541 อาจารย์ชลูด นิ่มเสมอ เป็นผู้บุกเบิกการสร้างสรรค์ผลงานประติมากรรมแบบถาวรขนาดใหญ่ ติดตั้งกับที่สาธารณะที่เรียกว่า “ศิลปะกับสิ่งแวดล้อม” โดยมีผลงานชิ้นเอกที่ผู้คนจดจำคือ “โลกุตระ” อาจารย์ชลูดเคยกล่าวว่า แนวคิดของงานออกแบบ “โลกุตระ” ซึ่งตั้งเป็นศิลปะสาธารณะ ตั้งกลมกลืนอยู่กับสิ่งแวดล้อมนั้นเริ่มจากการตีความเปลวรัศมีว่าเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงปัญญา หมายถึงปัญญาที่จะหลุดพ้นจากกิเลส ส่วนแท่นสีดำด้านล่างที่เป็นฐานทำจากหินแกรนิตเป็นตัวแทนกิเลสของฝ่ายโลกียะ และพุ่มเปลวที่มี 8 พูหมายถึง “มรรคมีองค์ 8”หนทางแห่งการหลุดพ้นและยังมีอีกหนึ่งสัญลักษณ์ซ้อนอยู่นั่นคือ ดอกบัวกำลังแย้มบานจำนวน8 ก้านที่ผนึกรวมกัน โผล่ผุดขึ้นจากแท่นหิน อันเปรียบได้กับดอกบัวที่โผล่พ้นจากโคลนตม 2.ชื่องาน : พระราชพิธีอินทราภิเษก ศิลปิน : จรูญ มาถนอม ผลงานจำหลักไม้ขนาดใหญ่ที่ติดไว้บนฝาผนังนี้อยู่คู่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์มาตั้งแต่ พ.ศ.2534ผลงานของ จรูญ มาถนอม ศิลปินผู้อยู่เบื้องหลังปราสาทไม้แกะสลักขนาดใหญ่ที่พัทยา “ปราสาทสัจธรรม” โดยชิ้นงาน พระราชพิธีอินทราภิเษก เป็นการจำหลักลงบนไม้จำนวน 56 แผ่น วัดความยาวได้ราว 23 เมตร สูงราว 6.30 เมตรใช้เวลาทำงานจำหลักไม้ทั้งหมด4 เดือนและอบไม้อีก 2 เดือน มีเรื่องราวเล่าถึงพระอินทร์ตอนที่ได้ทำพิธีสถาปนาขึ้นเป็นผู้ปกครองทวยเทพ หรือในอีกความหมายก็เพื่อเทิดพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 9 3.ชื่องาน : เสาช้าง ลูกโลก ศิลปิน : ธานี กลิ่นขจร ประติมากรรมลอยตัวรูปช้างสี่เศียรที่รองรับลูกโลกสีทองตั้งอยู่บนฐานเสาสูงนี้เคยตั้งตระหง่านอยู่บริเวณโถงต้อนรับของศูนย์การประชุมฯ หลังเก่า ถือเป็นผลงานที่มีการผสมผสานระหว่างความเป็นไทยกับสากลอย่างชัดเจน เป็นศิลปะไทยร่วมสมัยที่บ่งบอกถึงเป้าหมายของการสร้างศูนย์การประชุมแห่งชาติแห่งแรกในไทยขึ้นเพื่อให้ทัดเทียมกับต่างชาติ โดยงานประชุมแรกที่เกิดขึ้น ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ก็คืองานประชุมธนาคารโลกหรือ World Bank เมื่อ พ.ศ. 2534 4.ชื่องาน : ประตูกัลปพฤกษ์ มือจับพญานาค
ศิลปิน : ไพเวช วังบอน ประตูลายต้นกัลปพฤกษ์สีทองอร่ามทั้ง 16 บานพร้อมมือจับรูปพญานาคทำจากสัมฤทธิ์ ถูกถอดมาจากประตูเพลนนารี ฮอลล์ ของศูนย์การประชุมฯ เดิม และเมื่อมีการสร้างศูนย์การประชุมฯ แห่งใหม่ ทางทีมสถาปนิกก็ตั้งใจออกแบบพื้นที่เพื่อให้สามารถนำประตูเดิมมาติดตั้งได้ เพียงแต่อาจจะไม่ได้จัดวางเรียงในแบบเดิมที่นำประตูมาเรียงต่อกัน โดยประตูกัลปพฤกษ์นี้ศิลปินคือ ไพเวช วังบอน ได้จำลองลวดลายมาจากบานประตูลายรดน้ำที่พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กรุงเทพฯ ส่วนในขั้นตอนการทำก็ยังคงอนุรักษ์วิธีการรดน้ำปิดทองแบบช่างโบราณ ด้านความหมายของต้นกัลปพฤกษ์นั้นถือเป็นต้นไม้มงคลที่นิยมใช้ในการเขียนลายไทย และเมื่อนำมาติดตั้งใหม่ก็ได้ผ่านขั้นตอนอนุรักษ์ให้สีทองเดิมอร่ามและสว่างยิ่งขึ้น ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook.travel,Sarakadeelite ภูบ่อบิด ที่เที่ยวจังหวัดเลย เป็นจุดชมวิว ที่สามารถชมทะเลหมอกยามเช้าที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง และถือเป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดในเมืองเลย สามารถมองเห็นทะเลภูเขาอย่างแท้จริง ณ วนอุทยานภูบ่อบิด ต.ชัยพฤกษ์ อ.เมืองเลย จ.เลย ช่วงหน้าฝนมี นทท.เริ่มทยอยขึ้นไปเที่ยวมากขึ้น เพื่อชมทะเลหมอกแห่งเดียวในเขตอำเภอเมืองเลย ที่ขึ้นง่ายเดินทางสะดวก ไฮไลท์ของที่นี่นอกจากจะเป็นจุดชมทะเลหมอกในยามเช้าแล้ว ยังสามารถชมพระอาทิตย์ตก และ ดาวบนดิน เสน่ห์ยามค่ำคืนของอำเภอเมืองเลย ได้อย่างสวยงาม นอกจากนี้แล้วนักท่องเที่ยวที่ มาเที่ยวชมภูบ่อบิด ยังสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้อีกจำนวนมากหลากหลาย ทั้งสามารถแวะไหว้ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ตลอดจนองค์พญานาคหลวงปู่ไหลคำมา ณ บริเวณกุดป่องได้อีกด้วย สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรม วิถีชุมชน ขอแนะนำถนนคนเดินเลาะเลยในเย็ นวันเสาร์ หรือ ตลาดบ้านแฮ่ นักท่องเที่ยว จะได้เพลิดเพลินกับ แหล่งท่องเที่ยวด้านศิลปวั ฒนธรรม และ ธรรมชาติที่สวยงามในเขตอำเภอเมืองเลย วนอุทยานภูบ่อบิด อยู่ในท้องที่ บ้านนาบอน ต.ชัยพฤกษ์ อ.เมืองเลย จ.เลย พื้นที่เชื่อมกับเขต ต.กุดป่อง ทม.เลย และ บ้านไร่ทาม ต.นาอาน อ.เมืองเลย จ.เลย อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าภูห้วยหมาก ป่าภูทอก และป่าภูบ่อบิด ห่างจากตัวเทศบาลเมืองเลย 3 ก.ม. อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าภู ห้วยหมาก ป่าภูทอก และป่าภูบ่อบิด มีเนื้อที่ประมาณ 4,375 ไร่ โดยกรมป่าไม้ได้ประกาศจัดตั้งเป็นวนอุทยานเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2539 เป็นภูเขาที่มีความสูงประมาณ 500-600 เมตร จากระดับน้ำทะเล มีความสวยงามไม่แพ้ที่ไหน ๆ แถมอยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง ที่นี่เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น และหมอกยามเช้าที่สวยงาม ส่วนในตอนเย็นเรายังสามารถชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าพร้อมกับวิวยามค่ำคืนของตัวเมืองเลยที่สว่างไสวขึ้นมาแทนชมทัศนียภาพโดยรอบ 360 องศา ข้อมูลการเดินทาง การเดินทางขึ้นได้ 2 ทางคือการใช้บริการที่ถนนเลย- ผาพอด ด้วยรถไถและรถอีแต๊ก ไปจอดใกล้กับถ้ำพระภูบ่อบิดแล้วเดินขึ้นบันไดอีก 180 เมตร และ อีกเส้นทางถนนเลยนาด้วงเป็นเส้นทางการเดินเท้าขึ้นตั้งแต่ตีนภูช่วงแรกจะเป็นบันไดดินเมื่อเดินขึ้นไปอีก 20 เมตรจะมีศาลเจ้าปู่ภูบ่อบิดอยู่ ทางซ้ายมือเดินไปอีก 430 เมตร จะมีถ้ำพระภูบ่อบิด จุดนี้มีพระพุทธรูปให้กราบสักการะและจุดชมวิวให้ได้พักเหนื่อยจากนั้นเดินขึ้นบันไดเหล็กอีก 180 เมตร ก็จะเจอถ้ำลอด เป็นถ้ำที่มีความลึกประมาณ 10 เมตร และเดินไปอีก 20 เมตรสุดท้าย ก็จะถึงยอดภูบ่อบิดรวมใช้ เวลาเดินเท้าประมาณ 20 -30 นาที รวมระยะทาง 670 เมตร ก็เป็นการขึ้นพิชิตยอดภูบ่อบิดแล้ว ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook.travel,Peeranut P.
หลังจากที่ปิดให้บริการเพื่อปรับปรุงสภาพแวดล้อมไปนานหลายเดือน สำหรับ บ้านไร่นายรุ่ง แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีมุมถ่ายรูปดอกทานตะวัน ดอกไม้สวยๆ ให้ได้เช็กอิน ที่ท่องเที่ยวของจังหวัดกาญจนบุรี ล่าสุดทางบ้านไร่นายรุ่งได้กลับมาประกาศฌปิดอีกครั้งแล้ว พร้อมกับทุ่งดอกทานตะวันที่กำลังเบ่งบานสะพรั่งเต็มไร่สวยงามมากๆ พร้อมกันนี้ยังมีมุมถ่ายรูปสวยๆ มากมายให้คุณได้มาเก็บภาพความประทับใจกัน ใครอยากจะหามุมถ่ายรูปสวยๆ แนวธรรมชาติสำหรับทริปวันหยุดพักผ่อนของคุณ แนะนำที่นี่เลยครับไม่ผิดหวังแน่นอน ข้อมูลเพิ่มเติมของบ้านไร่นายรุ่ง
-ที่ตั้งบ้านไร่นายรุ่ง : ตรงข้ามวัดหนองบัว ต.กลอนโด อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี (จากศาลากลาง เลี้ยวซ้ายที่วงเวียนและตรงมาตามถนน 3209 อีก 25 กม. ถึงไร่) -พิกัด : https://maps.app.goo.gl/aLzRcUfYJfbGw6Zd7 -เวลาเปิด - ปิด : 8.00 - 18.30 -เบอร์โทรติดต่อ : 0890519242 -ค่าเข้าชม : คนละ 40 บาท เด็ก 10 บาท ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook.travel,Peeranut P. เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา ประชาชนที่บุรีรัมย์จำนวนมาก ร่วมงานประเพณีตักบาตรบนหลังช้าง 29 เชือก สืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม ทั้งเป็นการกระตุ้นส่งเสริมท่องเที่ยวตามนโยบายของจังหวัด พร้อมชมการแสดงระบำอัปรา การแสดงเรือมอันเร และการแสดงจำลองยุทธหัตถีด้วย นายปิยะ ปิจนำ ปลัดจังหวัดบุรีรัมย์พร้อมด้วยนางธันย์ภัคนันท์ หัตถาธยากูล นายกเหล่ากาชาดจังหวัด , นายกันวลินทร์ เมืองแก้ว นายอำเภอสตึก เหล่ากาชาดจังหวัด แม่บ้านมหาดไทย แม่บ้านตำรวจ ผู้นำท้องถิ่นและประชาชน ร่วมทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ที่นั่งบนหลังช้างจำนวน 29 เชือก ในงาน "ประเพณีตักบาตรบนหลังช้าง ที่สำนักสงฆ์ป่าหนองพะยอม ตำบลท่าม่วง อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่ออนุรักษ์สืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม ทั้งเป็นการเสริมสร้างความรักความสามัคคีและกระตุ้นส่งเสริมการท่องเที่ยวในอีกทางหนึ่งด้วย โดยบรรยากาศตักบาตรบนหลังช้างในปีนี้ มีประชาชนทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่นำข้าวสารอาหารแห้ง มาร่วมทำบุญตักกันเป็นจำนวนมาก โดยมีพระสงฆ์นั่งบนหลังช้าง 29 เชือก นำโดย พลายหนุ่มเสก ที่แสดงภาพยนตร์หลายเรื่อง เดินนำขบวนรับบิณฑบาตอย่างสวยงาม นอกจากนั้นยังมีการจัดแสดงระบำอัปรา การแสดงเรือมอันเร และการแสดงจำลองยุทธหัตถี ให้ผู้ที่มาร่วมงานได้ชมอีกด้วย ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook.travel,Peeranut P.
สำหรับใครที่มีความศรัทธาในองค์พญานาค จะพาคุณไปชมพญานาคสีทองเลื้อยลงเขาที่วัดปรังกาสี อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี องค์พญานาคของที่นี่ถือว่าเป็ฯแห่งเดียวของเมืองไทยเลยก็ว่าได้ที่มีลักษณะท่าทางเหมือนกับมีชีวิตจริงๆ เหมือนองค์พญานาคเลื้อยลงมาจากเขาสวยงามมากๆ เป็นพื้นที่แห่งความศรัทธาที่หลายๆ คนตั้งใจเดินทางไปเพื่อสักการะพญานาคองค์นี้ หากมีโอกาสไปเที่ยวทองผาภูมิลองแวะไปชมกัน ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook.travel,Peeranut P.
ปัจจุบัน เทรนด์ในการเดินทางเที่ยวคนเดียว หรือ Solo Travel นั้น นับว่ากำลังได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยว เป็นการตัดสินใจเก็บกระเป๋าแล้วออกเที่ยวโดยไม่ง้อเพื่อน ไม่รอแฟน ไม่สนทัวร์ ซึ่งจริง ๆ แล้ว การที่คนเราจะตัดสินใจออกไปท่องเที่ยวคนเดียวโดยไม่กลัวความเหงาและการต้องเผชิญกับเรื่องราวต่าง ๆ ตามลำพังนั้น เป็นการตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยวและมั่นคงมาก จนทำให้ใครหลายคนเริ่มใฝ่ฝันว่าอยากจะลองหนีไปเที่ยวคนเดียวดูสักครั้ง เพื่อเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ลองทำสิ่งใหม่ ๆ อย่างอิสระ และหลุดออกมาจากกรอบเดิมที่เคยล้อมรอบตัวเองไว้
จริง ๆ แล้ว การเที่ยวคนเดียวฉายเดี่ยวทริปเนี่ยมันมีข้อดีอยู่หลายข้อเหมือนกัน อีกทั้งยังมีเสน่ห์ที่น่าลองออกไปค้นหา ซึ่งในท้ายที่สุดแล้วเราอาจจะชอบหรือไม่ชอบก็ได้ แต่เราก็ควรจะลองไปเที่ยวคนเดียวให้ได้สักครั้งในชีวิต ไปให้รู้ว่ามันเป็นอย่างไร ถ้าไม่ชอบจะได้พูดได้เต็มปากว่าไม่ชอบที่ตรงไหน แต่เท่าที่ได้พูดคุยกับคนที่ลองเปิดประสบการณ์ชีวิตเที่ยวคนเดียว ส่วนใหญ่เจอแต่คนที่หลงใหลการเที่ยวคนเดียวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แล้วการเที่ยวคนเดียวเนี่ย มีเคล็ดลับอะไรที่น่าสนใจบ้างไหม บอกเลยว่ามันมีรายละเอียดจุกจิกมากมายไปหมด แต่ถ้าอยากจะลองฉายเดี่ยวแบบมือโปรล่ะก็ มีเคล็ดลับที่ต้องให้ความสำคัญเพียง 5 ข้อนี้เท่านั้น ส่วนรายละเอียดมันจะตามมาเอง หากเข้าใจ 5 ข้อนี้ดีแล้ว ความปลอดภัยต้องมาเป็นที่ 1 เหตุผลที่ทำให้หลาย ๆ คนยังไม่กล้าเสี่ยงที่วางแผนเดินทางคนเดียว ส่วนใหญ่แล้วเป็นเรื่องของความปลอดภัย แต่ก็ต้องบอกก่อนว่าการเดินทางเที่ยวคนเดียวฉายเดี่ยวทริปนี้มันก็ไม่ได้อันตรายขนาดนั้นถ้าเราทำการบ้านมาเป็นอย่างดี เดี๋ยวจะเข้าใจผิดจนไม่กล้าเปิดใจเที่ยวคนเดียว คือถ้าเราสนใจกับคำเตือนทุกอย่าง หาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ที่จะไปให้รอบคอบรอบด้าน ดูว่ามีชื่อเสียงด้านความปลอดภัยแค่ไหน เช็กความปลอดภัยของโรงแรมที่พัก ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวกับคนแปลกหน้า เตรียมข้อมูลย่านที่ต้องหลีกเลี่ยง ส่วนสายดื่มชอบท่องราตรีในต่างแดน จะดื่มจนเมามายไม่ได้สติเด็ดขาด เตรียมกาย เตรียมใจ เตรียมสติให้พร้อม แค่นี้ก็ออกไปเที่ยวคนเดียวได้สบาย ๆ แล้ว ทำการบ้านมาเป็นอย่างดี เรื่องของการเตรียมความพร้อม ทั้งเรื่องสถานที่ที่จะไปและวิธีการเตรียมตัวเมื่อต้องเดินทางคนเดียว เป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งเสริมเรื่องความปลอดภัย ก่อนที่จะเดินทางไปสถานที่ใดในโลกก็ตาม ควรทำการบ้านอย่างละเอียด ศึกษาหาข้อมูลของสถานที่นั้น ๆ ก่อน โดยเฉพาะเรื่องศิลปวัฒนธรรม บรรทัดฐานของสังคม ภาษา อะไรทำได้อะไรทำไม่ได้ สถานที่ไหนที่ไม่ควรจะไป เพราะมันอันตราย สถานที่ที่เราจะขอความช่วยเหลือได้ในกรณีที่เกิดเรื่องร้ายแรง เช่น ถ้าไปต่างประเทศ ก็ต้องรู้ว่าสถานทูตไทยประจำต่างประเทศนั้น ๆ อยู่ที่ไหน เบอร์ติดต่อเบอร์อะไร สำหรับผู้หญิงที่ชอบเดินทางเที่ยวคนเดียว อย่าลืมหาข้อมูลในการรับมือกับปัญหาล่วงละเมิดทางเพศที่อาจจะเกิดกับตัวไว้ด้วย เชื่อมั่นในตัวเองเข้าไว้ จะบอกว่ามีบางคนนะที่กังวลมากเกินเหตุ จนในที่สุดก็ตัดสินใจเทตัวเองยกเลิกไม่ไปแล้ว ทั้งที่จ่ายสารพัดค่าใช้จ่ายไปหมดแล้ว จริง ๆ ก็เสียดายแหละ แต่บางคนประหม่าหนักถึงขั้นนั้นจริง ๆ คือถ้ากลัวมากขนาดนั้นที่เททริปตัวเองกลางคันได้ แล้วเมื่อไรจะได้รู้ล่ะว่าการเที่ยวคนเดียวมันมีข้อดี มีมุมที่สนุกมาก และที่สำคัญคือมันไม่ได้อันตรายหรือน่ากลัวขนาดนั้นด้วย ของแบบนี้มันต้องใจกล้า ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดไปเลยว่าจะไม่หันหลังกลับ เชื่อมั่นในตัวเองเข้าไว้ว่า “ฉันทำได้” มันก็เหมือนกับการทดลองทำอะไรใหม่ ๆ เป็นครั้งแรกนั่นแหละ ต้องลองทำก่อนถึงจะรู้ จะมาใช้ประสบการณ์คนอื่นตัดสินเพราะอ่านรีวิวมา หรือมโนไปเองว่าจะเกิดนั่นเกิดนี่ขึ้นไม่ได้หรอก มีแผนรับมือเรื่องฉุกเฉิน เดินทางคนเดียว ต้องใส่ใจกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันมากเป็นพิเศษ ต่อให้จะไม่มีทางรู้ได้แน่ชัดก็ตามว่ามันจะเกิดขึ้นหรือไม่ เพราะอุบัติเหตุและเหตุการณ์ไม่คาดฝันนั้นสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ อาจจะเที่ยวบินล่าช้า หรือแย่กว่านั้นคืออาจไปบาดเจ็บเลือดตกยางออกในต่างแดนเข้า ดังนั้น ก่อนที่จะหนีไปเที่ยวคนเดียว ต้องวางแผนเตรียมรับมือเหตุฉุกเฉินไว้ด้วย เขียนแผนการเดินทางฉบับสมบูรณ์ให้เพื่อนหรือคนที่ไว้ใจได้รู้สัก 2-3 คน ซื้อประกันการเดินทาง เพื่อรับความคุ้มครองไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ระหว่างเดินทางหรือเมื่อเปลี่ยนแผนเดินทาง อัปเดตข้อมูลล่าสุดให้ครอบครัวและเพื่อนฝูงรู้เสมอว่าไปอยู่ส่วนไหนของโลก และควรมีเงินสดติดตัว เก็บในที่ปลอดภัยไว้ใช้ยามฉุกเฉิน การรับมือกับความรู้สึกที่ไม่มั่นคง แน่นอนว่าคงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคนที่เคยแต่ไปไหนมาไหนกับเพื่อนฝูง ในการจะปรับตัวให้รับมือกับความอ้างว้างหรือโดดเดี่ยวเวลาที่เดินทางตัวคนเดียว เมื่อก่อนสนุกสนานเฮฮาหรือเศร้าเสียใจเกี่ยวกับทริปที่กำลังดำเนินอยู่ แค่หันหลังไปก็มีเพื่อนให้บ่น ให้ปรึกษาด้วย คอยให้กำลังใจกันและกัน ทว่าการเดินทางคนเดียว เวลามีเรื่องตลกขบขันก็ทำได้แค่หัวเราะอยู่คนเดียว ไม่รู้จะหันไปยิ้มไปหัวเราะกับใคร เวลามีเรื่องที่หน่วงใจ ก็ทำได้แค่หลบอยู่ห้องพัก ฮีลใจตัวเองเงียบ ๆ ไม่รู้จะบ่นให้ใครฟัง นี่คงเป็นข้อด้อยที่ชัดเจนที่สุดแล้วของการเที่ยวคนเดียว การที่เราหันหลังไปก็ไม่เจอใครให้แชร์ความรู้สึกร่วมกันเลยคงจะสร้างความรู้สึกที่ไม่มั่นคงอยู่ไม่น้อย แต่ก็ต้องจัดการมันให้ได้ ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook.travel,Tonkit360 ใครที่เป็นคนชื่นชอบการเดินทางด้วยรถไฟเตรียมตัวไปลองกันได้เลยกับการเปิดให้บริการรถไฟ KIHA 183 รถดีเซลรางปรับอากาศ ที่ประเทศไทยได้ซื้อต่อมาจากประเทศญี่ปุ่นเพื่อนำมาใช้บริการคมนาคมในเมืองไทย โดยล่าสุดนี้ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ทำการเปิดทดลองให้บริการเดินรถจากสถานีมักกะสัน-ฉะเชิงเทรา-กรุงเทพ เพื่อเตรียมความพร้อมของรถไฟก่อนจะเปิดให้บริการจริงในช่วงปลายปีนี้ โดยได้มีการนำคณะสื่อมวลชน เยี่ยมชมความก้าวหน้าการปรับปรุงรถดีเซลรางปรับอากาศ รุ่น KIHA 183 พร้อมกับทดลองเปิดเดินรถจากสถานีมักกะสัน-ฉะเชิงเทรา-กรุงเทพ ที่โรงงานรถไฟมักกะสัน เพื่อเสริมสร้างความพร้อมในทุกๆ ด้าน พร้อมกับได้เผยโฉมความสะดวกสบายด้านในตัวรถไฟ ที่ดูแล้วเหมือนกับได้นั่งรถไฟที่ญี่ปุ่นจริงๆ เลย สำหรับรถไฟ KIHA 183 นี้ ทางการรถไฟได้ทำการซื้อมาจากบริษัท Hokkaido Railway Company (JR HOKKAIDO) ประเทศญี่ปุ่น มาจำนวน 17 คัน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งประกอบด้วย รถดีเซลรางปรับอากาศ แบบมีห้องขับสูง (High Cab) 40 ที่นั่ง จำนวน 8 คัน รถดีเซลรางปรับอากาศ แบบไม่มีห้องขับ 68 ที่นั่ง จำนวน 8 คัน และรถดีเซลรางปรับอากาศ แบบมีห้องขับต่ำ (Low Cab) 52 ที่นั่ง จำนวน 1 คัน และได้มีการส่งมอบรถมาถึงเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2564 เพื่อทำการดัดแปลงเป็นตู้รถไฟ สำหรับให้บริการแก่ประชาชน และส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ ในช่วงปลายปีนี้ คาดว่าหากเปิดให้บริการเมื่อไหร่จะต้องเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทยอย่างแน่นอน ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook.travel,Peeranut P.
เมื่อช่วงเวลา 21.40 น. ของวันที่ 7 กันยายน 2565 ที่ผ่านมา ได้เกิดภาพประวัติศาสตร์ขึ้นในเมือไทย เมื่อเครื่องบิน Airbus A380 เครื่องบินโดยสารที่ได้ชื่อว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดของเมืองไทย ได้ลงจอดที่สนามบินดอนเมือง ประเทศไทย เป็นครั้งแรก เนื่องด้วยเหตุการณ์พายุฝนถล่มลงอย่างหนักในช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้เครื่องบิน Airbus ของสายการบิน Emirate เที่ยวบิน EK363 ไม่สามารถบินลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิตามกำหนดการเดิมได้ จึงต้องเปลี่ยนมาลงจอดที่สนามบินดอนเมืองแทน โดยมีรายงานว่าเครื่องิบนได้พยายามลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิเมื่อเวลา 20.43 น.แต่ไม่สำเร็จและได้ทำการบินขึ้นใหม่ และได้มีการพยายามลงจอดอีกถึง 2 ครั้ง ก่อนจะเปลี่ยนปลายทางมาจอดที่สนามบินดอนเมืองแทน ซึ่งนั่นทำให้เป็นครั้งแรกของสนามบินดอนเมืองที่ได้มีโอกาสได้รับเครื่อง Airbus A380 เป็นครั้งแรกและกลายเป็นภาพประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก : sanook.travel,Peeranut P.
|
AuthorWrite something about yourself. No need to be fancy, just an overview. Archives
January 2021
Categories |